×

อัยการสั่งฟ้องนักเรียนเลว-นักเรียนไท รวม 3 คน ชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ทั้งหมดยืนยันสู้คดี

โดย THE STANDARD TEAM
28.01.2021
  • LOADING...
อัยการสั่งฟ้องนักเรียนเลว-นักเรียนไท รวม 3 คน ชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ทั้งหมดยืนยันสู้คดี

วันนี้ (28 มกราคม) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อาคารหลักเมือง เขตพระนคร) พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว นัดให้ มิน-ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ, พลอย-เบญจมาภรณ์ นิวาส กลุ่มนักเรียนเลว และภูมิ-คณพศ แย้มสงวนศักดิ์ กลุ่มนักเรียนไท เดินทางมาฟังคำสั่งอัยการว่าจะฟ้องคดีต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลางหรือไม่ หลังทั้งสามถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนข้อกำหนดตามมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 ของ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ จากกรณีการเข้าร่วมการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 และพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ โดยมีความเห็นควรสั่งฟ้องคดีเมื่อเดือนธันวาคม

 

โดยเป็นวันครบกำหนด 60 วัน นับตั้งแต่เยาวชนทั้งสามเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ครบกำหนดผัดฟ้องครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นผัดสุดท้ายสำหรับข้อกล่าวหานี้ หากอัยการมีคำสั่งฟ้องก็จะนำตัวเยาวชนทั้งสามไปยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง 

 

แต่หากพนักงานอัยการเจ้าของสำนวนยังไม่มีคำสั่งใดในวันพรุ่งนี้ พนักงานอัยการเจ้าของสำนวนสามารถปรึกษากับอัยการสูงสุดเพื่อมีความเห็นสั่งฟ้องเยาวชนเมื่อใดก็ได้ และให้พนักงานตำรวจออกหมายเรียกตัวเยาวชนทั้ง 3 คนมาพบเพื่อฟังคำสั่งได้อีก ภายในระยะเวลาอายุความ 10 ปี

 

เหตุของคดีนี้สืบเนื่องมาจากการนัดหมายชุมนุม #15ตุลาไปราชประสงค์ ช่วงเย็นวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ที่แยกราชประสงค์ ภายหลังจากการเข้าสลายการชุมนุมและจับกุมแกนนำบริเวณทำเนียบรัฐบาลเมื่อเช้ามืดของวันเดียวกัน จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน การชุมนุมดังกล่าวทำให้มีผู้ถูกดำเนินคดีและแจ้งข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ไปแล้ว 21 ราย อีกทั้งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ยังมีการทยอยออกหมายเรียกเพิ่มเติมอีก

 

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2563 เยาวชนทั้งสามผู้ถูกกล่าวหาเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการ ให้ใช้อำนาจในการสั่งสอบสวนพยานเพิ่มเติมและสั่งไม่ฟ้องคดี เนื่องจากพวกตนไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา และการสั่งฟ้องในคดีนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ 

 

ในหนังสือฉบับดังกล่าวได้กล่าวถึงเหตุผลของการฟ้องคดีเยาวชนที่จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณชนไว้ว่า การเข้าร่วมการชุมนุมในวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ที่แยกราชประสงค์ ไม่ใช่การกระทำความผิดอาญา เป็นเพียงการใช้สิทธิในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพในการแสดงออก และเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ ที่มีความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญไทย มาตรา 44 วรรคหนึ่งและวรรคสอง และกติการะหว่างประเทศถึง 2 ฉบับ ทั้งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ซึ่งรับรองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและแสดงออกไว้ในข้อบทที่ 19 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง และได้รับรองสิทธิในการชุมนุมไว้ในข้อบทที่ 21 ที่ไทยได้ลงนามไว้เป็นภาคี และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child: CRC) ที่ส่งเสริมให้รัฐภาคีจะต้องยอมรับสิทธิเสรีภาพของเด็กในการสมาคม ชุมนุมอย่างสงบ เพื่อเรียกร้องหรือแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่ส่งผลกับเด็ก โดยไทยได้ให้สัตยาบันไว้อนุสัญญานี้ไว้แล้ว

 

การสั่งฟ้องคดีลภนพัฒน์, เบญจมาภรณ์ และคณพศ 3 เยาวชนที่ไม่ได้กระทำความผิด จึงไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สาธารณชน และอาจกระทบต่อประโยชน์อันสำคัญของประเทศ เพราะจะถือเป็นการละเมิดต่อพันธกรณีกฎหมายระหว่างประเทศ สร้างความหวาดกลัวให้ประชาชนไม่กล้าใช้สิทธิและเสรีภาพ เพื่อพิทักษ์ไว้ซึ่งหลักนิติรัฐ สิทธิเสรีภาพของประชาชน และประโยชน์สำคัญของประเทศ เยาวชนจึงเน้นย้ำขอให้พนักงานอัยการเจ้าของสำนวนได้พิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดีนี้ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง

 

ทนายความแจ้งว่า คดีดังกล่าว ค่าปรับอยู่ที่ประมาณ 2,000-5,000 บาท เนื่องด้วยยังเป็นเยาวชน 

 

เยาวชนทั้ง 3 คน ได้ให้สัมภาษณ์หน้าสำนักงานอัยการสูงสุด โดยทั้งสามก็จะขอสู้ต่อไป เรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เพื่อประชาชน กับความถูกต้อง โดยมีมวลชนและประชาชนมาคอยให้กำลังใจกับเยาวชนทั้งสาม รวมถึง นพ.ทศพร เสรีรักษ์ มาให้กำลังใจเยาวชนทั้ง 3 คนด้วย

 

ขณะที่ล่าสุด พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องทั้ง 3 คนให้ไปพบที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในเวลา 13.00 น. ของวันนี้ เพื่อดำเนินการฟ้องต่อไป 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising