วันนี้ (11 กุมภาพันธ์) พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) กล่าวถึงการตอบข้อซักถามถึงประเด็นที่กระทรวงคมนาคมตั้งข้อสงสัย ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ผ่านมาว่า ขอให้ไปถามกระทรวงมหาดไทย ซึ่งทางพรรคภูมิใจไทยได้มีการตั้งคำถามใน 4 ประเด็น ซึ่งก็ได้มีการตอบไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว และได้มีการต่อไปหลายครั้งแล้ว ส่วนจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ข้างบน ถือว่าในส่วนของ กทม. นั้นหมดหน้าที่แล้ว และได้ทำทุกอย่างครบ พร้อมกับย้ำว่าได้ตอบคำถามไปยังกระทรวงมหาดไทยครบถ้วนทุกอย่างแล้ว และได้ตอบมา 8 รอบแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จะจบในยุคของ พล.ต.อ. อัศวิน ดำรงตำแหน่งหรือไม่นั้น พล.ต.อ. อัศวิน กล่าวว่า ก็แล้วแต่ธรรมชาติ ส่วนตัวอย่างไรก็ได้ เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยของตนเองด้วยซ้ำ และเป็นเรื่องที่มีมานาน 20-30 ปีแล้ว ซึ่งตนเองเข้ามาสานต่อให้จบตามหน้าที่ที่ต้องทำให้ถูกต้องตามกระบวนการทางกฎหมายทุกอย่าง และได้มีการหารือกับทุกภาคส่วนแล้ว ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ พร้อมยืนยันว่าตนนั้นทำตามคำสั่งอย่างเดียว แต่ยืนยันว่าตนเองได้ดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่างและหารือกับฝ่ายกฎหมายทุกส่วน เพราะอยากทำให้เกิดความถูกต้อง ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีแผนที่จะลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อใดนั้น พล.ต.อ. อัศวิน กล่าวว่า ต้องรอกฤษฎีกาประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ก่อน ตนเองจึงจะตัดสินใจว่าจะลาออกหรือไม่ ซึ่งหากตนลาออก จะหมายความว่าสมัคร แต่หากไม่ลาออกแล้วอยู่จนครบวาระก็แปลว่าไม่สมัคร จึงขอตัดสินใจในวันนั้น เพราะมีเวลาถึง 3 วัน ซึ่งการตัดสินใจนั้นง่าย ไม่ได้ยุ่งยากอะไร
ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หากง่ายแล้วทำไมไม่ประกาศลงชิงตำแหน่งเลย พล.ต.อ. อัศวิน ย้ำว่า ก็เพราะง่ายไง ตนก็ประกาศในวันนั้น แต่ตอนนี้ยังเป็นผู้ว่าฯ กทม. จะประกาศไปทำไมว่าลงสมัคร
ขณะที่แนวโน้มจะลงสมัครเพื่อสานงานต่อหรือไม่ พล.ต.อ. อัศวิน ย้ำว่า มีเวลาตัดสินใจ 3 วันหลังประกาศกฤษฎีกาถึงจะตัดสินใจ พร้อมทั้งปฏิเสธเผื่อเวลาหาเสียงด้วย ก่อนเดินเข้าห้องประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ทันที