ร้านอาหารดีๆ ไม่ได้มีอยู่แค่เพียงแถวสุขุมวิทหรือสาทร แต่หมุดหมายใหม่ของนักกินได้ขยายมาสู่ถนนนราธิวาสฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และร้านใหม่อย่าง Nan Charcoal Grill (แนน ชาร์โคล กริลล์) ก็เป็นหนึ่งในแรงดึงดูดที่ทำให้เราตรงมายังถนนสายนี้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชื่อของร้านมาจากชื่อเล่นของผู้ก่อตั้งคือ คุณแนน-วิมวดี ปิยะวานิชย์ เชฟสาวไฟแรงที่เริ่มต้นการครัวด้วยทักษะแบบติดลบ เธอคืออดีตเด็กฝึกงานร้านข้าวที่ตามตื๊อแกมอ้อนวอนขอ เชฟวิชิต มุกุระ ผู้โด่งดังด้านอาหารไทยเข้าไปทำงานโดยไม่ขอรับเงินค่าแรงเลยสักบาท แน่นอนว่าแผนกล้างจานและเช็ดถูพื้นคือตำแหน่งแรกของเธอ ก่อนจะขยับมาสู่เด็กจ่ายตลาดและเตรียมวัตถุดิบ ซึ่งนี่เป็นแผนการลองใจของคุณพ่อที่อยากรู้ว่าเธอรักการทำอาหารจริง หรือต้องการเปิดร้านอาหารเพราะเป็นแฟชั่น
แนน-วิมวดี ปิยะวานิชย์ เชฟสาวไฟแรง (คนกลาง) และทีมครัวของเธอ
“แนนเป็นคนชอบกิน ก็เลยอยากเปิดร้านอาหาร เคยบินไปติดต่อแฟรนไชส์ร้านอาหารจากเกาหลีเรียบร้อยแล้ว แต่สุดท้ายที่บ้านไม่อนุมัติ คุณพ่อคุณแม่เห็นตรงกันว่าถ้าอยากเปิดร้านอาหาร แต่ทำอาหารไม่เป็นก็อย่าทำเลย อีกอย่างท่านไม่รู้ว่าเราชอบจริงหรืออยากทำเป็นแฟชั่นหรือเปล่า ท่านก็เลยออกกฎเหล็กว่าต้องทำอาหารให้เป็นก่อนจึงจะเปิดร้านได้ ซึ่งเอาจริงๆ ตอนนั้นแค่ล้างจานก็ทำไม่เป็น แยกผักชีกับต้นหอมนี่อย่าหวัง แต่สำหรับแนนคิดว่าถ้าจะไปเรียนทำอาหาร แต่ไม่รู้เรื่องเหล่านี้เลยมันไม่ได้ ก็เลยขอเข้าไปฝึกงานในร้านให้รู้เบื้องต้นก่อน สุดท้ายก็ไปเรียนต่อที่ Escoffier”
หลังจากเรียนจบกลับมาเมืองไทย คุณแนนก็เริ่มวางแผนจะเปิดร้านอาหาร และด้วยความที่อยู่ฝรั่งเศสมานาน ทำให้อาหารฝรั่งเศสเป็นตัวเลือกแรกของเธอ ทว่าจุดที่ทำให้เธอต้องลังเลคือมื้อพิเศษที่เธอตั้งใจทำให้ที่บ้านกินหลังเรียนจบ ปรากฏว่าทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต่างก็เซย์โนกับความครีมมี่ ความหนักของอาหารฝรั่งเศสที่เธอทำ เธอจึงปรับแนวทางใหม่โดยเปิดร้านอาหารที่ทุกคนในบ้านสามารถมากินได้ ซึ่งคำตอบก็มาออกที่อาหารสเปน ที่มี เชฟเดีย-วารินทร โพธิสุวรรณ และเชฟคาร์ลอส หยาว ชาวบาร์เซโลนาเข้ามาร่วมทีม
“เอาจริงๆ นะ อาหารสเปนสำหรับแนนมันท้าทายมาก มันไม่ได้ใกล้ตัวคนไทยเหมือนอาหารอิตาลี ญี่ปุ่น นั่นแปลว่าถ้าชอบจะชอบเลย ถ้าใครไม่คลิกก็จะไม่มา”
ร้านเล็กๆ บรรยากาศน่ารัก มีไม่กี่ที่นั่ง
จึงควบคุมคุณภาพของอาหารด้วยความใส่ใจ
The Vibe
ด้านในตกแต่งด้วยสีออกไปทางทองแดง แต่ด้วยการใส่ครัวเปิดลงไปตรงกลางก็ทำให้สีทองแดงกลายเป็นความอบอุ่นสไตล์โฮมมี่ขึ้นมาได้ ผนังด้านหนึ่งของร้านทำเป็นบานหน้าต่างสีขาวรับแสงธรรมชาติ และเมื่ออากาศเย็นแวะผ่านมาทักทายกรุงเทพฯ เมื่อไรก็สามารถเปิดบานหน้าต่างออก กลายเป็นที่นั่งเอาต์ดอร์ในสวนเขียวขนาดย่อม ชิลล์เพิ่มขึ้นไปอีก
The Dish
อาหารสเปนแบบฉบับคุณแนนได้แรงบันดาลใจมาจาก Basque Cuisine ซึ่งเป็นอาหารทางตอนเหนือที่ติดกับชายแดนฝรั่งเศสทางตอนใต้ โดยมีความสดใหม่ของซีฟู้ดและความจัดจ้านของพริกปาปริก้าเป็นตัวชูรส โดยสิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณแนนเลือกอาหารสเปนเพราะใช้เนยน้อยมาก ใช้เทคนิคการย่างกับถ่านไม้เสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนี่คืออาหารที่ผู้สูงวัยอย่างคุณพ่อของเธอกินได้ ที่สำคัญ พริกแบบฉบับสเปนให้ความเผ็ดที่ไม่ได้มาพร้อมกับความร้อนเหมือนพริกเมืองไทย ซึ่งตัวคุณแนนเองเป็นคนแพ้ความเผ็ดร้อนของพริกเมืองไทยด้วยเช่นกัน
วัตถุดิบของทางร้านเน้นไปที่เมนูเนื้อที่มีทั้งแกะ หมูสเปน และเนื้อวัววากิวออสเตรเลีย ส่วนวัตถุดิบจากทะเลนั้นมาจากทะเลในเมืองไทย ยกเว้นหมึกยักษ์ (octopus) ที่ยังคงนำเข้าจากสเปนเพื่อคงความเหนียวหนึบและเท็กซ์เจอร์ระหว่างเคี้ยว ซึ่งนั่นทำให้เมนู Charcoal-Grilled octopus from Spain with Confit Potato (450 บาท) ติดอันดับขายดีพอๆ กับเมนูกุ้ง Gamba Pil Pil (250 บาท) ที่ใช้กุ้งตัวเล็ก เนื้อแน่น รสหวาน มาผัดกับกระเทียมและพริกแห้งฉ่ำด้วยน้ำมันมะกอก อร่อยจนต้องเอาขนมปังโฮมเมดของทางร้านมาปาดน้ำมันมะกอกจนแทบหมดจาน
มาถึงร้านอาหารสเปนทั้งที ต้องไม่ลืมสั่งข้าวผัดสเปน หรือ Classic Paella (390 บาท) ที่ทางร้านใช้ข้าวจากสเปนที่เรียกว่า Bomba มาต้มกับน้ำสต็อกซีฟู้ดที่ให้ความเค็มของท้องทะเลแบบพอเหมาะพอดี แถมเนื้อข้าวไม่แตกบานแบบข้าวต้ม กินกับไวน์สเปนเข้ากันเป็นอย่างมาก ส่วนเมนูขนมหวานนั้นแม้จะมีให้เลือกไม่มาก แต่ก็จัดอยู่ในไฮไลต์ได้เช่นกัน ที่ชอบมากต้องยกให้ วิสกี้ทาร์ต (250 บาท) ที่ราดวิสกี้พรีเมียมลงไปตัดรสหวานของทาร์ตได้อย่างลงตัว
The Drinks
ไวน์ปั่น (125 บาท) คือเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยที่ทางร้านแนะนำ ซึ่งไวน์ปั่นนี้เป็นไอเดียมาจากเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยที่ชาวสเปนนิยมดื่มก่อนอาหาร แต่ด้วยความที่เมืองไทยอากาศร้อน คุณแนนจึงเปลี่ยนมาสร้างความเย็นสดชื่นด้วยไวน์ปั่น ส่วนระหว่างมื้อ แนะนำเป็นไวน์จากสเปนที่ช่วยเสริมรสเครื่องเทศแบบสเปนได้อย่างอยู่หมัด และสำหรับใครที่ต้องการนั่งจิบไวน์ชิลล์ๆ เป็นหลัก สามารถนั่งโต๊ะตรงเคาน์เตอร์บาร์ พร้อมสั่งทาปาสสเปนคำเล็กๆ มารองท้องได้เช่นกัน
Nan Charcoal Grill
Open: จันทร์-เสาร์ เวลา 17.30-23.30 น. อาทิตย์ เวลา 11.00-14.00น.
Address: ICON SIAM กรุงเทพฯ
Budget: ราคาเฉลี่ย 1200 บาท
Contact: โทร. 09 5816 9168
Website: www.nancharcoalgrill.com
Map: