×

คมนาคมลงพื้นที่ตรวจด่านชั่งน้ำหนักอยุธยา เดินหน้าจับส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก พร้อมสอบทุกคนที่เกี่ยวข้อง

โดย THE STANDARD TEAM
07.06.2023
  • LOADING...
ส่วยรถบรรทุก

วันนี้ (7 มิถุนายน) มนตรี เดชาสกุลสม ผู้ตรวจการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานีชั่งน้ำหนักอยุธยา (ขาเข้า) ทางหลวงหมายเลข 347 อำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลัง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดเผยถึงกรณีส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก

 

โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 2 ราย ในข้อหาขับรถบรรทุกทรายน้ำหนักเกินมาตรฐานจำนวนมาก จึงได้มีการควบคุมตัวและดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

 

สำหรับผู้กระทำความผิดได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตนใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ ที่ผ่านมาไม่เคยกระทำความผิด ซึ่งช่วงเช้าชั่งน้ำหนักจากต้นทางไม่เกินมาตรฐาน แต่ตนไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่อมาถึงสถานีตรวจสอบน้ำหนักอยุธยาถึงชั่งวัดได้เกินค่ามาตรฐานทั้งๆ ที่น้ำทรายไหลออกตลอดเวลา แท้จริงแล้วน้ำหนักจะต้องลด แต่ตนยอมรับผิด ซึ่งศาลจะเป็นผู้พิจารณาในเรื่องค่าปรับต่อไป ส่วนเรื่องส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกตนไม่ทราบ จะต้องไปถามเจ้าของกิจการ เพราะตนเป็นเพียงแค่ลูกจ้าง ไม่ทราบรายละเอียด

 

ด้านมนตรีระบุว่า วันนี้เป็นการตรวจสอบขั้นตอนการทำงานของสถานีชั่งน้ำหนักว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกตามที่เป็นข่าวหรือไม่ จากเรื่องดังกล่าวที่ถูกเผยแพร่ออกไปนั้น ทางหน่วยงานจะมีการนำเทคโนโลยีและจะมีการสอบสวนบุคลากรว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกหรือไม่ รวมถึงการหาลักษณะหรือชนิดประเภทความหมายของสติกเกอร์ ตลอดจนการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในด่านชั่งน้ำหนัก 97 จุดทั่วประเทศ และจะมีการสร้างด่านชั่งเพิ่มตามความเหมาะสม

 

ส่วนที่สถานีตรวจสอบน้ำหนักอยุธยา (ขาเข้า) ทางหลวงหมายเลข 347 ควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ สามารถคัดแยกรถบรรทุกเข้าตรวจสอบน้ำหนักและส่งค่าน้ำหนักไปยังส่วนกลาง หากน้ำหนักไม่เกินที่กฎหมายกำหนดก็สามารถผ่านด่านได้ตามปกติ แต่หากน้ำหนักเกินจะต้องเข้าด่านชั่งน้ำหนักถาวรตรวจซ้ำอีกครั้ง หากพบว่าน้ำหนักเกินจริงก็จะต้องถูกดำเนินคดีทำบันทึกจับกุมส่งตัวไปยังสถานีตำรวจแต่ละท้องที่ก่อนส่งให้ศาลพิจารณา โดยมีอัตราโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

“ที่ผ่านมาได้มีการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ผู้กระทำความผิดอยู่ตลอด ไม่ได้มีการปล่อยปละละเลย และกรณีที่สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยออกมาเผยรายชื่อเจ้าหน้าที่ทางหลวงสถานีตรวจสอบน้ำหนักสุวินทวงศ์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก โดยมีพฤติกรรมเป็นเจ้าของหรือทำสติกเกอร์แจกจ่ายให้กับรถบรรทุก ขณะนี้ได้สั่งการให้โยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ยังสถานีตรวจสอบน้ำหนักจังหวัดสระแก้ว ตลอดจนตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบผู้บังคับบัญชาเกี่ยวข้องหรือเจ้าหน้าที่ระดับใดก็ตาม จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไม่มีข้อยกเว้น” มนตรีกล่าว

 

มนตรียังกล่าวอีกว่า กระทรวงคมนาคมจะต้องบูรณาการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ประจำด่านชั่งน้ำหนักทั่วประเทศให้คงคุณภาพ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความมั่นใจในการปฏิบัติตามข้อบังคับในการบรรทุกสินค้า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการตีแผ่ข้อมูลเรื่องส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นและหมดไปในอนาคต

 

ขณะที่ อลงกรณ์ พรหมศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ ยอมรับว่าปี 2563-2566 กรมทางหลวงสามารถจับกุมผู้ที่กระทำความผิดได้เพิ่มขึ้นกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากตำรวจทางหลวงมีสถานีควบคุมชั่งน้ำหนักทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่มีด่านชั่งน้ำหนักก็จะมีระบบ Point Check ที่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้จำนวนมาก ซึ่งแต่ละสถานีชั่งน้ำหนักสามารถครอบคลุมรัศมีในพื้นที่ 8 กิโลเมตร และมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกฎหมายท้องถิ่นที่บังคับเวลาในการวิ่งเข้าเมือง

 

นอกจากนี้มีรายงานว่าในวันพรุ่งนี้ (8 มิถุนายน) วิโรจน์จะนำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกที่สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยนำมามอบให้กับพรรคก้าวไกล ไปส่งต่อให้กับ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising