ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กระแสความนิยมของการปั่นจักรยานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราเห็นหลายคนแบ่งปันเรื่องราวการออกกำลังกายที่เปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองผ่านโลกออนไลน์ และเริ่มเข้าใจว่าการมีสุขภาพที่แข็งแรงคือความสุขที่แท้จริงในชีวิตรูปแบบหนึ่ง
สำหรับการปั่นจักรยาน ทุกคนมีเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่เพื่อสุขภาพ เพื่อการเดินทาง หรือเพื่อการแข่งขัน แต่สำหรับ แอนดี้ เรย์มอนด์ ชเลค นักปั่นจักรยานชาวลักเซมเบิร์ก อดีตแชมป์รายการ Tour de France และรายการ Liège-Bastogne-Liège จักรยานเป็นเสมือนทุกอย่างของชีวิตเขา
แอนดี้ เรย์มอนด์ ชเลค เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการแข่งขันจักรยานระดับโลก ความสำเร็จสูงสุดของเขาเกิดขึ้นในปี 2010 ด้วยการคว้าแชมป์รายการ Tour de France ของฝรั่งเศส รวมถึงคว้าอันดับที่ 2 ในรายการการแข่งขันจักรยานทางไกลรอบประเทศอิตาลี จีโรดีตาเลีย และได้ครองเสื้อ White Jersey ตั้งแต่การแข่งขันรายการใหญ่เป็นครั้งแรก
นอกจากนี้แอนดี้ยังสามารถคว้าแชมป์รายการ Liège-Bastogne-Liège ในปี 2009 ทำให้เขากลายเป็นชาวลักเซมเบิร์กคนแรกที่ชนะการแข่งขันรายการนี้ในรอบ 2 ทศวรรษ
THE STANDARD พาคุณไปหาคำตอบว่า การจะเป็นนักปั่นจักรยานที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับสูงได้นั้น คุณต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง และอะไรคือสิ่งที่เขาค้นพบระหว่างการเดินทางด้วยพาหนะสองล้อของเขาตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา
วันล้อหมุนกับการเริ่มต้นออกเดินทางสู่สนามแข่งขันจักรยานของแอนดี้
แอนดี้ เรย์มอนด์ ชเลค ได้รับฉายาว่าเป็น ‘สิ่งมหัศจรรย์’ ของวงการจักรยาน จุดเริ่มต้นของเขาเกิดขึ้นจากความชอบและหลงใหลในจักรยานตั้งแต่เด็กไม่ต่างจากนักกีฬาระดับโลกคนอื่น ไม่ว่าจะเป็น ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ที่ปีนเก้าอี้ขึ้นชกกระสอบทรายในค่ายมวยตั้งแต่วัยที่ยังยืนชกไม่ถึง หรือ ฟิลิปป์ คูตินโญ นักเตะของบาร์เซโลนาที่เริ่มต้นเล่นบอลกับพื้นคอนกรีตในบ้านเกิดประเทศบราซิล
“ผมเริ่มต้นเหมือนคนอื่นๆ คือความชื่นชอบในการปั่นจักรยานที่เป็นเพียงกิจกรรมยามว่าง และเมื่อทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงเปลี่ยนเป็นความหลงใหลและความฝัน จนกลายเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งผมเชื่อว่าจะต้องทำได้ในที่สุด พูดได้ว่าผมสร้างเป้าหมายแห่งชีวิตจากความฝันและความหลงใหลที่เรียบง่ายนี้เอง”
ในเส้นทางนักปั่นอาชีพที่เขาเลือก เงินรางวัลไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดที่ทำให้เขาทำได้ดีกว่าคนอื่น แต่คือความกระหายที่ไม่มีวันสิ้นสุดของเขาที่เป็นแรงผลักดันสำคัญให้แอนดี้ออกแรงปั่นได้ไวกว่าคนอื่นๆ
“สิ่งสำคัญไม่ใช่เรื่องเงินรางวัล แต่คุณต้องมีความกระหายในความสำเร็จและความมุ่งมั่นที่จะทำให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณ เพราะมีเพียงความมุ่งมั่นในเป้าหมายเท่านั้นที่สามารถปลุกคุณให้ลุกขึ้นมาซ้อมได้แม้ในฤดูหนาวที่อากาศเย็นเฉียบ หรือการต้องเดินทางจากบ้านไปไกลเพื่อการฝึกซ้อมเป็นระยะเวลานานๆ
“ส่วนสิ่งที่สร้างความท้อแท้ก็คือ ยามที่คุณป่วยและตระหนักว่าร่างกายไม่พร้อมสำหรับการฝึกซ้อม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับผมบ่อยครั้งตลอดช่วงชีวิตการเป็นนักปั่นอาชีพ แต่คุณรู้ไหมว่าอุปสรรคและความล้มเหลวเล็กๆ ระหว่างทางเหล่านี้เป็นตัวผลักดันและกระตุ้นให้คุณมีความมุ่งมั่นมากยิ่งขึ้นที่จะเอาชนะและทำให้ดียิ่งขึ้นในครั้งต่อๆ ไป”
ความสำเร็จที่ต้องแลกมาด้วยอะไรบางอย่างเสมอ
แน่นอนการจะเป็นที่สุดคุณต้องพร้อมที่จะเสียสละอะไรบางอย่างเพื่อความสำเร็จ แอนดี้สละทิ้งความรื่นเริงส่วนตัว และยึดในการมีระเบียบวินัยตลอดเวลา ทั้งในการฝึกซ้อมและในการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันเสมอ
“นักปั่นใช้พลังงานสูงมากราว 5,600 กิโลแคลอรีในการแข่งขัน ทำให้เราต้องกินตลอดเวลา เรื่องแย่ที่สุดก็คือ คุณต้องพยายามทานพาสต้าปริมาณมากตั้งแต่มื้อเช้าทั้งๆ ที่คุณไม่อยากกินแม้แต่คำเดียว และต้องกินแบบนี้หลายวันติดต่อกัน แถมในระหว่างแข่งยังต้องดื่มโปรตีนเชกตลอดวันด้วย
“นี่ยังไม่รวมน้ำปริมาณมหาศาลในระหว่างวัน เนื่องจากร่างกายจะเสียเหงื่อมาก ถ้าคุณปล่อยให้ร่างกายสูญเสียน้ำไปถึง 10% สมรรถภาพของคุณจะลดลง 70% เลยทีเดียว
“ในฐานะนักกีฬามืออาชีพ คุณรู้ว่าการปฏิบัติเหล่านี้คือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เรากินสิ่งที่ต้องกินเท่านั้น และไม่สามารถกินสิ่งที่เราชอบได้”
ทีมเวิร์ก หัวใจสำคัญของทุกชัยชนะ
แอนดี้เผยว่า ทุกการแข่งขันรายการใหญ่ทีมงานมีความสำคัญมาก เนื่องจากทุกการแข่งขันจักรยานต้องมีการเตรียมพร้อมหลายปัจจัยที่จะทำให้เขาดึงศักยภาพสูงสุดของตัวเองออกมาได้ในสนามแข่งขัน
“ทีมงานของผมต้องทุ่มเทไม่น้อยไปกว่าผมเลย พวกเขาต้องคอยดูแลเรื่องอาหารเพื่อให้ผมได้รับสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วน ออกแบบตารางฝึกซ้อมทั้งในการปั่นและการเสริมสมรรถภาพร่างกายในยิม รวมถึงในการปั่นเป็นระยะทางไกลและกินเวลาหลายชั่วโมง ผู้คนเหล่านี้จะต้องอยู่กับผมตลอดเวลา และผมต้องการพวกเขาเพื่อคอยสนับสนุนผมเช่นกัน”
ความสุขระหว่างการเดินทางที่เสน่ห์ของกีฬาจักรยาน
แอนดี้ที่มีโอกาสได้ลงแข่งขันรายการใหญ่ทั่วยุโรป เขาค้นพบว่าการตั้งเป้าหมายไว้สูงจนดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้คือแรงขับที่ทำให้เขาพัฒนาขีดจำกัดของตัวเองอย่างต่อเนื่อง
“หากคุณตั้งเป้าหมายใหญ่ตั้งแต่ครั้งแรกมันจะเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสจนเกินไป คุณต้องค่อยๆ เพิ่มระดับเป้าหมาย ซึ่งการทำเช่นนี้ คุณได้มองเห็นการเติบโตของตนเอง และรู้สึกมีความสุขที่ได้ทำให้ทุกวันกลายเป็นวันที่ดียิ่งขึ้น”
ประสบการณ์การแข่งขันจักรยานระดับสูงตลอด 9 ปี ตั้งแต่ปี 2005-2014 ของแอนดี้เป็นที่ประจักษ์ และความพิเศษคือ เขาเลือกเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม Bangkok Bank CycleFest 2018 สนับสนุนโดยธนาคารกรุงเทพ และพันธมิตรอย่าง แอร์ไดกิ้น ยีเอส แบตเตอรี่ โดยนักปั่นระดับตำนานวัย 33 ปีจะมารับหน้าที่เป็นแอมบาสเดอร์ของงานด้วยตนเอง เพื่อร่วมเป็นหนึ่งในการสร้างสรรค์แรงบันดาลใจเพื่อการเดินตามความฝันในหมู่นักปั่นชาวไทยสู่การแข่งขันบนเวทีระดับโลกในอนาคต แบ่งปันเรื่องราวต่างๆ ที่เขาได้ค้นพบระหว่างการเดินทางของนักแข่งอาชีพคนหนึ่ง
โดยภายในงานที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 นี้จะเปิดโอกาสให้นักปั่นทุกเพศทุกวัย ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพกว่า 3,000 คน เข้าร่วมแข่งขันจักรยานภายใต้แนวคิด ‘Ride for All’ ต้อนรับนักปั่นทุกระดับด้วยการแข่งขันหลากหลายประเภท
ในการแข่งขันมีทั้งรูปแบบการปั่นแบบจับเวลาที่มีทั้งประเภทบุคคล ประเภททีม และประเภทวิบาก (ออฟโรด) ไปจนถึงการปั่นแบบไม่จับเวลาสไตล์ Fun Ride
งานจัดขึ้นวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ 24-25 พฤศจิกายน 2561 ณ สยามคันทรีคลับ พัทยา ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างโซน Festival Village ที่รวมเอาร้านค้า ร้านอาหาร เกม และดนตรีเข้ามาไว้ด้วยกัน พร้อมบรรยากาศอันร่มรื่น เพื่อให้ครอบครัวและผู้ที่มาร่วมชมร่วมเชียร์เพลิดเพลินได้ตลอดทั้งวัน
สำหรับผู้ที่ต้องการลงทะเบียนร่วมแข่งขันในรายการ Bangkok Bank CycleFest 2018 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.BangkokBankCycleFest.com
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า