×

เงินบาท อ่อนค่าหนัก! แตะระดับ 35.10 บาทต่อดอลลาร์ หลังประธาน Fed ย้ำภารกิจคุมอัตราเงินเฟ้อยังไม่เสร็จสิ้น และมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่าคาด

08.03.2023
  • LOADING...

ค่าเงินบาทเปิดตลาดวันนี้​ (8 มีนาคม) ที่ระดับ 35.10 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงหนักจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 34.55 บาทต่อดอลลาร์ หลัง เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) ออกมาส่งสัญญาณว่าภารกิจคุมอัตราเงินเฟ้อของ Fed ยังไม่เสร็จสิ้น และมีโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจนแตะระดับสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ หากภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง 

 

พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า บรรดาผู้เล่นในตลาดการเงินสหรัฐฯ ต่างกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของ Fed มากขึ้น สะท้อนจากการปรับเพิ่มโอกาสที่ Fed จะเร่งขึ้นดอกเบี้ย +0.50% ในการประชุมเดือนมีนาคมนี้สู่ระดับเกือบ 70% (จากเพียง 30% ในวันก่อนหน้า) และผู้เล่นในตลาดก็มองว่า Fed มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยจนแตะระดับ 5.75% ภายในการประชุมเดือนมิถุนายน หลังพาวเวลล์ได้เน้นย้ำว่าภารกิจคุมอัตราเงินเฟ้อยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งความกังวลว่า Fed จะใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ได้กดดันดัชนี S&P 500 ดิ่งลงกว่า -1.53%

 

ในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลง -0.77% กดดันโดยความกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของบรรดาธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะ Fed และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งความกังวลดังกล่าวได้สะท้อนผ่านแรงขายหุ้นกลุ่มเทค และหุ้นสไตล์ Growth เช่น ASML -2.7%, ADYEN -1.8%

 

ส่วนทางด้านตลาดบอนด์ ความกังวลแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ได้หนุนให้บอนด์ยีลด์ในฝั่งสหรัฐฯ ต่างปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะบอนด์ยีลด์ระยะสั้นถึงระยะกลาง ส่วนบอนด์ยีลด์ระยะยาวอย่างบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวน โดยมีจังหวะที่ปรับตัวขึ้นใกล้โซนแนวต้านสำคัญระดับ 4.00% ก่อนที่จะย่อลงเล็กน้อยสู่ระดับ 3.98% เนื่องจากผู้เล่นบางส่วนอาจพอใจกับระดับบอนด์ยีลด์ดังกล่าว และอาจต้องการถือบอนด์ในช่วงตลาดผันผวน 

 

ทั้งนี้ กรุงไทยประเมินว่า บอนด์ยีลด์ระยะยาวอย่างบอนด์ยีลด์ 10 ปี ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้บ้าง ซึ่งผู้เล่นในตลาดควรรอทยอยเข้าซื้อในช่วงที่บอนด์ยีลด์มีการปรับตัวขึ้น เช่น บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่ระดับสูงกว่า 4.00% (อาจรอดูการทดสอบจุดสูงสุดในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมาแถว 4.20%)

 

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หนุนโดยมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เชื่อว่า Fed อาจใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นตามภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงสดใสอยู่ ซึ่งล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 105.6 จุด ส่วนในฝั่งราคาทองคำ การปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้กดดันให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเมษายน) ปรับตัวลงแรงและแกว่งตัวใกล้โซนแนวรับสำคัญแถว 1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

 

สำหรับวันนี้ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ เช่น ยอดการจ้างงานภาคเอกชนที่สำรวจโดย ADP รวมถึงข้อมูลสำคัญอย่างยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (JOLTS Job Openings) ที่ช่วยสะท้อนถึงความต้องการแรงงานในสหรัฐฯ ได้

 

นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของประธาน Fed ต่อสภาคองเกรส รวมถึงถ้อยแถลงของประธาน ECB เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลัก ทั้ง Fed และ ECB ในระยะถัดไป

 

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทมองว่าการแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ รวมถึงการย่อตัวลงของราคาทองคำใกล้โซนแนวรับ คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วทะลุโซนแนวต้านระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้แนวโน้มเงินบาทในวันนี้ยังคงมีโอกาสผันผวนในฝั่งอ่อนค่าต่อได้บ้าง 

 

โดยเฉพาะหากรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ อย่างยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (JOLTS Job Openings) หรือยอดการจ้างงานภาคเอกชนโดย ADP (ซึ่งอาจสะท้อนถึงแนวโน้มยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม หรือ Nonfarm Payrolls ในวันศุกร์นี้ได้) ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทำให้ผู้เล่นในตลาดยิ่งมั่นใจว่า Fed อาจจำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย +0.50% ในการประชุมเดือนมีนาคม 

 

อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินบาทอาจไม่รุนแรงมาก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจทยอยขายทำกำไรสถานะ Long USDTHB (มองเงินบาทอ่อนค่า) ได้บ้าง ทว่าต้องจับตาทิศทาง Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติว่าจะกลับมาขายสินทรัพย์ไทยมากขึ้นหรือไม่ หลังล่าสุดแรงขายบอนด์และหุ้นไทยเริ่มชะลอลง 

 

นอกจากนี้หากถ้อยแถลงของประธาน ECB ได้เน้นย้ำว่า ECB ก็จำเป็นต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อเช่นเดียวกันกับ Fed ก็อาจช่วยหนุนให้เงินยูโร (EUR) มีโอกาสรีบาวด์ แข็งค่าขึ้นมาได้บ้าง ซึ่งจะช่วยชะลอโมเมนตัมการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ในช่วงระยะสั้น ก่อนที่ผู้เล่นในตลาดจะรับรู้ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ (Nonfarm Payrolls) ในวันศุกร์นี้

 

ในช่วงนี้จะเห็นได้ว่าความผันผวนของตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูง (ค่าเงินบาทผันผวนในระดับ 9-10% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาที่ระดับ 5% เป็นอย่างมาก) ทำให้มองว่าผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

 

โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.95-35.20 บาทต่อดอลลาร์

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising