เกิดอะไรขึ้น:
เช้าวันนี้ (26 พฤศจิกายน 2563) บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ได้เปิดเผยรายงานการปรับประมาณการปริมาณจราจรทางอากาศ จากการประเมินผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
โดย AOT ได้ปรับประมาณการจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศปีงบประมาณ 2564 ลงสู่ 2.3 ล้านคน จากประมาณการเดิม 13.9 ล้านคน ซึ่งเป็นผลมาจากข้อจำกัดด้านการเดินทางระหว่างประเทศที่ยังคงมีความเข้มงวด แต่ปรับประมาณการจำนวนผู้โดยสารภายในประเทศปีงบประมาณ 2564 เพิ่มขึ้นสู่ 45.6 ล้านคน จากประมาณการเดิมที่ 24.3 ล้านคน ซึ่งเป็นผลมาจากการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์เฟส 5
กระทบอย่างไร:
วันนี้ราคาหุ้น AOT ปรับตัวขึ้น 0.37%DoD สู่ระดับ 67.25 บาท เทียบกับ SET Index ที่ปรับตัวขึ้น 17.84 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.26%DoD สู่ระดับ 1,433.56 จุด
มุมมองระยะสั้น:
การปรับประมาณการจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศปีงบประมาณ 2564 ครั้งใหม่ของ AOT ถือว่าเป็นตัวเลขที่ยึดหลักอนุรักษนิยมมากกว่าประมาณการของ SCBS ที่ระดับ 6.6 ล้านคน เมื่อใช้สมมติฐานประมาณการตัวเลขจำนวนผู้โดยสารของ AOT จะพบว่ามี Downside ต่อประมาณการกำไรปีงบประมาณ 2564 ราว 1.5-2 พันล้านบาท จากประมาณการปัจจุบันของ SCBS ที่คาดว่า AOT จะมีผลขาดทุนสุทธิ 6.8 พันล้านบาท
มุมองระยะยาว:
สำหรับมุมมองในระยะยาว AOT มีมุมมองเชิงบวกมากกว่า SCBS โดย AOT คาดว่า จำนวนผู้โดยสารจะฟื้นตัวสู่ระดับก่อนโควิด-19 ในปีงบประมาณ 2566 เทียบกับมุมมองของ SCBS ที่คาดว่าจะฟื้นตัวสู่ระดับก่อนโควิด-19 ในปีงบประมาณ 2567
ทั้งนี้ SCBS ยังคงประมาณการจำนวนผู้โดยสารและผลประกอบการของ AOT ไว้เหมือนเดิม โดยคาดว่าผลประกอบการจะอ่อนแอต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2564 (เมษายน-มิถุนายน 2564) จนถึงช่วงครึ่งปีหลังของปีปฏิทิน 2564 (2H64 (กรกฎาคม-ธันวาคม 2564) ซึ่งจะเป็นช่วงหลังจากการอนุมัติใช้วัคซีน และจะทำให้หลายประเทศเริ่มผ่อนปรนการคุมเข้มการเดินทางระหว่างประเทศมากขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติม :
รอบผลประกอบการปีงบประมาณ 2564 (FY64) ของ AOT เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึง 30 กันยายน ปี 2564
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
