ฝรั่งเศสส่งทูตกลับออสเตรเลียแล้ว ชี้เป็นสัญญาณฟื้นฟูความสัมพันธ์ จากกรณี AUKUS ฉีกสัญญาเรือดำน้ำ

วันนี้ (7 ตุลาคม) ทางรัฐบาลออสเตรเลียกล่าวต้อนรับการกลับมาของเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำกรุงแคนเบอร์ราของออสเตรเลีย หลังรัฐบาลฝรั่งเศสตัดสินใจส่งทูตกลับออสเตรเลีย ชี้เป็นสัญญาณฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ จากกรณีไตรภาคีด้านความมั่นคงอย่าง AUKUS นำไปสู่การฉีกสัญญาเรือดำน้ำที่ออสเตรเลียทำไว้กับฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2016

ทางด้าน จอร์ช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังออสเตรเลีย ระบุว่า พวกเรายินดีต้อนรับทูตฝรั่งเศสลับสู่กรุงแคนเบอร์รา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเราจะสามารถก้าวข้ามความน่าผิดหวังที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ไปได้ ทั้งฝรั่งเศสและออสเตรเลียต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะการทำงานร่วมกันภายในภูมิภาคนี้ ดังนั้นหวังว่าความสัมพันธ์ของเราทั้งสองประเทศจะกลับมาฟื้นฟูดังเดิม

โดยทางการฝรั่งเศสเรียกทูตประจำออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกากลับประเทศ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ภายหลังจากออสเตรเลียฉีกสัญญาซื้อเรือดำน้ำ 12 ลำจากฝรั่งเศสมูลค่า 6.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.23 ล้านล้านบาท) ซึ่งทางรัฐบาลออสเตรเลียจ่ายเงินในสัญญานี้ไปแล้ว 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6 หมื่นล้านบาท) โดยไตรภาคี AUKUS ที่ออสเตรเลียจับมือกับสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ จะช่วยผลักดันให้ออสเตรเลียมีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ 8 ลำ ที่พัฒนาด้วยระบบเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ได้โทรศัพท์สายตรงพูดคุยกันเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และเห็นพ้องที่จะเดินทางมาพบปะหารือกันในยุโรปช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน เผยว่า ผู้นำฝรั่งเศสยังไม่ได้รับโทรศัพท์สายตรงของเขาแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลออสเตรเลียมองว่า สิ่งที่รัฐบาลฝรั่งเศสทำในขณะนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ และเชื่อมั่นว่าสัญญาการค้ากับสหภาพยุโรปจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีสำหรับความสัมพันธ์ของออสเตรเลียและบรรดาชาติในยุโรป โดยเฉพาะฝรั่งเศส

บทความที่เกี่ยวข้อง:

แฟ้มภาพ: Chesnot / Getty Images

อ้างอิง: