ถึงแม้ว่าฟีเจอร์ต่างๆ และความแพร่หลายของไวรัลคลิปวิดีโอตอนสั้นจะส่งผลให้แอปพลิเคชันสัญชาติจีนอย่าง TikTok ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในตลอดปี 2019 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายนี้ยังต้องผจญกับอุปสรรคที่พวกเขายังต้องก้าวข้ามอีกมาก โดยเฉพาะประเด็นการสร้างความเชื่อใจให้กับสหรัฐอเมริกา
ล่าสุดมีรายงานว่ากองทัพบกสหรัฐฯ ได้ประกาศแบนห้ามไม่ให้ทหารในกองทัพใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok แล้ว พร้อมให้เหตุผลว่าการใช้งานแพลตฟอร์มวิดีโอของบริษัท ByteDance นับเป็นความเสี่ยง และภัยคุกคามความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา
พันโท โรบิน โอชัว (Lt. Col. Robin Ochoa) โฆษกประจำกองทัพบกสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Military.com ว่า “มัน (TikTok) ถูกจัดให้เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ เราไม่อนุญาตให้ใครก็ตามติดตั้งมันบนโทรศัพท์ที่ใช้ในงานราชการ”
รายงานเพิ่มเติมบอกอีกด้วยว่าไม่ใช่แค่กองทัพบกสหรัฐฯ เท่านั้นที่ไม่ไว้วางใจให้พลทหารในสังกัดดาวน์โหลดและใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok เพราะกองทัพเรือก็มีคำสั่งกำชับให้ทหารเรือทุกนายปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน นั่นคือห้ามไม่ให้ติดตั้งแอปฯ ลงบนสมาร์ทโฟนที่ใช้งานราชการ อย่างไรก็ดี Military.com ระบุว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมในประเด็นที่เกี่ยวข้อง
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว TikTok ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก คณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐอเมริกาได้สอบสวนพวกเขาเพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลที่ผู้ใช้งานแชร์บนแพลตฟอร์มถูกรัฐบาลจีนจัดเก็บและควบคุมหรือไม่
โดยสองวุฒิสมาชิกสหรัฐอเมริกา ทอม คอตตอน และ ชัค ชูเมอร์ ชี้ว่าแอปฯ TikTok มีศักยภาพมากพอจะเข้ามาเป็นเครื่องมือแทรกแซงการเลือกตั้ง รวมถึงการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ซึ่งในกรณีนี้ถือเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงของรัฐบาลจีน อย่างไรก็ตาม TikTok ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้กรณีดังกล่าว โดยบอกว่าข้อมูลของผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ทั้งหมดถูกจัดเก็บในสหรัฐฯ และสำรองข้อมูลไว้ที่ Data Center ที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์
นั่นจึงหมายความว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่รัฐบาลจีนจะแทรกแซงเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดได้ ที่สำคัญข้อมูลที่อยู่บนแอปฯ TikTok ก็ไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายและการควบคุมของรัฐบาลจีน การลบคอนเทนต์ใดๆ ก็ตามจึงไม่ได้ดำเนินตามคำสั่งของรัฐบาลจีน (เป็นไปตามนโยบายบริษัท) และยืนยันว่าจะไม่ลบคอนเทนต์ใดๆ หากจีนร้องขอให้พวกเขาต้องทำแน่นอน พร้อมสัญญาจะเดินหน้าให้ความสำคัญกับประเด็นภัยไซเบอร์ และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานต่อไป
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
