×

ATTA เผย ยอดนักท่องเที่ยว ม.ค. 63 หดตัว 17% แม้เป็นไฮซีซัน กดดันหุ้นท่องเที่ยว-สายการบิน

โดย SCB WEALTH
12.02.2020
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลล่าสุด (11 กุมภาพันธ์) มีจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกอยู่ที่ 43,101 คน และยอดผู้เสียชีวิต 1,018 คน (คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 2.36%) ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากเชื้อไวรัสโคโรนาได้พุ่งสูงกว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโรคซาร์สที่เคยระบาดเมื่อปี 2545-2546 โดยเหตุการณ์การระบาดของโรคซาร์สในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตจากทั่วโลก 774 คน

 

แม้เหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาจะเริ่มมีความผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากที่จำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 4,043 คน แต่เศรษฐกิจไทยยังคงถูกกดดันต่อเนื่อง จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงและภาคการผลิตในจีนที่หยุดชะงัก ซึ่งกระทบต่อโซ่อุปทาน และหนึ่งในภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดคือ ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

 

หลังจากที่ทางการจีนสั่งให้บริษัทนำทัวร์หยุดจำหน่ายแพ็กเกจท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 เริ่มเห็นสัญญาณเชิงลบที่ชัดเจนของผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย จากการที่สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) เผยตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการผ่านสมาคมฯ เดือนมกราคม 2563 อยู่ที่ 4.09 แสนคน ลดลง 17%YoY จากระดับ 4.92 แสนคน ในเดือนมกราคม 2562 โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือนมกราคม 2563 ลดลง 20.39%YoY จาก 2.84 แสนคน ในเดือนมกราคม 2562 สู่ระดับ 2.26 แสนคน ในเดือนมกราคม 2563

 

อย่างไรก็ดี ทั้งรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจ เช่น การจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและยืดระยะเวลาชำระเงินงวด 6 เดือน สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน การปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมการขึ้น-ลงของอากาศยาน การสนับสนุนให้จัดการประชุมสัมมนาในพื้นที่ต่างๆ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย

 

กระทบอย่างไร:

วานนี้ (11 กุมภาพันธ์) ราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและสายการบินยังคงปรับตัวลง นำโดย 

  • บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ลดลง 7.22%DoD
  • บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) ลดลง 3.40%DoD
  • บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ลดลง 2.96%DoD
  • บมจ. การบินไทย (THAI) ลดลง 2.68%DoD 
  • บมจ. โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ลดลง 1.33%DoD

 

มุมมองระยะสั้น:

ในระยะสั้น SCBS มองว่า ช่วงไฮซีซัน 1Q63 ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะซบเซาต่อจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง YoY อย่างมาก โดยนักท่องเที่ยวจีนนับเป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดของภาคการท่องเที่ยวไทย ซึ่งคิดเป็น 28% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2562

 

จากสถานการณ์นี้ทำให้ SCBS คาดว่า รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) ของผู้ประกอบการโรงแรมจะลดลง 4-6% ในปี 2563 ขณะที่ผู้ประกอบการโรงแรมได้รับมือกับผลกระทบครั้งนี้ โดยการมุ่งเน้นไปที่การลดต้นทุน เช่น ค่าใช้จ่ายพนักงานล่วงเวลา และลดค่าใช้จ่ายการตลาด

 

SCBS มองว่า ทิศทางอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะกลับมาดีขึ้นใน 2H63 จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุกของรัฐบาลจีนหลังเหตุการณ์ไวรัสโคโรนา อย่างไรก็ดี คงต้องจับตาอุปทานของโรงแรมที่มีทิศทางเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยข้อมูลจาก CBRE ระบุว่า อุปทานของจำนวนห้องพักในโรงแรมใจกลางเมืองกรุงเทพฯ จะเพิ่มขึ้น 7.7%YoY ในปี 2563

 

มุมมองระยะยาว:

SCBS มองว่า ในระยะยาวอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังคงมีทิศทางที่ดีจากการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของสนามบินตามแผนของ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย เช่น การปรับปรุงสนามบินอู่ตะเภา และโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดย World Travel & Tourism Council คาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยจะเพิ่มขึ้นสู่ 64.5 ล้านคน ในปี 2571 เติบโตเฉลี่ยปีละ 5.4% ในปี 2561-2571 ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลกที่เติบโตเฉลี่ยปี 3.3% ใน 2553-2573

 

ข้อมูลเพิ่มเติม:

สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (Association of Thai Travel Agents: ATTA) เป็นหน่วยงานเอกชนที่ไม่แสวงกำไร และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อประโยชน์ของสมาชิกและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising