ถึงช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 ภาพรวมของเศรษฐกิจในไทยจะยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ปะทุขึ้นมาอีกระลอก แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ได้กระทบกับเอพี ไทยแลนด์เลย เพราะยังสามารถเติบโตได้ทั้งรายได้และกำไร
วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ.เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100%JV) และธุรกิจอื่นๆ ได้สูงถึง 10,770 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวมเท่ากับ 6,820 ล้านบาท
ด้านกำไรสุทธิกว่า 1,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 618 ล้านบาท เท่ากับ 127%
อย่างไรก็ตาม วิกฤตการแพร่ระบาดยังคงสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจอย่างไม่สิ้นสุด หลายคนมองว่าปีที่ผ่านมาดำเนินธุรกิจด้วยความยากลำบากแล้ว แต่จากสถานการณ์การระบาดรอบใหม่นี้สะท้อนได้อย่างชัดเจนถึงความยากลำบากและความท้าทายที่รออยู่อีกมาก
“สำหรับทางรอดของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นอกจากการบริหารจัดการความพร้อมภายในองค์กร รวมถึงงบกระแสเงินสดแล้ว การมีสินค้าพร้อมขายกระจายไปในหลายทำเล คืออีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ผลักดันให้ AP ประสบความสำเร็จด้วยการขยายโอกาสที่มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มแนวราบที่ยังคงเป็นซูเปอร์สตาร์ โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบที่เติบโตสูงขึ้นในทุกไตรมาส สะท้อนถึงความแข็งแกร่งที่เกิดขึ้นจากภายในในการพร้อมรับมือกับกฎกติกาโลกที่เปลี่ยนแปลงไป”
ในปี 2564 นี้ AP ตั้งเป้าจะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากถึง 144 โครงการ มูลค่าพร้อมขายกว่า 115,480 ล้านบาท ซึ่ง ณ วันที่ 30 เมษายน 2564 AP มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) 33,700 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้รวม (รวม 100%JV) ได้ตามเป้าหมาย 43,100 ล้านบาท
โดยเดือนมิถุนายนนี้ AP เตรียมเปิดตัว 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1,760 ล้านบาท ได้แก่ บ้านเดี่ยว 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,650 ล้านบาท ประกอบด้วย Centro ราชพฤกษ์-สวนผัก 3, Centro พหลฯ-วิภาวดี 2 และโฮมออฟฟิศ District รามอินทรา-จตุโชติ มูลค่า 110 ล้านบาท พร้อมครึ่งปีหลังเตรียมรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ 2 คอนโดใหม่ Life Ladprao Valley และ Life Asoke Hype มูลค่ารวม 12,300 ล้านบาท