รัฐบาลอาร์เจนตินาประกาศมาตรการรัดเข็มขัดครั้งใหญ่ เพื่อกอบกู้วิกฤตค่าเงินเปโซที่ร่วงลงอย่างหนัก โดยหนึ่งในมาตรการเร่งด่วนคือ การยุบกระทรวงลงครึ่งหนึ่ง เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณให้ได้ภายในปี 2019 นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเมาริซิโอ มาครี ยังเตรียมปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เพื่อเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างจริงจัง
ประธานาธิบดีมาครีแถลงสดออกโทรทัศน์ทั่วประเทศว่า อาร์เจนตินาจำเป็นต้องลดรายจ่าย และไม่สามารถใช้จ่ายเกินรายรับที่ได้อีกต่อไป พร้อมสั่งลดจำนวนกระทรวงลงครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เขายังไม่เปิดเผยว่ากระทรวงใดจะถูกยุบหรือไปรวมกับกระทรวงอื่น แต่คาดว่าการหั่นงบประมาณจะทำให้เจ้าหน้าที่กระทรวงครึ่งหนึ่งต้องตกงาน
นอกจากนี้รัฐบาลยังออกมาตรการเก็บภาษีสินค้าส่งออกจำพวกธัญพืช โดยอาร์เจนตินาเป็นผู้ผลิตข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองรายใหญ่ และเป็นผู้ส่งออกน้ำมันถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุด โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้าเป็นต้นไป สินค้าส่งออกขั้นปฐมภูมิเหล่านี้จะถูกเรียกเก็บภาษี 4 เปโซต่อมูลค่าสินค้าทุกๆ 1 เหรียญสหรัฐ ส่วนสินค้าแปรรูปจะถูกจัดเก็บภาษี 3 เปโซต่อมูลค่าสินค้าทุกๆ 1 เหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม มาตรการเหล่านี้ยังห่างไกลจากเงื่อนไขที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กำหนดไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม เพื่อแลกกับเงินกู้ฉุกเฉิน แต่กระนั้นรัฐบาลระบุว่า อาร์เจนตินาจะสามารถจัดทำงบประมาณที่สมดุลภายในปีหน้า หลังจากที่เคยกำหนดเป้าหมายยอดขาดดุลงบประมาณไว้ที่ระดับ 1.3% ของผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ส่วนภายในปี 2020 อาร์เจนตินาตั้งเป้ามีงบประมาณเกินดุลที่ 1%
สกุลเงินเปโซของอาร์เจนตินาอ่อนค่าลงประมาณ 50% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ธนาคารกลางต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 60% แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่สามารถสกัดการร่วงลงของค่าเงินเปโซได้
ขณะที่ นิโคลัส ดูจอฟเน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอาร์เจนตินา เตรียมเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันนี้ เพื่อหารือเงื่อนไขกับ คริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการ IMF ในการอนุมัติเบิกจ่ายเงินกู้แต่ละงวดรวมมูลค่า 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: