×

กทม. เก็บค่าบำบัดน้ำเสียปีหน้า รอนานกว่า 20 ปี หลังแบกค่าใช้จ่ายปีละ 800 ล้านบาท เริ่มที่กลุ่มโรงแรม-หน่วยงานรัฐ

โดย THE STANDARD TEAM
25.09.2023
  • LOADING...
กรุงเทพมหานคร เก็บ ค่าบำบัดน้ำเสีย ปีหน้า

“น้ำประปาเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนกรุงเทพฯ ปัจจุบันเราใช้น้ำอยู่ประมาณ 2 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เมื่อใช้เสร็จก็กลายเป็นน้ำเสีย บางส่วนเอกชนก็จะบำบัดเอง บางส่วนก็ส่งไปบำบัดรวมที่ส่วนกลาง หรือที่โรงบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานครที่มีอยู่ทั้ง 8 แห่ง ซึ่งที่ผ่านมากรุงเทพมหานครไม่ได้จัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสีย แต่มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินการถึงปีละ 800 ล้านบาท ขีดความสามารถในการบำบัดคือ 1.2 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่ยังไม่ครอบคลุมทั้ง 100% ทำได้เพียง 37%” ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการสนับสนุนการปฏิบัติงานเพื่อการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียระหว่างกรุงเทพมหานครกับการประปานครหลวง โดยมี มานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปานครหลวง ร่วมลงนามในวันนี้ (25 กันยายน) 

 

“การเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียครั้งนี้ไม่ได้รบกวนประชาชน แต่เป็นการเก็บจากผู้ประกอบการที่มีขนาดใหญ่ โดยคิดคำนวณจากน้ำดีที่ใช้ ประมาณ 80% ที่นำมาคำนวณ โดยได้รับการสนับสนุนข้อมูลน้ำมาจากการประปานครหลวง การนำมาตรวัดน้ำดีมาใช้เป็นไปตามหลักสากล ฝากถึงประชาชนไม่ต้องกังวล เพราะการจัดเก็บจากที่พักอาศัยของประชาชนยังไม่มีอยู่ในแผน เฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ที่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ระยะแรกคาดว่าจะจัดเก็บได้ประมาณ 200 ล้านบาท ยังมีส่วนต่างอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม หัวใจคือ PPP หรือ Polluter Pays Principle ผู้สร้างมลภาวะต้องเป็นผู้จ่ายเพื่อให้เกิดความยุติธรรม ไม่ให้เกิดการนำภาษีของประชาชนส่วนรวมมาจ่าย และเป็นการกระตุ้นให้คนใช้น้ำน้อยลง” ชัชชาติกล่าวเพิ่มเติม

 

ด้านมานิตกล่าวว่า การประปานครหลวงเห็นด้วยกับกรุงเทพมหานครตามหลักการที่ว่าผู้ที่ก่อให้เกิดมลภาวะต้องมีส่วนร่วม ความร่วมมือในครั้งนี้ การประปานครหลวงพร้อมสนับสนุนข้อมูลให้กับกรุงเทพมหานครเพื่อนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์กับการจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสีย ซึ่งอนาคตอาจมีความร่วมมือเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำเสียอื่นๆ เพิ่มเติมอีก

 

ขณะที่ วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานครในครั้งนี้คาดว่าจะเริ่มจัดเก็บได้ในต้นปีหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน โดยการจัดเก็บแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ สำนักงาน และสถานประกอบการที่ใช้น้ำจำนวนไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตร จะเก็บในอัตรา 4 บาทต่อลูกบาศก์เมตร แต่สถานประกอบการหรือโรงแรมขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำเกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตร จะเก็บในอัตรา 8 บาทต่อลูกบาศก์เมตร สำหรับวิธีการจัดเก็บ กรุงเทพมหานครจะเป็นผู้ออกใบแจ้งหนี้เอง โดยในอนาคตจะหารือการประปาเพื่อให้การออกใบแจ้งหนี้เป็นใบเดียวกัน ในส่วนของสถานประกอบการหรือโรงแรมที่มีระบบบำบัดน้ำเสียที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเองแล้วอาจไม่ต้องจ่ายค่าบำบัดนี้ และในส่วนของสถานประกอบการที่ตั้งอยู่นอกพื้นที่บริการของโรงบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานครทั้ง 8 แห่ง ก็ยังไม่ต้องจ่ายค่าบำบัดเช่นกัน

 

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้ออกข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 โดยที่ผ่านมาผู้แทนของกรุงเทพมหานครและการประปานครหลวงได้หารือร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างทั้ง 2 หน่วยงานเป็นไปตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 

 

สำหรับรายละเอียดความร่วมมือตามบันทึกข้อตกลงมีดังต่อไปนี้ 

 

  1. กรุงเทพมหานครสนับสนุนข้อมูลรหัสประจำบ้าน (House ID) แก่การประปานครหลวง เพื่อการให้บริการของการประปานครหลวงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตาม พ.ร.บ.การประปานครหลวง พ.ศ. 2510 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

 

  1. การประปานครหลวงตกลงให้ความร่วมมือกับกรุงเทพมหานครในการสนับสนุนข้อมูลการใช้น้ำรายเดือนในพื้นที่บริการบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานคร ที่กรุงเทพมหานครประกาศจัดเก็บ เพื่อเป็นฐานข้อมูลใช้ประกอบในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย เช่น ข้อมูลปีอ่านน้ำ เดือนอ่านน้ำ รหัสประจำบ้าน รหัสประเภทบุคคล ทะเบียนผู้ใช้น้ำ รหัสสถานะผู้ใช้น้ำ รหัสประเภทผู้ใช้น้ำ ชื่อผู้ใช้น้ำ สถานที่ใช้น้ำ ปริมาณการใช้น้ำประจำเดือน หรือข้อมูลอื่นตามที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงร่วมกัน

 

  1. กรุงเทพมหานครและการประปานครหลวงจะสนับสนุนในการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลร่วมกัน เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงระบบข้อมูลระหว่างหน่วยงานได้

 

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงเก็บรักษาข้อมูลทั้งหมดตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ให้เป็นความลับ 

 

พื้นที่บริการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียในพื้นที่บริการบำบัดน้ำเสียของโรงควบคุมคุณภาพน้ำ จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ สี่พระยา รัตนโกสินทร์ ช่องนนทรี หนองแขม ทุ่งครุ ดินแดง จตุจักร และศูนย์การศึกษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ครอบคลุมพื้นที่ 22 เขตการปกครอง ได้แก่ เขตพระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ บางรัก สาทร บางคอแหลม ยานนาวา ดินแดง ราชเทวี พญาไท ปทุมวัน บางซื่อ จตุจักร ห้วยขวาง หลักสี่ หนองแขม บางแค ภาษีเจริญ ดุสิต ทุ่งครุ จอมทอง และราษฎร์บูรณะ

 

การคิดค่าบริการ คิดปริมาณน้ำเสียที่ร้อยละ 80 ของปริมาณการใช้น้ำประปา คูณด้วยอัตราค่าธรรมเนียมตามประเภทของแหล่งกำเนิดน้ำเสีย ซึ่งจะเริ่มเก็บในต้นปีหน้า แบ่งประเภทและอัตราดังนี้ 

 

  1. แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 2 อัตราไม่เกิน 4 บาทต่อลูกบาศก์เมตร ได้แก่ (ก) หน่วยงานของรัฐหรืออาคารที่ทำการของเอกชนหรือองค์กรระหว่างประเทศ (ข) มูลนิธิ ศาสนสถาน สถานสาธารณกุศล (ค) โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล (ง) โรงเรียนหรือสถานศึกษา (จ) สถานประกอบการที่มีการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลังหนึ่งปีก่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน 

 

  1. แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ 3 อัตราไม่เกิน 8 บาทต่อลูกบาศก์เมตร ได้แก่ (ก) โรงแรม (ข) โรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน (ค) สถานประกอบการที่มีการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลังหนึ่งปีก่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียเกินกว่า 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน 

 

สถานที่รับชำระค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียมี 3 ช่องทาง ประกอบด้วย

 

  1. จุดบริการรับชำระเงินของกรุงเทพมหานคร (1) จุดบริการรับชำระเงิน ณ ฝ่ายการคลัง สำนักงานเลขานุการ สำนักการระบายน้ำ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง (2) จุดบริการรับชำระเงิน ณ สำนักงานเขตทุกเขต

 

  1. จุดบริการรับชำระเงินของธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ 

 

  1. ธนาคารที่ให้บริการชำระบิลข้ามธนาคาร (Cross-Bank Bill Payment) ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ บริการธนาคารบนอินเทอร์เน็ต (Internet Banking) บริการธนาคารบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Banking) และเครื่องรับจ่ายเงินอัตโนมัติ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการชำระบิลข้ามธนาคารได้จากเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งค่าธรรมเนียมเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของแต่ละธนาคารหรือผู้ให้บริการ
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising