Apple กำลังเปิดตัวบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมกับ Goldman Sachs สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต ตอกย้ำความทะเยอทะยานของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพิ่มเติมแก่ฐานผู้ใช้ iPhone กว่าพันล้านราย
Apple กล่าวว่าบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงจะพร้อมใช้งานสำหรับลูกค้า Apple Card ‘ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า’ แต่ Goldman Sachs อยู่เบื้องหลัง Apple Card ยังไม่ประกาศอัตราผลตอบแทนรายปี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
มีการขยายความว่า บริการดังกล่าวจะไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่มีเงินฝากขั้นต่ำ และไม่มีข้อกำหนดยอดเงินขั้นต่ำ ในไม่ช้า ผู้ใช้สามารถใช้จ่าย ส่ง และบันทึกเงินสดรายวันได้โดยตรงจากแอป Wallet
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เมื่อ Apple บุก ‘ธุรกิจสินเชื่อ’ เต็มตัว ด้วยการตั้งบริษัท ‘Apple Financing’ เสริมทัพบริการ ‘ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง’
- Apple Card ถูกกระหน่ำร้องเรียนจากความผิดพลาดของระบบการคืนเงิน เมื่อลูกค้าปฏิเสธที่จะชำระเงิน
- อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ โหมกลยุทธ์ ‘ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง’ รับเทศกาลช้อปปิ้งส่งท้ายปี ด้านผู้เชี่ยวชาญเตือนผู้ซื้อระวังค่าธรรมเนียม-ดอกเบี้ยบาน
คาดว่าการเปิดตัวบัญชีออมทรัพย์ใหม่ จะเข้ามากระชับความสัมพันธ์ระหว่าง Apple กับ Goldman ซึ่งทำงานร่วมกันใน Apple Card โดย Goldman นั้นเป็นที่รู้จักกันมานานในฐานะวาณิชธนกิจชั้นนำของ Wall Street
การกระโดดเข้าสู่บัญชีที่มีดอกเบี้ยนั้น ทำให้มีการมองว่า Apple กำลังใช้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ พยายามที่จะลดอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น
ขณะที่ธนาคารแบบดั้งเดิมหลายแห่งไม่ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในบัญชีออมทรัพย์ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยในวงกว้างจะเพิ่มขึ้นก็ตาม อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของอเมริกาสำหรับบัญชีออมทรัพย์มีเพียง 0.16% จากการสำรวจของ Bankrate
ตัวแทนของ Apple กล่าวว่า บัญชีออมทรัพย์จะเสนออัตราดอกเบี้ยที่สามารถแข่งขันได้ โดยมีอัตราที่ดีที่สุด และจะเหมือนกันสำหรับผู้ใช้ทั้งหมด
ความทะเยอทะยานด้านการเงินของ Apple เกิดขึ้นเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ด้วยการเปิดตัว Apple Pay และขณะนี้ได้ขยายไปถึงบัตรเครดิตและการผ่อนชำระ อย่างบริการ Buy Now Pay Later หรือซื้อก่อนจ่ายทีหลัง ซึ่งเปิดตัวแล้วแต่ยังไม่ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
บัตรเครดิตของ Apple เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2019 และพร้อมให้บริการในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ปัจจุบัน Apple Card เสนอเงินคืน 1% ในขณะที่ Apple Pay ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินแบบไร้สัมผัสเสนอให้ 2%
ธุรกิจบริการของ Apple กำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในการขับเคลื่อนอัตรากำไร และโมเมนตัมของรายได้ในช่วงเวลาที่การเติบโตของ iPhone มีจำกัด
ไตรมาสที่แล้วรายได้จากธุรกิจบริการรวมถึงรายรับจาก App Store และการซื้อสื่อดิจิทัลเพิ่มขึ้น 12% เป็น 1.96 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 7.5 แสนล้านบาท โดยมีผู้ใช้ 860 ล้านคนทั่วโลกชำระค่าสมัครรับข้อมูลอย่างน้อยหนึ่งครั้ง
ภาพ: Courtesy of Apple
อ้างอิง: