วันนี้ (6 มิถุนายน) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) เป็นประธานในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร หรือสภา กทม. ครั้งแรก โดยมี ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พร้อมคณะบริหารเข้าร่วม
พล.อ. อนุพงษ์ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการเปิดประชุมสภาครั้งแรกตามกฎหมาย หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองตำแหน่ง ก่อนหน้านี้ตนได้หารือกับผู้ว่าฯ กทม. และปลัดกรุงเทพมหานครมาตลอดแล้ว จนถึงวันนี้ที่มีการเปิดประชุมสภา โดยเนื้อหาส่วนใหญ่ในการประชุมครั้งนี้เป็นการพูดคุยเรื่องการทำงานแบบภาพใหญ่
พล.อ. อนุพงษ์กล่าวว่า ผู้ว่าฯ กทม. ได้แสดงเจตนารมณ์ในการทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของ กทม. และจากนี้พร้อมสนับสนุนทุกอย่าง โดยจะร่วมทำงานเพื่อประชาชนเป็นหลัก
พล.อ. อนุพงษ์กล่าวต่อว่า ผู้ว่าคนนี้เป็นคนที่มีความตั้งใจสูง เป็นที่ถูกใจของประชาชน และบรรยากาศการประชุมวันนี้เป็นไปด้วยดี ซึ่ง กทม. ไม่มีบรรยากาศการทำงานแบบนี้มาหลายปีแล้ว
ทั้งนี้ ในฐานะที่ตนต้องเป็นตัวเชื่อมระหว่างรัฐบาลกับท้องถิ่นอย่าง กทม. ขอยืนยันว่าการทำงานจะไม่มีรอยต่อแน่นอน เพราะ กทม. เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีอำนาจในตัวเองตามกฎหมาย ไม่ต้องขอความเห็นจากใคร หากมีแผนพัฒนาก็สามารถทำได้เลยตามอำนาจหน้าที่
ตนไม่มีอำนาจไปก้าวก่ายการทำงานของผู้ว่าฯ กทม. หรือสภา กทม. เพราะ กทม. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีอิสระ แต่หากมีเรื่องใดที่ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลตนก็พร้อมจะสนับสนุนเต็มที่
ส่วนกรณีการสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว พล.อ. อนุพงษ์กล่าวว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของ กทม. ที่ผ่านมา กทม. มีปัญหาแล้วหาทางแก้ไขไม่ได้ ก็ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ช่วยหาทางแก้ไข
ซึ่งขณะนี้ แนวทางการแก้ไขของการเจรจารอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อยู่ และต้องรอดูว่าจะเห็นชอบหรือไม่ แต่เมื่อมีผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ มีสภาใหม่ ตนจะทำหนังสือมาถามว่า กทม. จะมีแนวทางอย่างไร หาก กทม. แจ้งว่ามีแนวทางดำเนินการอย่างไรที่เป็นข้อยุติ ตนเองก็จะนำเรื่องเข้า ครม. เพื่อไม่ต้องขอมติ ซึ่งเข้าใจว่าผู้ว่าฯ จะหาแนวทางที่จะแก้ไขอยู่แล้ว ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยจะร่วมมือกันในการแก้ไขเช่นกัน โดยพร้อมรับแนวทางเข้าไปเสนอ ครม. เพราะหาก กทม. ดำเนินการได้เองเรื่องก็จบ
พล.อ. อนุพงษ์ยังกล่าวว่าตนมีความเชื่อมั่นว่า กทม. จะดีขึ้นแน่นอน ในด้านของการปกครองภายหลังมีการเปิดประชุมสภา กทม. เพราะผู้ว่าชัชชาติมีความตั้งใจ ตนเป็นคนกรุงเทพฯ ถือว่าอยู่ภายใต้ท่านเช่นกัน
ส่วนกรณีที่จังหวัดอื่นๆ เรียกร้องอยากเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดบ้าง หลังมีกระแสการทำงานของชัชชาติ เรื่องนี้ พล.อ. อนุพงษ์กล่าวว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ เพราะมีความแตกต่างกัน ระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ที่มีหน้าที่บริการสาธารณะ แต่ในพื้นที่อื่นๆ ไม่ได้มีหน้าที่นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดมีหน้าที่เชื่อมต่ออำนาจจากส่วนกลางลงไปในพื้นที่ ยึดโยงกับพื้นที่คนละอำนาจกัน
หลังจบการสัมภาษณ์ชัชชาติได้ยกมือไหว้ พล.อ. อนุพงษ์ พร้อมกล่าวว่า ตนเองต้องฝากตัวกับรัฐมนตรีฯ มหาดไทย ไม่ใช่ให้รัฐมนตรีฯ มหาดไทยมาอยู่ในการดูแลของผู้ว่าฯ กทม. ซึ่ง พล.อ. อนุพงษ์ตอบว่าบ้านผมอยู่เขตทวีวัฒนา ฝากไปดูแลด้วย
สำหรับผลการเลือกผู้ดำรงตำแหน่งสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ตำแหน่งประธานสภา ได้แก่ วิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.เขตมีนบุรี พรรคเพื่อไทย รองประธานสภากรุงเทพมหานครคนที่ 1 ได้แก่ ชญาดา วิภัติภูมิประเทศ ส.ก.เขตคันนายาว พรรคเพื่อไทย และรองประธานสภากรุงเทพมหานครคนที่ 2 ได้แก่ อำนาจ ปานเผือก ส.ก.เขตบางแค พรรคก้าวไกล