×

ธนาคารกลางอังกฤษอาจขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 1% สูงสุดรอบ 13 ปี ในสัปดาห์นี้

03.05.2022
  • LOADING...
ธนาคารกลางอังกฤษ

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ในสัปดาห์นี้บรรดานักลงทุนและนักเศรษฐศาสตร์หลายรายคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) อาจจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี รวมทั้งเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนในการขายพันธบัตรรัฐบาลที่ถือครองอยู่ราว 8.47 แสนล้านปอนด์ หรือราว 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ 

 

อย่างไรก็ตาม การขายพันธบัตรที่ถือครองอยู่นี้เป็นสิ่งที่ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ไม่ได้ทำมาก่อนเลยนับแต่ปี 2008 

 

ธนาคารกลางของอังกฤษซึ่งนำโดยผู้ว่าการ Andrew Bailey จำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมอัตราเงินเฟ้อพร้อมๆ กับการบริหารความเสี่ยงที่การขึ้นดอกเบี้ยจะไปกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

 

Silvia Dall’Angelo นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Federated Hermes กล่าวว่า ธนาคารกลางของอังกฤษอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เนื่องจากสงครามในยูเครนได้ซ้ำเติมสถานการณ์เศรษฐกิจที่กำลังเติบโตช้าไปพร้อมๆ กับเงินเฟ้อที่สูงขึ้น

 

ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์ว่าสมาชิกทั้ง 9 รายของธนาคารกลางอังกฤษจะมีมติให้ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในวันพฤหัสบดีนี้ (5 พฤษภาคม) หนุนให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นเป็น 1% ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 และเป็นอัตราดอกเบี้ยในระดับเดียวกับเมื่อปี 2009 ซึ่งธนาคารกลางของอังกฤษกำลังลดต้นทุนการกู้ยืมลงหลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

 

การขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% หมายความว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของอังกฤษจะแตะระดับที่ธนาคารกลางอังกฤษเคยบอกไว้ว่าเป็นจุดที่จะเริ่มขายพันธบัตรออกมา 

 

อย่างไรก็ดี Martin Weale ซึ่งเคยทำงานร่วมกับธนาคารกลางอังกฤษในฐานะผู้กำหนดอัตราดอกเบี้ย มองว่าธนาคารกลางอังกฤษอาจไม่เร่งมือในการลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) 

 

ขณะที่ Elizabeth Martins นักเศรษฐศาสตร์ของ HSBC Holdings มองไปในทิศทางเดียวกันว่า BOE อาจเปิดให้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นก่อนในเดือนพฤษภาคม ก่อนจะออกรายงานในเดือนสิงหาคมว่าจะดำเนินการเมื่อไรและอย่างไรสำหรับการขายสินทรัพย์ออกมา

 

“เมื่อได้ข้อสรุปเกี่ยวกับความคิดเห็น สภาพคล่อง และเงื่อนไขทางการเงินต่างๆ เราคิดว่าการขายสินทรัพย์จะเริ่มต้นที่เดือนละประมาณ 4-5 พันล้านปอนด์ต่อเดือน” Martins กล่าว 

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X