ออง ซาน ซูจี ประณามทุกการกระทำที่ก่อให้เกิดวิกฤตโรฮีนจา

ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาและผู้นำคนสำคัญของเมียนมา ขึ้นกล่าวแสดงความคิดเห็นอีกครั้งต่อกรณีวิกฤตชาวโรฮีนจาในเมียนมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย หลังจากได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากประชาคมโลก เนื่องจากผู้นำประเทศเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ปี 1991คนนี้ดูเหมือนจะเพิกเฉยต่อประเด็นดังกล่าวตลอดมา

นางซูจีกล่าวว่า ตนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับทุกความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับประชาชนทุกๆ คน โดยเฉพาะวิกฤตการณ์โรฮีนจาในรัฐยะไข่ที่ส่งผลให้ชาวโรฮีนจาอพยพลี้ภัยออกนอกประเทศไปแล้วมากกว่า 410,000 คน นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตอีกเป็นจำนวนมาก

“พวกเรารู้สึกกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชาวมุสลิมในเมียนมาจนต้องอพยพหนีไปบังกลาเทศ เราขอประณามทุกการกระทำที่เป็นภัยคุกคามต่อสิทธิมนุษยชนที่ยิ่งทำให้วิกฤตการณ์ครั้งนี้แย่ลงเรื่อยๆ”

นับเป็นการขึ้นกล่าวความคิดเห็นเป็นครั้งแรก หลังจากที่นางซูจียกเลิกกำหนดการเป็นตัวแทนประเทศเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาติครั้งที่ 72 ณ มหานครนิวยอร์ก ที่เริ่มประชุมในวันนี้เป็นวันแรก ทั้งนี้เธอยังได้กล่าวเชิญชวนให้ผู้สังเกตการณ์จากภายนอกประเทศเดินทางมายังเมียนมาเพื่อรับทราบสถานการณ์จริง รวมถึงความพยายามของรัฐบาลเมียนมาที่จะแก้ไขวิกฤตการณ์ในครั้งนี้

นางซูจีกล่าวในช่วงท้ายของการถ่ายทอดสดครั้งนี้ว่า “พวกเราเตรียมพร้อมในกระบวนการตรวจสอบและพิสูจน์คุณสมบัติตลอดเวลา” เพื่อยืนยันสถานะของชาวโรฮีนจาที่เดินทางอพยพไปบังกลาเทศตั้งแต่เดือนสิงหาคมให้มีสิทธิ์ในการตั้งรกรากใหม่อีกครั้ง แต่ทั้งนี้ทางการเมียนมาไม่ได้ยืนยันว่าผู้อพยพชาวมุสลิมจะเดินทางกลับมายังเมียนมาได้ทั้งหมด

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ประชาคมโลกต่างตั้งคำถามต่อผู้นำประเทศของเมียนมาว่า ‘…เเท้จริงแล้ว นางออง ซาน ซูจี มีอำนาจเด็ดขาดมากแค่ไหนในประเทศ(อดีตเผด็จการทหาร)แห่งนี้?’

Photo: Ye Aung THU/AFP

อ้างอิง: