สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างถึงคำเตือนของ José Manuel Campa หัวหน้า European Banking Authority (EBA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลการธนาคารในยุโรป ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นของเยอรมนี ยอมรับว่า ปัญหาเสถียรภาพของธนาคารในยุโรปยังไม่คลี่คลาย และยังคงมีความเสี่ยงจากกรณีที่ Silicon Valley Bank ล่มสลาย และการช่วยเหลือฉุกเฉินของ Credit Suisse โดย UBS
Campa กล่าวว่า ความเสี่ยงในระบบการเงินยังคงอยู่ในระดับสูง จากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งอธิบายเพิ่มว่า การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของอัตราดอกเบี้ยไม่เพียงเพิ่มต้นทุนการดำเนินงานของธนาคารในการสร้างรายได้เท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงด้วย
รายงานข่าวระบุว่า ขณะที่ทาง EBA กำลังจับตาดูประเด็นการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงในงบดุลของธนาคาร หลังมีตัวอย่างจากกรณีของ Silicon Valley Bank ที่ส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ต้องล้มละลาย มาจากการขาดทุนอย่างหนักจากการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จนไปทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้น
โดยขณะนี้ หน่วยงานกำกับดูแลกำลังสรุปผลการศึกษาผลกระทบของความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยต่อธนาคารในยุโรป ซึ่งเริ่มดำเนินการในฤดูใบไม้ร่วง โดย Campa กล่าวว่า การสอบสวนยังไม่สรุป แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบสถาบันขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยงในการชำระหนี้อย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม Campa ยอมรับว่า หน่วยงานกำกับดูแลและนักลงทุนก็ยังมีความเสี่ยงจากช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นในภาคการธนาคาร
ทั้งนี้ การล่มสลายของ SVB เกิดจากการสูญเสียความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อตัวธนาคาร ทำให้การคาดการณ์ของนักวิเคราะห์กลายเป็นความจริง เมื่อลูกค้ากระจายสัญญาณเตือนภัยบนโซเชียลมีเดียและพากันแห่ไปถอนเงินสดจากธนาคาร (Bank Run)
ในขณะเดียวกัน ปีแห่งการจัดการที่ผิดพลาดและเรื่องอื้อฉาวที่ Credit Suisse ทำให้เหล่านักลงทุนรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับธนาคารในวงกว้าง ซึ่งการล่มสลายของความเชื่อมั่นในหมู่นักลงทุนและลูกค้าของธนาคารเอง และท้ายที่สุดก็นำไปสู่การขายกิจการอย่างรวดเร็วให้กับ UBS คู่แข่งรายใหญ่ของ Credit Suisse เนื่องจากทางการสวิตเซอร์แลนด์เริ่มกังวลมากขึ้นว่าการล่มของ Credit Suisse อาจก่อให้เกิดวิกฤตการเงินในวงกว้างอย่างที่คาดไม่ถึงได้
ความกังวลของ Campa เริ่มมีเค้าโครงความจริงมากขึ้น เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง Deutsche Bank ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนีประสบปัญหาที่คล้ายคลึงกับกรณีของ Credit Suisse โดยทันทีที่มีรายงานของ Deutsche Bank หุ้นของธนาคารก็ร่วงลงอย่างหนักด้วยเช่นกัน
หลายฝ่ายมองว่าหลายปีที่ผ่านมา Deutsche Bank เป็นเสมือนเด็กมีปัญหาจากการขาดทุนต่อเนื่องหลายพันล้านดอลลาร์ และตามหลังคู่แข่งที่ใหญ่กว่าในวอลล์สตรีทซึ่ง Deutsche Bank เองก็ได้พยายามจัดการกับเรื่องอื้อฉาวของตัวเองมาโดยตลอด มีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์หลายครั้ง ซึ่งรวมถึงการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ และการปลดพนักงานจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม Christian Sewing ซีอีโอของ Deutsche Bank แย้งว่าธนาคารสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างแข็งแกร่งแล้ว ยืนยันได้จากรายงานที่แสดงให้เห็นว่าผลกำไรก่อนหักภาษีประจำปีขยับสูงสุดในรอบ 15 ปีเมื่อเดือนที่แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หุ้นธนาคารหลายแห่งในยุโรปหยุดการซื้อขายชั่วคราว หลังราคาหุ้นปรับตัวลงตอบรับความเสี่ยงร้ายแรงของ Credit Suisse ที่ดิ่งลง 25%
- SVB ล่มเป็นเหตุ ‘Moody’s’ หั่น Outlook ระบบธนาคารสหรัฐฯ เป็นลบ หวั่นเสถียรภาพสั่นคลอน
- รอดหวุดหวิด! ‘ปีเตอร์ ธีล’ ผู้บริหารกองทุน Founders Fund ถอนเงินฝากของกองทุน ออกมาจาก ‘SVB’ ได้ทัน ก่อนธนาคารปิดตัว
อ้างอิง: