ศาลสูงแคลิฟอร์เนียในซานตาคลารา ตัดสินให้ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Apple สตีฟ วอซเนียก แพ้ในการฟ้องร้อง YouTube ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มวิดีโอรายใหญ่ของโลก กรณีที่ปล่อยให้มีการเผยแพร่วิดีโอที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง Bitcoin ซึ่งแอบอ้างชื่อและใช้รูปของเขา
ทั้งนี้ผู้พิพากษาระบุในคำตัดสินเบื้องต้นว่า วอซเนียกและโจทก์ที่ร่วมกันฟ้องร้องอีก 17 คน ไม่สามารถเอาผิดกับแพลตฟอร์มวิดีโอชื่อดังได้ เนื่องจาก YouTube รวมถึงบริษัทแม่ Google LLC ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายของรัฐบาลกลางที่เขียนไว้ว่าผู้ให้บริการแพลตฟอร์ตอินเทอร์เน็ตไม่ต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหาที่ถูกนำเสนอหรืออัปโหลดโดยผู้ใช้บริการหรือยูสเซอร์
วอซเนียกได้โต้แย้งว่า มาตรา 230 แห่งพระราชบัญญัติความเหมาะสมในการสื่อสาร ไม่ควรถูกนำมาใช้เพื่อปกป้อง YouTube ในกรณีนี้ เนื่องจาก YouTube ล้มเหลวในการถอดวิดีโอออกอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ YouTube ยังส่งเสริมการกระทำผิดผ่านการรับรองและขายโฆษณาแบบเจาะจงเป้าหมายให้กับแชนแนลดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ผู้พิพากษา Sunil R. Kulkarnia มองว่าข้อโต้แย้งของวอซเนียกไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะฟ้องร้องเอาผิด YouTube โดยศาลได้ให้เวลาวอซเนียก 30 วันเพื่อตัดสินใจว่าจะสู้คดีต่อหรือไม่
การหลอกลวงกรณีนี้เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา โดยมิจฉาชีพได้โชว์รูปของวอซเนียกในการถ่ายทอดสดแจก Bitcoin บนแพลตฟอร์ม YouTube โดยประกาศว่าใครก็ตามที่ส่ง Bitcoin มาให้กับพวกเขาจะได้รับ Bitcoin กลับคืนไปอีกหนึ่งเท่าตัวแบบฟรีๆ นอกจากวอซเนียกแล้วกลุ่มมิจฉาชีพยังนำรูปคนดังอื่นๆ มาหลอกลวงในลักษณะเดียวกันด้วย เช่น บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft และ อีลอน มัสก์ ซีอีโอบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า Tesla
วอซเนียกไม่ใช่คนดังรายแรกที่ออกมายื่นฟ้องร้อง YouTube เมื่อปีที่ผ่านมา แบรด การ์ลิงเฮาส์ ซีอีโอของ Ripple ก็เคยฟ้องร้อง YouTube กรณีที่ปล่อยให้มีการใช้บัญชีเพื่อปลอมตัวเป็นเขาในการหลอกเอาเหรียญ XRP จนทำให้ชื่อเสียงทั้งของเขาและบริษัทเสียหาย
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง:
