เกิดอะไรขึ้น:
วานนี้ (26 กุมภาพันธ์) บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่าบริษัทจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด (Tender Offer) ของ บมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขที่ราคา 125 บาทต่อหุ้น (สูงกว่าราคาปิดเมื่อวานนี้ 12%DoD)
ทั้งนี้ ปัจจุบัน BDMS ถือหุ้นใน BH จำนวน 182.5 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครอง 24.99% โดยจำนวนหุ้นที่เหลือของ BH ซึ่ง BDMS ต้องการทำคำเสนอซื้อทั้งหมดมีจำนวน 684.90 ล้านหุ้น ซึ่งประกอบด้วย:
1.หุ้นสามัญจำนวน 543.328 ล้านหุ้น (สัดส่วน 74.83% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด)
2.หุ้นบุริมสิทธิจำนวน 1.2 ล้านหุ้น (สัดส่วน 0.17% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด)
3.หุ้นกู้แปลงสภาพทั้งหมด ซึ่งแปลงสิทธิ์เป็นหุ้นสามัญของ BH ได้จำนวน 137.362 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ ราคาเสนอซื้ออาจถูกปรับขึ้นได้ไม่เกิน 20% ของราคาเสนอซื้อที่ระบุ โดยในกรณีที่มีการปรับราคาเสนอซื้อ มูลค่ารวมของการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จะอยู่ระหว่าง 8.56 หมื่นล้านบาท – 1.02 แสนล้านบาท
ในการซื้อหุ้น BH ของ BDMS ครั้งนี้ จะใช้แหล่งทุนเงินจากสินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งในปัจจุบัน BDMS มีภาระหนี้สินในระดับต่ำด้วยอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.23 เท่า หากอิงตามอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน 1.75 เท่า ตามข้อกำหนดการก่อหนี้ BDMS จะสามารถกู้เงินเพิ่มได้อีก 1.30 ล้านบาท
โดยขั้นตอนต่อไป BDMS จะต้องขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น ซึ่งจะจัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 10 เมษายน 2563
สำหรับธุรกรรมนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานและโครงสร้างองค์กรของทั้ง BDMS และ BH เนื่องจาก BDMS ต้องการลงทุนใน BH ระยะยาว และไม่ต้องการมีอำนาจควบคุมในกิจการของ BH
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (27 กุมภาพันธ์) ราคาหุ้น BH ปรับเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 133.00 บาท เพิ่มขึ้น 18.75%DoD จากราคาปิดวันก่อนหน้าที่ 112.00 บาท พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น และในช่วงบ่ายราคาหุ้นลงมาเคลื่อนไหวในกรอบ 127-129.00 บาท ขณะที่ราคาหุ้น BDMS ปรับตัวขึ้นราว 4%DoD ตามทิศทาง SET Index ที่ฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากปรับตัวลงแรงเมื่อวานนี้
มุมมองระยะสั้น:
SCBS มองว่า ประเด็นนี้เป็นเพียง Sentiment เชิงบวกระยะสั้นต่อราคาหุ้น BH เนื่องจากราคาเสนอซื้อสูงกว่าราคาตลาดวานนี้ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังเหมือนเดิม
อย่างไรก็ดี ทิศทางผลประกอบการของ BH ในช่วงครึ่งแรกของปี 63 ยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากปัจจุบัน BH มีรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติที่เดินทางมารักษาในไทยคิดเป็น 65% ของรายได้
สำหรับ BDMS ทาง SCBS มองว่า ในแง่ของปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ทิศทางผลประกอบการในครึ่งปีแรกจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่นกัน เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติ 30%
ในระยะสั้นต้องติดตามการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายเร็วกว่าที่คาดจะ Sentiment บวกต่อทิศทางตลาดหุ้นโดยรวม
มุมมองระยะยาว:
SCBS คาดว่า ผลประกอบการของ BDMS, BH จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในครึ่งหลังของปี 63 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่น่าจะเริ่มคลี่คลายลง ขณะที่ระยะยาวต้องติดตามการลงทุนในโครงการใหม่ของทาง BDMS รวมถึงการเพิ่มขึ้นของอุปทานของโรงพยาบาลเอกชน (จำนวนเตียง) หลังผู้บริหาร BDMS เผยว่า กำลังจับตากับสิ่งนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม:
หมายเหตุ %DoD คือ % การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับวันทำการก่อนหน้า
ข้อมูลเพิ่มเติมด้านการวิเคราะห์สถานการณ์โรคโควิด-19 สามารถอ่านได้ที่บทวิเคราะห์ ‘โรคโควิด-19…แรงกว่าที่คาด เร็วกว่าที่คิด’ จาก SCBS
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล