VC หรือ Venture Capital เป็นอีกประเภทผู้ลงทุนที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงและความผันผวนจากการลงทุนตลอดเวลา ไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีก็ตาม ฉะนั้นการมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และมุมมองที่แม่นยำ จึงเป็น DNA ที่สำคัญมากๆ สำหรับผู้บริหาร VC
Beacon VC พิสูจน์ให้วงการได้เห็นถึงวิสัยทัศน์การลงทุนที่เน้นสตาร์ทอัพที่มีคุณภาพ และมีศักยภาพในการเติบโตเท่านั้น ชื่อชั้นของ Jitta และ Robowealth คือหลักฐานที่ชัดเจน
ทั้งนี้ Beacon VC เข้าลงทุนใน Jitta ตั้งแต่ต้นปี 2562 ในรอบ Pre-Series A และเมื่อต้นปี 2564 ก็ได้เข้าลงทุน Robowealth ในรอบ Series A โดยทั้ง Jitta และ Robowealth ต่างก็เป็นสตาร์ทอัพด้าน FinTech ที่มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีที่ส่งเสริมการลงทุนให้กับคนไทย
ธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC)
เปิดคุณสมบัติที่ใช้ ‘เฟ้นหา’ สตาร์ทอัพดาวเด่น
ธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC) กล่าวว่า หลักในการเลืองลงทุนในสตาร์ทอัพนั้น Beacon VC จะเน้นลงทุนเพื่อต่อยอดสู่บริการใหม่ๆ ให้กับธนาคารกสิกรไทย สามารถตอบโจทย์ให้ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ อีกทั้งยังคำนึงถึงมูลค่าตลาด และแนวโน้มการขยายตัวของตลาดนั้นๆ ในระยะกลางถึงยาว
โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราพบว่าตลาด Wealth มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ประกอบกับพัฒนาการของเทคโนโลยีที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว และเข้าถึงผู้ลงทุนได้อย่างแพร่หลาย Wealth Tech จึงเป็นกลุ่มสตาร์ทอัพดาวเด่น ที่สามารถต่อยอดบริการให้แก่ธนาคารได้ รวมถึงสามารถคาดหวังในเชิงผลตอบแทนจากการลงทุนได้ด้วย
คัดเลือก ‘ละเอียด’ ขึ้น โควิดช่วยกรอง
การปรากฏขึ้นของโควิดกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้หลายธุรกิจถูกแช่แข็งอย่างน้อย 1-2 ปี และ New Normal กลายเป็นวิถีชีวิตและวิถีธุรกิจใหม่ที่บีบบังคับให้ต้องปรับตัว ซึ่งไม่ใช่ทุกธุรกิจจะสามารถปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลงได้ทันสถานการณ์ จึงเปรียบได้ว่าวิกฤตโควิดทำให้สตาร์ทอัพที่เป็นตัวจริง เด่นชัดขึ้นในมอนิเตอร์ของ VC
Beacon VC เองได้พิสูจน์แล้วว่าเลือกไม่ผิดที่จะเข้าเป็นพาร์ตเนอร์ใน Wealth Tech สตาร์ทอัพ ซึ่ง Jitta คือบทพิสูจน์แรก และ Robowealth คือการตอกย้ำวิสัยทัศน์ที่แน่วแน่
ด้วยมูลค่าตลาด Wealth ในประเทศไทยที่อยู่ราว 6 ล้านล้านบาท หลายสตาร์ทอัพจึงเกิดขึ้นเพื่อชิงชิ้นเค้กก้อนนี้ ทำให้มีการแข่งขันเกิดขึ้นตลอดเวลา และเมื่อถูกกดดันจากสถานการณ์โควิด ที่ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป อีกทั้งทำให้สายป่านหรือกระแสเงินสดในการดำเนินธุรกิจขาดมือฉับพลัน ผู้ที่ยังสามารถเติบโตได้ และสร้างแกนกลยุทธ์ของตัวเองได้ จึงขึ้นแท่นดาวเด่นอย่างไม่มีข้อสงสัย
เปิดจุดเด่น ‘2 Wealth Tech’
Beacon VC เห็นแนวโน้มและศักยภาพในการเติบโตของตลาดในกลุ่มเทคโนโลยีการลงทุน (Wealth Tech) ซึ่งกำลังมีบทบาทและความสำคัญมากขึ้นในตลาดทั่วโลก โดย Jitta ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้อย่างโดดเด่นที่สุด ด้วยอัลกอริทึมวิเคราะห์หุ้นที่มีศักยภาพสูง และฐานผู้ใช้งานที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือผู้ก่อตั้งและทีมงานของ Jitta ที่มุ่งมั่นสร้างเทคโนโลยีเพื่อผู้ใช้งานอย่างแท้จริง และมีแผนธุรกิจที่ชัด ทำให้มองเห็นเป้าหมายการเติบโตที่สอดคล้องกัน
ส่วน Robowealth เป็นสตาร์ทอัพที่มีเทคโนโลยีด้านการลงทุนที่ก้าวหน้าที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีแอปพลิเคชันด้านการลงทุนที่หลากหลาย จึงเป็นการร่วมผนึกกำลังสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ เพื่อให้สามารถขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นและเร็วขึ้น รวมทั้งเพิ่มทางเลือกและโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าของธนาคาร
2 WealthTech เผย ‘พาร์ตเนอร์’ สร้างแรงขับเคลื่อนสำคัญ
ในการสร้างธุรกิจของสตาร์ทอัพ กระแสเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจมีความสำคัญอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ก็ว่าได้ การได้ผู้ร่วมลงทุนจึงเป็นก้าวแรกและก้าวหลักในการผลักดันธุรกิจให้เกิดการเติบโต แต่การได้ผู้ร่วมลงทุนที่มีความเป็นพาร์ตเนอร์ และมี Synergy ทางธุรกิจด้วย จะเรียกได้ว่าเป็นก้าวแรกและก้าวหลักที่ก้าวกระโดด
ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Jitta
ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Jitta กล่าวว่า Beacon VC ไม่ได้มอบโอกาสให้กับ Jitta ด้วยเงินลงทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นพาร์ตเนอร์ที่สำคัญที่ช่วยสร้างก้าวที่กระโดด หรือ Scale up ของ Jitta ผ่านการตั้งเป้าหมายการเติบโต รวมถึงช่วยสร้างรูปแบบการทำงานที่มีระบบ และสามารถติดตาม (Tracking) ขั้นตอนได้ และวัดผลสำเร็จของงานได้ ทำให้สตาร์ทอัพมีการทำงานหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น
นอกเหนือจากการตั้งเป้าหมายการเติบโตของสตาร์ทอัพที่ทุก VC ยึดเป็นบทบาทหลักแล้ว Beacon VC ยังมีความเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจเสริมเข้ามาด้วย เนื่องจาก Beacon VC อยู่ในเครือธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดด้านการเงินของประเทศไทย การผสมผสานและผลักดันบริการใหม่ๆ ให้กับลูกค้าธนาคาร โดยอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของ Jitta จึงเกิดขึ้นได้ง่าย และส่งมอบบริการ (On board) ได้รวดเร็ว ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในจุดแข็งของ Jitta ในปัจจุบัน
ตราวุทธิ์กล่าวเพิ่มว่า ภายหลังได้รับเงินลงทุน ผสาน DNA การทำงาน และแบ่งปันเป้าหมายการเติบโตรวมกัน Jitta มั่นใจว่าจะเป็นหนึ่งในทางเลือกใหม่ด้าน Wealth Tech ที่ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนในไทยและอาเซียนมากขึ้น และจะ Scale up ธุรกิจของ Jitta ได้ตามเป้าหมาย
พสุ ลิปตพัลลภ ผู้บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน โรโบเวลธ์ จำกัด
สอดคล้องกันกับ พสุ ลิปตพัลลภ ผู้บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน โรโบเวลธ์ จำกัด ที่กล่าวว่า การได้พาร์ตเนอร์ชั้นนำอย่าง Beacon VC ทำให้สตาร์ทอัพ Wealth Tech มีโอกาสเติบโตได้สูงและเร็วขึ้น ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนของ Beacon VC ที่เน้นเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพที่มี Synergy กับธนาคารซึ่งเป็นบริษัทแม่ เพื่อ On board บริการสู่ลูกค้าธนาคารและลูกค้าในเครือได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของสตาร์ทอัพ
ขณะเดียวกัน Beacon VC เองก็มีข้อมูลความต้องการของลูกค้าในกลุ่ม Wealth ทำให้สตาร์ทอัพอย่าง Robowealth สามารถสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้
“โจทย์และเป้าหมายที่ชัดเจน เครือข่าย และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน คือ 3 ตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Beacon VC และ Robowealth ได้แบ่งปันเป้าหมายธุรกิจร่วมกันได้ แน่นอนว่าสำหรับสตาร์ทอัพแล้ว เงินลงทุนเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น แต่ก็ไม่มากไปกว่าพาร์ตเนอร์ที่เข้าลงทุนด้วยความเข้าใจ DNA ของสตาร์ทอัพ มีโจทย์และเป้าหมายที่ชัด และพร้อมจะสร้างก้าวที่กระโดดไปด้วยกัน” พสุกล่าวปิดท้าย