×

กทม. ขอ BTSC ทบทวนและชะลอขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้า กังวลเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน

โดย THE STANDARD TEAM
02.12.2022
  • LOADING...
BTSC

วันนี้ (2 ธันวาคม) วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณี บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (BTSC) แจ้งขอปรับขึ้นค่าโดยสารว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้พิจารณาถึงสถานการณ์ปัจจุบันนี้แล้วเห็นว่าการปรับขึ้นค่าโดยสารดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อประชาชน และเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนผู้ใช้ระบบขนส่งมวลชนในการเดินทางเป็นอย่างมาก

 

ประกอบกับบริษัทฯ ยังมีรายได้ทางอื่นซึ่งนอกเหนือจากรายได้จากค่าโดยสารเพื่อมาชดเชย เช่น รายได้จากการประกอบพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณชั้นจำหน่ายตั๋ว รายได้จากการโฆษณา รายได้จากการอนุญาตให้เอกชนก่อสร้างทางยกระดับเพื่อเชื่อมต่อกับสถานีและอาคารบุคคลภายนอก

 

ซึ่งรายได้ดังกล่าวสามารถนำมาช่วยสนับสนุนรายจ่ายจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ได้ ซึ่ง กทม. ได้มีหนังสือขอความร่วมมือให้บริษัทฯ ทบทวนและชะลอการปรับ ‘ค่าโดยสารที่เรียกเก็บ’ ออกไปก่อน

 

ทั้งนี้ บริษัท BTSC ได้แจ้งการขอปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าเป็นการขอปรับขึ้น ค่าโดยสารที่เรียกเก็บ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดตามสัญญาสัมปทานระบบขนส่งมวลชนระหว่างกรุงเทพมหานครกับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (สัญญาสัมปทานฯ) ข้อ 13.2 ได้ระบุว่า ค่าโดยสารที่เรียกเก็บจะต้องไม่เกินไปกว่าเพดานอัตราค่าโดยสารขั้นสูงสุดที่อาจเรียกเก็บได้

 

ซึ่งบริษัทฯ จะต้องแจ้งให้ กทม. และประชาชนทั่วไปทราบเป็นลายลักษณ์อักษรถึงค่าโดยสารที่เรียกเก็บล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน ก่อนวันที่ค่าโดยสารใหม่จะมีผลบังคับใช้ โดยเพดานอัตราค่าโดยสารขั้นสูงสุดที่อาจเรียกเก็บได้เมื่อเดือนเมษายน 2565 อยู่ที่ 21.52-64.53 บาท

 

วิศณุกล่าวต่อไปว่า บริษัท BTSC ได้เคยมีหนังสือแจ้ง กทม. เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 เพื่อขอปรับขึ้นค่าโดยสารจาก 16-44 บาท เป็น 17-47 บาท ซึ่งการขอปรับค่าโดยสารดังกล่าวไม่เกินเพดานอัตราค่าโดยสารขั้นสูงสุด แต่ กทม. ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ได้ขอให้บริษัทฯ ชะลอการปรับค่าโดยสารออกไปก่อน โดยขอให้บริษัทคำนึงถึงความเดือดร้อนและภาระของประชาชนโดยรวม และขอให้ชี้แจงถึงเหตุผลและความจำเป็นในการขอปรับค่าโดยสารที่เรียกเก็บ

 

ต่อมาบริษัทฯ ได้มีหนังสือแจ้ง กทม. อีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2565 ชี้แจงถึงเหตุผลและความจำเป็นว่าบริษัทฯ มีรายจ่ายจากการดำเนินโครงการที่เพิ่มสูงขึ้น และได้หารือกับผู้จัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท และมีความเห็นตรงกันว่า เพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน บริษัทฯ จึงยินดีที่จะชะลอการปรับค่าโดยสารที่เรียกเก็บไปจนถึงสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 และจะบังคับใช้อัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ซึ่งค่าโดยสารใหม่ที่จะเรียกเก็บนั้นอยู่ในอัตรา 17-47 บาท ซึ่งไม่เกินเพดานอัตราค่าโดยสารขั้นสูงสุดที่อาจเรียกเก็บได้ตามสัญญาสัมปทาน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising