วันนี้ (15 สิงหาคม) ตั้งแต่เวลา 17.20 น. สื่อหลายสำนักรายงานผ่านไลฟ์ มีผู้ชุมนุมเดินทางไปยังบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงและเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาข้ามตู้คอนเทนเนอร์ตอบโต้ผู้ชุมนุม ทำให้สถานการณ์เกิดการปะทะอย่างต่อเนื่อง มีการฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตาลงมาจากทางด่วน
เวลาประมาณ 18.20 น. ภายหลังจบกิจกรรม Car Park ที่แยกราชประสงค์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เดินทางมาบริเวณแยกดินแดง ซึ่งมีการเผชิญหน้าระหว่างมวลชนและเจ้าหน้าที่
ณัฐวุฒิระบุว่า “ผมเจ็บอย่างที่พี่น้องเจ็บ วันนี้ทำให้ทุกคนเห็นแล้ว อย่าว่าแต่ประยุทธ์กลัว วันนี้โควิดก็กลัวเรา” และขอให้มวลชนแยกย้ายกลับบ้านทันที โดยระบุว่าอยากให้ทุกคนกลับไปฉลองชัยชนะวันนี้ที่บ้านกับครอบครัว
ต่อมา ณัฐวุฒิ ได้ประกาศขอให้ผู้ชุมนุมถอยตามไปพร้อมกับรถเครื่องเสียงของเขา มีบางส่วนถอยตามไป ขณะเดียวกันยังมีผู้ชุมนุมเดินเข้าไปแนวคอนเทนเนอร์ กระทั่งมีผู้ชุมนุมทยอยกลับมาที่แยกดินแดงและรุกไปทางฝั่งตรงข้ามกรมทหารราบที่ 1 บริเวณถนนมิตรไมตรี
ทวิตเตอร์ iLaw รายงานว่า เวลา 19.13 น. มีเพลิงไหม้ที่ป้อมจราจรที่แยกดินแดง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกทุบไปแล้วเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา
เวลา 19.24 น. ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ขึ้นไปบนทางด่วนดินแดง มีการใช้แก๊สน้ำตา ผู้ชุมนุมล่าถอยไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีการจุดพลุจากฝั่งผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. นักข่าว Voice TV รายงานว่าตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) บุกเข้ามาที่พักประชาชนบริเวณแฟลตดินแดง ยิงกระสุนยางถูกผู้อยู่ในที่พักอาศัย และช่างภาพถูกยิงบริเวณขา
พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยว่า สามารถคุมสถานการณ์แยกสามเหลี่ยมดินแดงได้แล้ว อยู่ระหว่างการเคลียร์พื้นที่ ขณะเดียวกันควบคุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 3 รายพร้อมอาวุธปืนและมีดได้ที่แยกสามย่าน
ส่วนภาพรวมจัดการชุมนุม Car Park ที่มีการจัดคู่ขนานกันประมาณ 30 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ถือว่ามีความผิด โดยเฉพาะกลุ่มที่ก่อเหตุความวุ่นวาย ซึ่งการดำเนินคดีเป็นหน้าที่ของฝ่ายกฎหมายในการรวบรวมพยานหลักฐาน
