บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 กุมภาพันธ์) เปิดผลประกอบการของบริษัทในปี 2562 พบมีรายได้จากการขายรวม 2,759 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 85,660 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 21% ส่วนกำไรสุทธิก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนคิดเป็นจำนวน 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,329 ล้านบาท ลดลง 66% จากปีก่อนหน้า
สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้กำไรสุทธิก่อนผลกระทบจากอัตราการแลกเปลี่ยนของบ้านปูลดลงมากถึง 66% เป็นผลมาจากการแข็งค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดผลขาดทุนจากการแปลงค่างบการเงินจำนวน 95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,950 ล้านบาท งบการเงินรวมจึงได้บันทึกขาดทุนสุทธิจำนวน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประมาณ 621 ล้านบาท
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2563 นี้ บ้านปูเตรียมเดินหน้าด้วยกลยุทธ์ Greener & Smarter สร้างการเติบโตธุรกิจพลังงานสีเขียวด้วยการเพิ่มสัดส่วนธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และจัดตั้ง ‘บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด’ เพื่อพัฒนาและต่อยอดธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานให้สอดรับกับเทรนด์พลังงานแห่งโลกอนาคต
โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ได้ลงทุน 770 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 23,907 ล้านบาท เข้าซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ ในเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีอุปสงค์การใช้ก๊าซธรรมชาติมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 15% ของความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติรวมของประเทศ ส่งผลให้บ้านปูก้าวขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 20 อันดับแรกของสหรัฐอเมริกา ทั้งยังมีโอกาสคืนทุนได้เร็ว โดยคาดการณ์ว่าสามารถคืนทุนให้บ้านปูภายใน 6 ปี ขณะที่มีปริมาณสำรองการผลิตระยะยาวอย่างน้อย 16 ปี
ส่วนบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด (ทุนจดทะเบียน 7,919 ล้านบาท) ที่ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา จะดำเนินงานเป็นบริษัทหลัก (Flagship) ของกลุ่มบริษัทบ้านปูเพื่อมุ่งลงทุนและพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงาน เช่น การดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน, การให้บริการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด, การออกแบบและผลิตยานยนต์ไฟฟ้า, การผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ไฟฟ้า, ระบบกักเก็บพลังงาน และระบบการจัดการเทคโนโลยีพลังงาน เพื่อเสริมทัพสมาร์ทโซลูชันด้านพลังงานอย่างครบวงจร
สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าแนวโน้มธุรกิจพลังงานในช่วงปี 2562 สะท้อนถึงความท้าทายจากปัจจัยต่างๆ ทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าของประเทศคู่กรณี ความต้องการใช้พลังงานชะลอตัวจากปัจจัยสภาวะอากาศที่ไม่หนาวเย็นนักในช่วงฤดูหนาวของซีกโลกเหนือ และการแข็งค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่อง
“เรายังคงเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งและสมดุลให้กับระบบนิเวศทางธุรกิจระหว่างกลุ่มธุรกิจต่างๆ ทั้งกลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน มุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่ตอบรับกับเทรนด์พลังงานแห่งโลกอนาคตที่สนับสนุนการผลิตและการใช้พลังงานสะอาด รวมถึงการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้อย่างชาญฉลาด ซึ่งจะเริ่มได้เห็นความคืบหน้าทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2563
“ในวันที่บ้านปูกำลังก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 4 กลยุทธ์ Greener & Smarter รวมถึงการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้อย่างชาญฉลาด การสร้างแพลตฟอร์มทางธุรกิจที่เอื้อประโยชน์และส่งเสริมซึ่งกันและกันระหว่างกลุ่มธุรกิจคือหัวใจหลักในการเดินหน้าสร้างการเติบโตที่ตอบรับกับเทรนด์พลังงานแห่งโลกอนาคตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว เราจะยังคงยืนหยัดก้าวข้ามความท้าทายทั้งหลายเพื่อแสดงความเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานแบบครบวงจร”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์