รสชาติที่ก่อร่างสร้างตัวตนของคุณคือรสชาติแบบไหน
แน่นอนว่าเราต้องคุ้นเคยกับรสมือของใครสักคนที่รับหน้าที่เป็นเชฟประจำบ้าน อาจจะเป็นคุณยายคนเก่งที่มีแม่ของเราเป็นผู้ช่วยเชฟ หรือถ้าที่บ้านคุณไม่ค่อยทำกับข้าวกินกัน คุณเองก็อาจเติบโตมากับรสมือของคุณป้ารถกับข้าวที่ขับรถผ่านประตูบ้านทุกเช้า และเมนูที่แสนเรียบง่ายก็คงหนีไม่พ้นน้ำพริก เมนูแกง แกมด้วยของทอดอะไรนิดๆ หน่อยๆ แค่นั้นก็อิ่มเอมแล้วสำหรับหนึ่งมื้อ
ทีนี้หากใครคุ้นเคยกับรสมืออาหารชาวบ้านง่ายๆ คุณก็คงคุ้นลิ้นกับรสชาติเข้มๆ โดดๆ ครบทุกรสแบบที่คนไทยชื่นชอบ การเดินทางมากินอาหารไทยที่ร้าน ‘บ้านตาเรือง’ จึงเปรียบเสมือนการย้อนวัยกลับไปครั้งยังเด็ก เหมือนกำลังยืนอยู่หน้าบ้านและคอยดักรถกับข้าวในยามเช้าก่อนไปเรียน
The Concept
บ้านตาเรืองมีคอนเซปต์ที่เรียบง่ายด้วยการเสิร์ฟอาหารไทยเป็นสำรับ โดยเป็นสูตรเฉพาะของคุณยายของเจ้าของร้าน เน้นอาหารไทยภาคกลางแบบชาวบ้านๆ ที่ไม่ยากเกินเข้าใจ เพราะเราต่างรู้จักกันดีอยู่แล้ว ซึ่งเมนูในแต่ละวันก็จะไม่ซ้ำกัน อยู่ที่ว่าวันนั้นคุณยายครึ้มใจอยากจะทำเมนูอะไรมาให้เรากินกัน โดยเมนูที่เรียกว่าน่าสนใจมากๆ ที่ร้านนี้เสิร์ฟ เช่น แกงป่าไก่ แกงมัสมั่นหมู ยำไข่ต้มพริกย่าง แกงเขียวหวานปลาขูด เป็นต้น
นอกจากนี้บ้านตาเรืองยังตั้งตนเป็นคาเฟ่ขนมหวานไทยแบบครบเครื่องที่เสิร์ฟขนมหวานหลากรูปแบบตั้งแต่ทองหยิบ ทองหยอด ไปจนถึงขนมกล้วย ขนมใส่ไส้ ซึ่งล้วนแต่มีความดั้งเดิมทั้งวิธีการทำและรสชาติ โดยเมนูส่วนใหญ่เกิดมาจากเมนูอาหารที่คุณยายและชาวบ้านในย่านรัชดาภิเษกสมัยก่อนกินกันเป็นปกติ ฉะนั้นคุณคงไม่ต้องคาดหวังความหวือหวาของเมนู เพราะมันง่ายกว่าที่คุณคิดเยอะ! อีกทั้งตัวร้านยังตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยการนำเอาภาพเก่าๆ ของครอบครัวมาติดไว้บนฝาผนัง โดยมีเหล่าเครื่องสานห้อยโหนเรียกร้องสายตาอยู่เหนือศีรษะ ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและเป็นกันเองราวกับไปกินข้าวที่บ้านญาติสนิท
The Dishes
ในวันที่ THE STANDARD ไปเยี่ยมเยือนบ้านตาเรือง เป็นวันเดียวกับที่ทางร้านเลือกเสิร์ฟเมนูน้ำพริกกะปิปลาทอดและแกงส้มดอกขจรเป็นสำรับหลักของวัน (สำรับหลักของวันราคาอยู่ตามเมนูที่ราว 150-250 บาทต่อสำรับ) ซึ่งเสิร์ฟมาอย่างสวยงาม แกล้มด้วยผักสดต้มและเครื่องเคียงอย่างปลาสลิดทอด สำหรับเราแล้วเมื่อได้ลองชิมน้ำพริกกะปิ รสแรกที่โดนลิ้นคือความเค็ม เปรี้ยว หวาน และเผ็ดพร้อมๆ กันในคำเดียว นั่นคือไอเดียของรสชาติน้ำพริกกะปิที่ถูกฝังหัวมาตั้งแต่เด็กๆ และเราประทับใจมากเหลือเกินจนร้องว้าวออกมา ส่วน ‘แกงส้มดอกขจร’ ก็รสชาติเยี่ยมเช่นกัน เหตุผลที่คุณยายเลือกเสิร์ฟเมนูนี้ในช่วงนี้ก็เพราะสมัยก่อนชาวบ้านกินแกงส้มเพื่อป้องกันโรค ‘ไข้ต้นลม’ ในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูนั่นเอง
นอกจากนี้สิ่งที่คุณไม่ควรพลาดเลยคือการสั่งขนมหวานนานาชนิดมากินล้างปาก ที่นี่มีให้คุณเลือกตั้งแต่ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน จ่ามงกุฎ ขนมกล้วย กล้วยบวชชี กล้วยเชื่อม และขนมโบราณที่เราไม่เคยลิ้มลองเลยอย่าง ‘ขนมหันตรา’ ขนมไทยโบราณทําจากถั่วทองนึ่งสุก บดให้ละเอียด แล้วนำไปกวนกับนํ้าตาลทรายและกะทิ กวนจนเหนียวก่อนจะเคลือบด้วยไข่แดงคล้ายๆ กับเม็ดขนุน และห่อด้วยไข่ฝอยเป็นแพอีกชั้นหนึ่ง มีความเป็นกึ่งของคาวของหวานที่อร่อยลิ้นทีเดียว ซึ่งหากคุณสั่งเป็นเซตใหญ่ ราคาก็เริ่มต้นเพียงแค่ราว 199 บาทเท่านั้น
The Drinks
เรายอมรับว่าโดนเครื่องดื่มร้านนี้สาดมนต์สะกดใส่ไปเรียบร้อยแล้วจริงๆ เพราะไม่ว่าจะสั่งอะไรมาดื่ม เราก็จะเอ่ยปากชื่นชมทุกแก้ว เริ่มต้นจาก ‘มะขามพริกเกลือ’ (55 บาท) น้ำมะขามผสมไซรัปพริกเกลือรสชาติเข้มๆ เสิร์ฟใส่แก้วที่เคลือบพริกเกลือไว้ที่ปากแก้ว เมื่อดื่มเข้าไปจะได้รสชาติแบบครบรสทั้งเปรี้ยวนำ เค็มแกมเผ็ดจางๆ เหมือนอมลูกอมมะขาม ‘อามีร่า’ ซองสีชมพูตอนเด็กๆ
มะขามพริกเกลือเปรี้ยวซ่าครบรส
อีกแก้วที่เรารักมากเหลือเกินคือ ‘คาโมมายล์ดอกบัวหลวง’ (55 บาท) ชาคาโมมายล์หอมๆ เติมรสชาติหวานจางๆ และกลิ่นหอมแสนเฉพาะตัวของไซรัปดอกบัวหลวง ทำให้แก้วนี้เป็นเหมือนลายเซ็นเฉพาะที่น่าจดจำมากๆ นอกจากนี้ยังมี ‘เอิร์ลเกรย์ตะไคร้’ (55 บาท) ชาเอิร์ลเกรย์ผสมกับน้ำตะไคร้ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากเมื่อได้ดื่ม และอีกแก้วที่เด็กๆ น่าจะชื่นชอบมากๆ คือ ‘ดอกบ๊วยบานแฉ่ง’ (55 บาท) น้ำบ๊วยที่ใส่เนื้อมาในแก้วรสชาติเปรี้ยวปรี๊ด ตัดเปรี้ยวด้วยสไปรท์ที่เสิร์ฟมาคู่กัน และหวานเย็นรูปดอกบ๊วยที่ทำจากน้ำแดง เมื่อละลายรวมกันก็กลายเป็นรสชาติหวานปะแล่มๆ ที่น่าประทับใจ
คาโมมายล์ดอกบัวหลวง (ซ้าย) และดอกบ๊วยบานแฉ่ง สองแก้วนี้ที่คุณต้องห้ามพลาด!
สิ่งหนึ่งที่เราชื่นชมมากๆ ของการคิดเมนูเครื่องดื่มของร้านบ้านตาเรืองคือการดีไซน์ให้รสชาติเครื่องดื่มไม่รุนแรงจนเกินไป และยังช่วยเสริมรสขณะกินพร้อมอาหาร แต่ในขณะเดียวกันถ้าดื่มพร้อมกับกินขนมหวานก็ไม่ได้ทำให้รสชาติขนมจืดจางไป นับเป็นความพอดิบพอดีที่ลงตัวอย่างมาก
ด้วยความดีงามที่กล่าวไป เราอยากให้คุณลองหาเวลาว่างๆ ไปลิ้มรสมือที่คุ้นเคยในวันวานและสัมผัสความเรียบง่ายของรสชาติอาหารไทยที่ร้านบ้านตาเรือง แต่ด้วยความที่ร้านมีจำนวนที่นั่งน้อยมาก คุณจึงควรโทรไปจองและสอบถามเมนูอาหารให้เรียบร้อยก่อนเดินทางไป จะได้ไม่เสียเที่ยว
บ้านตาเรือง
Open: ทุกวันพุธถึงวันอาทิตย์ เวลา 11.00-17.00 น.
Address: 1151/3 ซอยรัชดาภิเษก 3 แยก 14 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพ 10400
Budget: เริ่มต้นที่ 55-250 บาท
Contact: โทรเข้าไปเพื่อสอบถามเมนูและจองโต๊ะก่อนที่เบอร์ 06 3551 6554
Page: www.facebook.com/baantaruang/
Map:
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์