การมาถึงประเทศไทยของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว Ultra Violette เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กระแสตอบรับของแฟนๆ ชาวไทยที่มีต่อผลิตภัณฑ์กันแดดของแบรนด์นี้ดีมากๆ มีหลายไอเท็มที่กลายเป็น Top Favorite ของใครหลายคน ด้วยจุดเด่นของการเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดที่พัฒนาสูตรมาหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยจากส่วนผสมเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Ultra Violette สามารถฝ่าด่านอันโหดหินในการทดลองและผ่านการพิสูจน์ในประเทศออสเตรเลียที่ได้ชื่อว่าอนุมัติยากที่สุดมาได้ และใช้เวลานานถึง 3 ปีทีเดียว THE STANDARD POP ได้รับโอกาสพิเศษในการสัมภาษณ์ Ava Matthews ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Ultra Violette เราจึงไม่รอช้าที่จะชวนเธอพูดคุยเกี่ยวกับแรงบันดาลใจ, จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ รวมถึงเรื่องความงามกับเธอคนนี้ หากพร้อมแล้วไปรู้จัก Ava Matthews ให้มากขึ้นพร้อมกันเลย
ก่อนอื่นอยากให้คุณช่วยแนะนำตัวกับผู้อ่านสักเล็กน้อย
ฉันชื่อ Ava Matthews เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งผลิตภัณฑ์ดูแลผิว Ultra Violette (ผู้ร่วมก่อตั้งอีกคนคือ Bec Jeffered) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ SPF สำหรับดูแลผิวหน้าและผิวกายที่มีการผสมผสานค่า SPF ที่มีการปกป้องสูง เข้ากับส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวเพิ่มเติมเข้ามา เราเรียกมันว่า Skinscreens! ฉันภูมิใจที่จะบอกว่าฉันเคยกระทำผิดต่อครีมกันแดดมาก่อน (จากประสบการณ์ที่เธอเบื่อความเหนียวเหนอะหนะของครีมกันแดด จนละเลยและไม่ชอบครีมกันแดด) แต่ตอนนี้ฉันปกป้องผิวตัวเองด้วย SPF50+ เป็นการถาวร และทันทีที่น้องอาร์ตี้ลูกชายวัย 4 เดือนของฉันโตพอสำหรับ SPF เขาก็จะได้ใช้มันเช่นกัน!
ซ้าย: Bec Jeffered ขวา: Ava Matthews
อะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจก่อตั้งแบรนด์ Ultra Violette?
มันเริ่มจากตอนที่ฉัน และ Bec Jeffered ผู้ร่วมก่อตั้งของฉัน เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันที่ Mecca Cosmetica เป็นร้านค้าปลีกด้านความงามรายใหญ่ของออสเตรเลีย แล้วอยู่ๆ เราก็ปิ๊งขึ้นมาในตอนนั้น เพราะเรารู้แล้วว่าครีมกันแดดในท้องตลาดที่เห็นมันไม่มีอะไรที่เซ็กซี่เลย ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ รูปลักษณ์ กลิ่น สัมผัส ไปจนถึงจุดขายที่ไม่ดึงดูด ทั้งที่ครีมกันแดดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดในการดูแลผิวพรรณและความงาม และยังเป็นหนึ่งในสิ่งที่แพทย์ผิวหนังทุกคนบอกว่าต้องทาทุกวันนะ แต่มันยังไม่มีใครทำให้มันเป็นประสบการณ์ที่ดี เรารู้สึกว่าครีมกันแดดยังไม่ค่อยได้รับการพิจารณาในบริบทของการเลเยอร์กับผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงวิธีที่ผู้หญิงนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน นั่นคือที่มาของแบรนด์ Ultra Violette
ปรัชญาในการสร้างแบรนด์ของคุณคืออะไร?
เราต้องการครีเอตให้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นเหมือนตู้เสื้อผ้าของ SPF ที่มีครีมกันแดดที่ตอบโจทย์ครอบคลุมความต้องการในการดูแลผิวได้มากที่สุด และหลีกเลี่ยง Pain Piont ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราต้องการสร้างครีมกันแดดสำหรับดูแลผิวหน้าที่ดูสวย พูดภาษาเดียวกับลูกค้าในแบบที่เขาเข้าใจได้ง่ายๆ ทำให้พวกเขารู้สึกดีที่ได้ทากันแดดที่มีส่วนผสมที่ยอดเยี่ยม และสามารถเข้ากันได้ดีกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางอื่นๆ ที่พวกเขามี เราชอบเรียกมันว่านี่คือแบรนด์สำหรับคนที่เกลียดครีมกันแดด! สำหรับฉันแล้วมันไม่มีอะไรทำให้ฉันแฮปปี้ได้มากกว่าการได้อ่านหรือได้ยินว่ามีใครสักคนบอกว่าตอนนี้พวกเขาทา SPF ทุกวันเพราะผลิตภัณฑ์ของเรา นั่นเป็นเหตุผลที่เราทำสิ่งที่เราทำ ฉันต้องการให้ผู้คนทา SPF ทุกวันให้มากขึ้น เพราะมันจะกลายเป็นประสบการณ์ที่ดี
อะไรคือความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดหลังจาก Ultra Violette ได้รับความนิยมมากขึ้น?
ฉันคิดว่ามีความท้าทายอยู่เสมอในการขยายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ หรือการเติบโตโดยทั่วไป ด้วยตลาดใหม่ๆ ทำให้เราทำงานกับสภาพแวดล้อมและกฎข้อบังคับใหม่ๆ ตามไปด้วย และในด้านของการเติบโต ส่งผลให้เรากำลังรบรากับงบประมาณที่มากขึ้น และมีความท้าทายอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อคุณทำงานกับผู้ค้าปลีกระดับโลกอย่าง Sephora การจัดหาผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียวมันไม่เพียงพอ เราต้องเพิ่มการดำเนินการทางกฎหมายเพื่อรองรับการเปิดตัวที่จะตามมา และทำให้มั่นใจว่าผู้บริโภคเข้าใจแบรนด์ของคุณ เช่น การศึกษา การตลาด สื่อ ซัพพลายเชน ทั้งหมดนี้สามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก แต่สิ่งที่สำคัญต่อความสำเร็จ เรื่องสต๊อกเป็นอีก Pain Point ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง และบางครั้งแบรนด์ก็ทำให้เซอร์ไพรส์สุดๆ และถ้าคุณไม่ได้เตรียมตัวอาจทำให้เกิดปัญหาได้ การมีสต๊อกสินค้าไม่เพียงพอสำหรับอุปสงค์นับเป็นปัญหาที่เจ็บจี๊ดในใจสุดๆ เพราะเราไม่อยากทำให้ลูกค้าผิดหวังเลย
ผลิตภัณฑ์ Ultra Violette ที่คุณชื่นชอบส่วนตัวคือชิ้นไหน?
มันเหมือนกับการขอให้ฉันเลือกลูกคนโปรด (โชคดีที่ตอนนี้ฉันมีลูกเพียงคนเดียว) แต่ฉันต้องบอกว่า Daydream Screen เป็นสิ่งที่ฉันขาดไม่ได้เลยในชีวิตนี้ สูตรนี้เหมาะสำหรับผิวธรรมดา ผิวแห้ง หรือผิวขาดน้ำ มันแตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในท้องตลาด เวลาใช้จะเหมือนกับได้ทาเซรั่มที่มีน้ำหนักเบามากๆ เป็นเนื้อทินต์ที่มาพร้อม SPF 50 และช่วยให้ผิวโกลวสุดๆ ฉันชอบที่มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เดี่ยวๆ แล้วจบเลย มันเหมาะสุดๆ โดยเฉพาะสำหรับคุณแม่มือใหม่ที่มีงานยุ่งอย่างฉัน
ความยั่งยืนเป็นวาระสำคัญยิ่งในอุตสาหกรรมความงาม Ultra Violette มีแผนอย่างไรด้าน Sustainability
Sustainability คือสิ่งที่อยู่ในความคิดลำดับต้นๆ ของเราเลย เราต้องการให้สิ่งที่เราทำกับ Ultra Violette มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น บรรจุภัณฑ์แบบ PCR (การนำพลาสติกที่ใช้งานแล้วมาผ่านกระบวนการรีไซเคิล เป็นเม็ดพลาสติกและขึ้นรูปเป็นสินค้าเพื่อใช้งานโดยตรง ซึ่งเม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่ได้จะเรียกว่า Post-Consumer Recycled (PCR) Resin และมีการใช้งานโดยผสมกับพลาสติกใหม่ หรือปรับแต่งคุณสมบัติด้วยสารเติมแต่งเพื่อให้ได้คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ) ที่เราสามารถใช้ได้นั้นไม่แข็งแรงเพียงพอสำหรับผลิตภัณฑ์ SPF ค่าสูงๆ เราเพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ไซส์ใหญ่ขึ้น เริ่มที่ออสเตรเลียก่อน (ในปี 2023 จะทยอยสู่ทั่วโลก) ดังนั้นผู้บริโภคก็จะใช้บรรจุภัณฑ์น้อยลง เรายังใช้ Recyclable Card สำหรับการขนส่งบรรจุภัณฑ์ทางอีคอมเมิร์ซทั้งหมด และได้บริจาคเพื่อการกุศลอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงการที่เราเป็นพาร์ตเนอร์กับ 2 องค์กร Black Friday และ Cyber Monday ด้วย เมื่อเร็วๆ นี้เราได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนภายในทีมเพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของเรา และมั่นใจว่าเรื่อง Sustainability จะยืนหนึ่งในใจเราเสมอ
อะไรคือสิ่งที่คุณคาดหวังต่อแบรนด์ Ultra Violette ในอนาคต?
ฉันอยากให้แบรนด์ของเราเป็นที่รักและสามารถเข้าถึงได้ทั่วโลก จะทำให้ทุกคนได้ทาผลิตภัณฑ์กันแดดได้อย่างง่ายดาย ฉันต้องการให้ตู้เสื้อผ้าของ SPF ของเราสามารถตอบโจทย์และเหมาะกับสภาพผิวรวมถึงโทนสีผิวที่หลากหลาย โดยส่วนตัวแล้วฉันอยากแน่ใจว่าเรามีผลิตภัณฑ์กันแดดที่เพียงพอสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะมีสภาพผิวแบบใดพวกเขาก็จะสามารถหาผลิตภัณฑ์ที่คู่ควรจากแบรนด์ของเราได้
ภาพ: avamatthews, ultraviolette / Instagram
