×

Asian Games 2018

03.09.2018
  • LOADING...

มหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซียได้จบลงอย่างเป็นทางการ พร้อมกับการส่งมอบธงการแข่งขันสู่เจ้าภาพครั้งต่อไป หางโจว ประเทศจีน ในปี 2022 เป็นที่เรียบร้อย

 

THE STANDARD จึงได้รวบรวมผลงานทัพนักกีฬาทีมชาติไทยในมหกรรมครั้งนี้ รวมถึงเหตุการณ์ความประทับใจต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดการแข่งขันช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

 

 

อรุณเบิกฟ้านักกีฬาเทควันโดพุมเซ่ไทยออกโบยบินสู่เหรียญทองแรกหลังพิธีเปิดการแข่งขันเอเชียนเกมส์เพียง 1 วัน โดย กชวรรณ ชมชื่น, เพ็ญกัญญา ไพศาลเกียรติกุล และ อรนวีย์ ศรีสหกิจ เทควันโดพุมเซ่ (ท่ารำ) ประเภททีมหญิง ทีมชาติไทยทำคะแนนได้ 8.120-8.200 จบเป็นอันดับที่ 1 และประเดิมเหรียญรางวัลให้กับทัพนักกีฬาไทยไปเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2561

 

 

โค้ชเช-ชเวยองซอก โค้ชเทควันโดทีมชาติไทยประกาศสละสัญชาติเกาหลีใต้ ขอเป็นคนไทยหลังการร่วมงานกับทีมชาติไทยกว่า 16 ปี และหลังจากพาทัพเทควันโดคว้า 2 เหรียญทองแถมด้วย 2 เหรียญทองแดง ตามเป้าหมายในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 18

 

 

เซปักตะกร้อทีมชาติไทยที่ลงแข่งและคว้าเหรียญทองได้ทุกรายการตามเป้าหมายที่ 4 เหรียญทอง พร้อมกับสถิติการคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ที่ 10 สำหรับ พรชัย เค้าแก้ว นักตะกร้อทีมชาติไทยผู้เป็นเจ้าของสถิติคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย

 

 

นับเป็นการอำลาของ ปลื้มจิตร์ ถินขาว, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, นุศรา ต้อมคำ, อรอุมา สิทธิรักษ์ และ มลิกา กันทอง จาก 7 เซียนของตำนานวงการวอลเลย์บอลไทยในเอเชียนเกมส์อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการผ่านเข้าไปชิงเหรียญทองเอเชียนเกมส์เป็นครั้งแรก ด้วยการชนะเกาหลีใต้ในรอบรองชนะเลิศไป 3-1 เซต

 

แม้ว่าในรอบชิงชนะเลิศไทยจะพ่ายให้กับจีนไป 3 เซตรวด แต่ผลงานในครั้งนี้ที่สามารถคว้าเหรียญเงินมาครองได้ ก็นับเป็นความสำเร็จสูงสุดของวอลเลย์บอลหญิงไทยในการแข่งขันเอเชียนเกมส์เลยทีเดียว

 

 

เป็นหนึ่งในความประทับใจที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่ถึงวินาทีในการแข่งขันจักรยานคิรินชาย เมื่อ ทีเจ-จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย วัย 23 ปี โชว์พลังขาในช่วงท้ายด้วยการยกล้อเข้าเส้นชัยและแซงนักปั่นญี่ปุ่นไปอย่างฉิวเฉียด คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์จักรยานคิรินชายให้กับทัพนักกีฬาจักรยานไทยได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา

 

โดยการคว้าเหรียญทองครั้งนี้นับเป็นเหรียญรางวัลประวัติศาสตร์เหรียญแรกของทัพจักรยานไทยในเอเชียนเกมส์ นับตั้งแต่มีการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 2002 ที่ปูซาน เกาหลีใต้ ขณะที่เหรียญเงินตกเป็นของ นิตตะ ยูได จากญี่ปุ่น ตามหลัง 0.003 วินาที และเหรียญทองแดง โมฮาหมัด อาซิซุลฮัสนี อาหวัง จากมาเลเซีย ตามหลัง 0.062 วินาที

 

 

จากความล้มเหลวในโอลิมปิกปี 2016 วันนี้ ณี-สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักกีฬายิงเป้าบินทีมชาติไทยวัย 32 ปี ก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของโพเดียมได้สำเร็จในมหกรรมกีฬาระดับเอเชีย ด้วยการคว้าเหรียญทองที่ 9 ให้กับทัพนักกีฬาไทยเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม นอกจากนี้เป็นการสร้างสถิติเอเชียนเกมส์ที่ 55 คะแนน

 

โดย ณี สุธิยา คว้าเหรียญทองแดงมาได้ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์เมื่อปี 2010 และ 2014 ก่อนจะสร้างความสำเร็จสูงสุดในการคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2016 ก่อนจะตกรอบคัดเลือกในโอลิมปิกเกมส์ที่บราซิลในปีเดียวกัน

 

แต่ปีนี้เธอมาพร้อมกับความมุ่งมั่น และเชื่อว่าความสำเร็จในเอเชียนเกมส์ปีนี้จะเป็นการสร้างความมั่นใจครั้งสำคัญให้เธอเล็งเป้าไปสู่เหรียญทองในโอลิมปิกปี 2020 ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างแน่นนอน

 

 

ภาพของ ชญาณิศา ชื่นชมดี นักกระโดดค้ำถ่อหญิงทีมชาติไทยวัย 29 ปี แพร่กระจายอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม หลังจากที่เธอสามารถสร้างสถิติประเทศไทยด้วยการลงแข่งขันกระโดดค้ำถ่อหญิง และได้ความสูงใหม่ที่ 4.30 เมตร ทำลายสถิติประเทศไทยที่เธอทำไว้เองที่ 4.21 เมตร ในปี 2013 พร้อมกับการคว้าเหรียญเงินแรกของทัพนักกรีฑาไทยในเอเชียนเกมส์อีกด้วย

 

โดยชญาณิศา หรือ แอ๋ม ได้เผยถึงความรู้สึกหลังการคว้าเหรียญรางวัลเอเชียนเกมส์เป็นครั้งแรกจากการแข่งขันทั้งหมด 3 ครั้งที่ผ่านมาว่า ระหว่างตอนกระโดดภาวนาและคิดถึงพ่อแม่ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญตลอดมา ซึ่งหลังจบการแข่งขันเธอก็วางแผนเตรียมกลับไปล้างเท้าพ่อแม่ที่จังหวัดร้อยเอ็ดอีกด้วย

 

 

ฟุตบอลทีมชาติไทย ยู-23 ถือว่าเป็นทีมที่หลายคนผิดหวังจากฟอร์มการเล่น และผลงานที่สุดท้ายตกรอบแบ่งกลุ่มโดยมีเพียง 2 คะแนนจากสามนัด แม้ว่าจะจบอันดับที่ 4 ในเอเชียนเกมส์ครั้งที่แล้วที่อินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปี 2014

 

จนสุดท้ายหลังจบการแข่งขัน ก็ได้นำไปสู่การตั้งคำถามเรื่องการเตรียมพร้อมของทีมชาติ และนำไปสู่การปลดโค้ชโย่ง-วรวุฒิ ศรีมะฆะ พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดนี้

 

ในห้วงเวลาที่ใกล้กับการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ หรือการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนปี 2018 ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ จึงดูเป็นเป้าหมายสำคัญของฟุตบอลไทยในการเริ่มต้นสร้างทีมชุดยู-23 ใหม่ไปพร้อมๆ กับศรัทธาของแฟนบอล ซึ่งดูแล้วว่ามาตรฐานที่เราได้เคยสร้างไว้จะมีแค่แชมป์เท่านั้นถึงจะเป็นจุดพอใจของทุกฝ่าย

 

 

ก่อนการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 18 นี้จะเริ่มต้นขึ้น มวยสากลทีมชาติไทยได้รับข่าวดีเมื่อ ฮวน ฟอนตาเนียล ช่างเจียระไนหมัดไทยชาวคิวบา เจ้าของผลงานพาไทยสู่ทองแรกโอลิมปิกปี 1994 กลับมาฝึกสอนทีมชาติไทยอีกครั้งในฐานะโค้ชมวยหญิง

 

ซึ่งเส้นทางกลับสู่ความสำเร็จของไทยเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม สำนักข่าวไทยรายงานตรงกันว่า ไทยมีลุ้นถึง 6 เหรียญทอง เมื่อนักกีฬาไทยสามารถผ่านเข้ามาสู่รอบรองชนะเลิศเอเชียนเกมส์ได้สำเร็จถึง 6 รุ่น

 

แต่สุดท้ายเมื่อการแข่งขันรอบรองชนะเลิศผ่านพ้นไปจนถึงวันสุดท้าย ทัพมวยสากลกลับทำได้เพียง 1 เหรียญเงิน 5 เหรียญทองแดง โดยผลงานดีที่สุดเป็นของ แต้ว-สุดาพร สีสอนดี ในรุ่น 60 กิโลกรัมหญิง ที่พ่ายในรอบชิงชนะเลิศไป 4-1 เสียงให้กับ โอยอนจี นักชกจากเกาหลีใต้ ขณะที่มวยสากลชายสร้างสถิติไม่มีนักมวยขึ้นชกในรอบชิงเหรียญทองเป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี

 

ทำให้หลังจบมหกรรมครั้งนี้ มวยสากลทีมชาติไทยจำเป็นต้องกลับมาทบทวนข้อผิดพลาด และสิ่งสำคัญคือการพิจารณาผลงานของ จูเลียน ริคาร์โด กอนซาเลซ เซเดโย เฮดโค้ชชาวคิวบาของมวยสากลชายว่า สุดท้ายแล้วมวยสากลสไตล์คิวบายังคงสร้างความได้เปรียบและเข้ากับกฎกติกาของมวยสากลสมัครเล่นรูปแบบใหม่ที่ไร้เฮดการ์ดได้อยู่หรือไม่

 

 

การแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 18 มีหลายครั้งที่นักกีฬาไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย และก็มีนักกีฬาอีกหลายคนที่สามารถทำได้เหนือความคาดหมาย แต่เสน่ห์อย่างหนึ่งของกีฬาคือโอกาสสำหรับการเริ่มต้นใหม่ เพราะไม่มีใครท่ีจะสามารถชนะได้ตลอดไป เช่นเดียวกัน ไม่มีใครที่สามารถแพ้ได้ตลอด

 

แต่สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือการเตรียมพร้อมอย่างมีประสิทธิภาพ หลายกีฬาที่ไทยประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นวอลเลย์บอลหญิงที่สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศจนหยิบเหรียญเงินมาครองได้สำเร็จ จนถึงนักกีฬาอีกหลายคนที่ปลดล็อกเหรียญรางวัลให้กับตัวเอง และกีฬาชนิดนั้นให้กับไทยได้เป็นครั้งแรก

 

ทุกอย่างเกิดจากการลงทุน และการลงทุนที่สำคัญที่สุดคือการลงทุนกับเวลา เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ทุกคนมีเท่ากันหมด เพียงแค่ว่าใครจะสามารถใช้ประโยชน์จากเข็มนาฬิกาที่เดินไปข้างหน้าอย่างไม่มีวันหยุดได้ขนาดไหน

 

เอเชียนเกมส์ที่อินโดนีเซียเป็นมหกรรมกีฬาระดับสากลสุดท้ายก่อนที่โอลิมปิกจะเริ่มต้นขึ้นในปี 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เวลา 690 วันที่เหลือนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญของการทบทวนและเริ่มต้นใหม่ อะไรที่สำเร็จก็ต้องต่อยอด อะไรที่ล้มเหลวก็อาจถึงเวลาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เพราะก้าวที่สำคัญที่สุดไม่ว่าคุณจะเล่นกีฬาชนิดใดหรืออยู่ในวงการไหนก็ตาม คือ ก้าวต่อไป

 

ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising