วันนี้ (1 เมษายน) จากกรณีที่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังมีกระแสว่า ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขอยู่ในขบวนการหักค่าหัวคิวการตรวจสอบน้ำยาตรวจหาเชื้อโควิด-19 หรือชุดทดสอบ Rapid Test ของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่รับชุดทดสอบมาจากโรงงานในสาธารณรัฐประชาชนจีน
หลังบริษัทดังกล่าวได้รับการอนุมัติให้ผ่านการประเมินจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แต่ภายหลังทางประเทศสเปนออกมาระบุว่า ชุดตรวจของโรงงานดังกล่าวไม่ผ่านมาตรฐาน ให้ผลได้เพียงร้อยละ 30 จึงทำให้เกิดการตั้งคำถาม ว่าการให้ใบผ่านประเมินเพื่อนำไปประกอบการขอนำเข้านั้นอาจขาดความโปร่งใส แม้ว่าทางกระทรวงได้เพิกถอนใบอนุญาตไปแล้ว
โดยทาง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขขอแสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ขอให้ไปดูรายชื่อคณะกรรมการ ซึ่งจากรายชื่อทำให้เชื่อได้ว่าจะไม่มีใครสามารถกล้าเข้าไปกดดันได้ โดยส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่มีเรื่องฉาวโฉ่เกิดขึ้นในกระทรวงโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ ไม่มีใครคิดแบบนี้ได้ มีแต่คิดช่วยประชาชนในภาวะวิกฤต
ส่วนผลการตรวจสอบจะมีการเรียกบุคคลมาพูดคุยหรือตรวจสอบเอกสารนั้น อนุทินระบุว่า ได้ให้ไปติดตามโดยตรงกับคณะกรรมการทั้ง 5 คน โดยยืนยันว่าตนจะไม่ไปเจอ ไม่พูดคุย เนื่องจากส่วนตัวมีหน้าที่รอผลสรุปและรอรายงาน ซึ่งตามกฎหมายมีขั้นตอนดำเนินการอยู่แล้ว
ในส่วนของคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ออกมาเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 ปรากฏรายชื่อคณะกรรมการตรวจสอบ มี ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานกรรมการ, พ.ต.อ. ประเวศน์ มูลประมุข ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย อดีตเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), ศ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้ทรงคุณวุฒิ, อภิชาติ รอดสม สาธารณสุขนิเทศก์ และ พงศธร พอกเพิ่มดี รักษาการในตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และผู้อำนวยการกลุ่มสร้างเสริมวินัยและระบบคุณธรรม ร่วมเป็นกรรมการ โดยให้มีการออกหนังสือเรียกบุคคลหรือหน่วยงานใด มาให้ถ้อยคำพร้อมเอกสาร เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์