วันนี้ (10 กันยายน) ตั้งแต่เวลา 11.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มผู้ชุมนุม ทยอยเดินมารอร่วมกิจกรรม ภายหลังจากกลุ่มแนวร่วมราษฎร ประกอบด้วย กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, กลุ่มทะลุฟ้า, กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี, กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก ที่นัดหมายทำกิจกรรม ‘ยื่นหยุดขัง’ เพื่อเรียกร้องและส่งเสียงถึงความต้องการให้คืนสิทธิการประกันตัว และปล่อยตัวแกนนำและผู้ชุมนุมที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ รวมทั้งหมด 7 คน ซึ่งเป็นช่วงเวลาครบ 1 เดือน
สำหรับกิจกรรมวันนี้ ผู้ชุมนุมจะเริ่มเคลื่อนขบวนโดยใช้เส้นทางเริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากนั้นไปสะพานพระปิ่นเกล้า เลี้ยวเข้าถนนบรมราชชนนี เข้าสะพานพระราม 7 มุ่งหน้าไปศาลอาญา เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลในการปล่อยตัวผู้ชุมนุม จากนั้นจะเคลื่อนขบวนต่อไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ทั้งกิจกรรมกรรมปล่อยนกที่สื่อถึงเสรีภาพ
ด้าน กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า วันนี้ทีมทนายความจะเดินทางไปยื่นขอประกันตัวแกนนำที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก, ศาลอาญากรุงเทพใต้ และศาลจังหวัดธัญบุรี ที่จังหวัดปทุมธานี ขณะที่วันนี้ยังมีนัดไต่สวน ในส่วนของคดี อานนท์ นำภา จากกิจกรรมชุมนุมแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ศาลอาญากรุงเทพฯ ใต้
ต่อมาเวลา 11.40 น. เจษฎา ศรีปลั่ง หรือเจมส์ โฆษกเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มปล่อยขบวนว่า ในวันนี้ตัวแทนแต่ละกลุ่มทั้ง 5 เครือข่ายจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อศาลอาญา เพื่อให้มีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อนแกนนำ เพราะเพื่อนแกนนำที่ถูกขังในเรือนจำขณะนี้ไม่ได้กระทำความผิดใด
ในหนังสือจะมีการพูดถึงมาตราสิทธิเสรีภาพว่าควรจะได้รับอย่างไร จากนั้นจะเคลื่อนพลไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อเปิดเวทีปราศรัย และจะมีการทำกิจกรรมปล่อยนกเพื่อแสดงออกทางสัญลักษณ์เกี่ยวกับเพื่อนกลุ่มแกนนำที่จะได้รับการปล่อยตัว โดยส่วนตัวหวังว่าทั้งหมดจะได้รับอิสรภาพในวันนี้
แต่หากวันนี้ไม่ได้รับการปล่อยตัว พรุ่งนี้ก็จะมีอีกกลุ่มเดินทางไปศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อทำกิจกรรมต่อเนื่องเช่นกัน
ด้าน ชนินทร์ วงษ์ศรี หรือบอล จากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวว่า กลุ่มแนวร่วมฯ ขอร่วมต่อสู้กับเครือข่ายนนทบุรีและกลุ่มอื่นๆ เพื่อยืนยันข้อร้องเรียนไปถึงตุลาการ และเรียนไปถึงศาล ขอให้ตัดสินด้วยความยุติธรรม ตัดสินด้วยหลักสิทธิมนุษยชน คำนึงถึงสิทธิผู้ที่อยู่ในเรือนจำ โอกาสในการศึกษา โอกาสการใช้ชีวิตทำสิ่งที่รัก โอกาสในการต่อสู้คดี แต่กลับถูกจองจำ
ด้าน สมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กล่าวถึงประเด็นวันนี้ ที่จะมีการเรียนถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ว่าในรัฐธรรมนูญ มาตรา 29 มีการระบุไว้ว่าในคดีอาญาให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิดและก่อนมีคำพิพากษาอันเป็นที่สุด จะกระทำกับบุคคลนั้นเสมือนผู้ผิดไม่ได้ การคุมขังในเรือนจำทำได้เท่าที่จำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้มีการหลบหนี
แต่ที่ผ่านมาก็ปรากฏว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่มีพฤติกรรมแห่งการหลบหนีมีที่อยู่อาศัยหลักแหล่งชัดเจนและเป็นการเคลื่อนไหวตามสิทธิเสรีภาพเพื่อประชาธิปไตยภายใต้ระบอบประชาธิปไตย
ส่วนตัวมองว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญต้องเป็นบรรทัดฐานสำคัญที่ต้องไม่ถูกเพิกเฉยหรือนำมาตีความในทางที่ไม่เป็นทุนต่อผู้ที่ถูกกล่าวหาต่อจำเลย ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการที่ผิดต่อหลักนิติธรรม
ด้าน ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ลูกนัท กล่าวว่าเห็นด้วยกับทุกประเด็นที่สมยศได้พูดก่อนหน้า ตัวเองขอตราหน้ารัฐบาลว่าเกรงกลัวต่อความยุติธรรม กลัวต่อประชาธิปไตยนักศึกษาที่ตาสว่างและต้องการความจริง รัฐบาลกลับบิดเบี้ยวหลักกฎหมาย
สำหรับเพื่อนแกนนำที่ถูกปฏิบัติอย่างไร้สิทธิมนุษยธรรมและถูกลิดรอนสิทธิ์ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพื่อนแกนนำทุกคนนับว่าเป็นคนที่กล้าหาญและเสียสละมาก ส่วนตัวได้เจอพริษฐ์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้ประกาศไปแล้วว่า เพนกวินคือเพื่อนของตน ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าตัวเองจะขอเรียกร้องให้ศาลให้ประกันเพื่อนทุกคน และจะทำทุกวิถีทางเคียงข้างเพื่อนแกนนำเพื่อประชาธิปไตยเพื่อเสรีภาพ
ก่อนที่ในเวลา 12.05 น. ขบวน Car Mob จะเคลื่อนออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปตามเส้นทางที่ได้วางแผนไว้
