Asahi Breweries เพิ่มราคาให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มส่วนใหญ่ ซึ่งรายงานของ Nikkei Asia ชี้ว่าเป็นการผลักภาระด้านต้นทุนส่วนผสมและบรรจุภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้นให้กับลูกค้า ซึ่งอาจกระตุ้นให้คู่แข่งทำตาม
การปรับขึ้นราคาจะเริ่มมีผลในวันที่ 1 ตุลาคม ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ 162 รายการ ซึ่งรวมถึงเบียร์ Asahi Super Dry ซึ่งเป็นสินค้าดาวเด่น รวมไปถึงเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ค็อกเทลกระป๋อง วิสกี้ โดยราคาเบียร์บนชั้นวางจะเพิ่มขึ้น 6-10% ในขณะที่วิสกี้ราคาอาจเพิ่มขึ้น 7-17%
นี่ถือเป็นการขึ้นราคาขายปลีกครั้งแรกของ Asahi ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2008 เช่นเดียวกับการขึ้นราคาลูกค้าเชิงพาณิชย์ครั้งแรกตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระให้กับร้านอาหารและบาร์ที่ยังคงพยายามฟื้นตัวจากการระบาดของโรคโควิด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- 7-Eleven ญี่ปุ่นขาย ‘คราฟต์เบียร์’ 300 ยี่ห้อ ปรากฏการณ์สะท้อนสวรรค์-นรก ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แดนซามูไร
- แม่ทัพคนใหม่ของ Asahi หวังไม่มาก อยากให้ ‘เบียร์ Super Dry’ ก้าวเข้าสู่ 10 อันดับแรกของเบียร์ทั่วโลกภายในปี 2030 เท่านั้นเอง
- ขายเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ-บุกอีคอมเมิร์ซ ทางออกของผู้ผลิตเบียร์ญี่ปุ่น เพื่อชดเชยความเสียหายจากโควิด-19
การขึ้นราคานี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อชดเชยราคาที่เพิ่มขึ้นของปัจจัยการผลิต เช่น ข้าวบาร์เลย์และอะลูมิเนียม หลังบริษัทแม่ Asahi Group Holdings ออกมาประเมินว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น 4 หมื่นล้านเยน หรือ 1.07 หมื่นล้านบาทในปีนี้
แม้ทางการญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะลดภาษีสุราในปี 2023 และ 2026 ซึ่ง อัตสึชิ คัตสึกิ ประธานกลุ่ม Asahi กล่าวว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดเบียร์ แต่ผลกระทบจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียที่มีต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ประกอบกับค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเร็วๆ นี้ ได้เพิ่มความตึงเครียดให้กับอุตสาหกรรม
คู่แข่งของ Asahi ประสบปัญหาเดียวกัน ต้นทุนรวมของผู้ผลิตเบียร์ชั้นนำ 4 แห่งของญี่ปุ่น ได้แก่ Asahi, Kirin Holdings, Suntory Holdings และ Sapporo Holdings คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 8 หมื่นล้านเยนในปีนี้
อ้างอิง: