×

ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ปมจดหมายลับ AstraZeneca และการตอบกลับของอนุทิน

โดย THE STANDARD TEAM
17.07.2021
  • LOADING...
จดหมายลับ AstraZeneca

วันนี้ (17 กรกฎาคม) สำนักข่าวอิศราได้เปิดเผยหนังสือ 2 ฉบับ ระหว่างบริษัท AstraZeneca ถึง อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฉบับแรกระบุถึงตัวเลขความต้องการวัคซีนของประเทศไทย ที่ได้ระบุไปกับทางบริษัท AstraZeneca เพียงแค่ 3 ล้านโดสต่อเดือนเท่านั้น และยังเป็นประเทศที่เจรจาช้าที่สุดจากทั้งหมด 8 ประเทศที่ได้รับการกระจายวัคซีนจากโรงงานในประเทศไทย

 

และจดหมายอีกฉบับหนึ่งเป็นการตอบกลับจากอนุทิน ขอรับวัคซีนเพิ่มเป็น 10 ล้านโดส เพื่อรับมือกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด ตามที่นายกรัฐมนตรีหวังให้สามารถจัดฉีดวัคซีนอย่างน้อย 10 ล้านโดสต่อเดือน

 

THE STANDARD สรุปเนื้อหาของจดหมายทั้ง 2 ฉบับ ไว้ดังนี้

 

จดหมายลับจาก AstraZeneca

  • หนังสือลับฉบับแรกที่ถูกเปิดเผยโดยสำนักข่าวอิศรา เกี่ยวกับปัญหาการสั่งจองวัคซีน AstraZeneca ของประเทศไทย ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2564 จาก สจอร์ด ฮับเบน รองประธานฝ่ายกิจการองค์กรทั่วโลก บริษัท AstraZeneca ถึง อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และส่งต่อให้กับ นพ.โอภาส การกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค

 

  • เนื้อหาภายในมีการเปิดเผยว่า ประเทศไทยมีความต้องการวัคซีน AstraZeneca ในช่วงแรกเพียง 3 ล้านโดสต่อเดือน และไทยยังเป็นประเทศที่ทำสัญญาช้าที่สุดอีกด้วย

 

  • “…เราเชื่อมั่นว่าในแต่ละเดือน ด้วยการผลิตวัคซีนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขจะได้รับวัคซีนประมาณทั้งสิ้น 5-6 ล้านโดสต่อเดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับผลิตผลของสารที่จะใช้ในการผลิตวัคซีน ผมหวังว่าคุณจะมีความพอใจที่ปริมาณนี้คือเกือบ 2 เท่าของปริมาณวัคซีนที่เราได้กล่าวถึงระหว่างการประชุมเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2563 ซึ่งสาระการหารือในวันนั้น ทีมงานของคุณมีการประมาณการว่า ระบบสาธารณสุขของประเทศไทยนั้นมีความต้องการวัคซีนประมาณ 3 ล้านโดสต่อเดือน” เนื้อหาในหนังสือระบุ

 

  • ภายในหนังสือยังได้ระบุอีกว่า ยอดการผลิตรวมทั้งหมด 175 ล้านโดส ประเทศไทยได้สั่งซื้อทั้งสิ้น 61 ล้านโดส แบ่งออกเป็น 26 ล้านโดส เซ็นสัญญาเดือนมกราคม 2564 และ 35 ล้านโดส เซ็นสัญญาเดือนพฤษภาคม 2564

 

  • พบว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ดำเนินการเซ็นสัญญาช้าที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นที่จะได้รับการกระจายวัคซีนจาก AstraZeneca ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ ได้แก่ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย มัลดีฟส์ ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเวียดนาม โดยที่ฟิลิปปินส์ช้าที่สุดรองจากไทย ก็ได้เซ็นสัญญาครบในเดือนมกราคม 2564 แล้ว

 

  • AstraZeneca ได้แจ้งว่า สามารถผลิตวัคซีนส่งให้ได้ราว 6 ล้านโดสต่อเดือน ซึ่งมากกว่าที่ไทยได้ประมาณไว้ในเดือนกันยายน 2563 ที่ 3 ล้านโดสต่อเดือน 

 

จดหมายตอบกลับจากอนุทิน

  • ภายหลังจดหมายฉบับแรกถูกส่งมายังประเทศไทย สำนักข่าวอิศราก็ได้เปิดเผยจดหมายที่อนุทินได้เขียนตอบกลับไปยัง สจอร์ด ฮับเบน บริษัท AstraZeneca ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการขอรับวัคซีนเพิ่มเป็น 10 ล้านโดส

 

  • เนื้อหาในจดหมายระบุว่า อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยกำลังประสบปัญหามีผู้ติดโควิดรายวันพุ่งสูงมาก เราต้องการวัคซีนจำนวนมากขึ้นเพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์การระบาด และเพื่อจะนำไปใช้รองรับกับเป้าหมายใหม่ในเรื่องการฉีดวัคซีนระดับชาติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีของเรามีความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะจัดหาวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 10 ล้านโดสต่อเดือน เพื่อจะใช้ฉีดให้กับกลุ่มประชาชนคนไทย 

 

  • อนุทินยังตอบกลับอีกว่า ทำให้เราคาดหวังว่าเราจะได้รับวัคซีนของบริษัท AstraZeneca มากกว่า 1 ใน 3 ของที่จดหมายคุณได้ระบุไว้ หรือเราก็หวังว่าเราจะได้วัคซีนจำนวนอย่างน้อย 10 ล้านโดสต่อเดือน เอามาใช้ภายในประเทศไทย

 

  • จดหมายดังกล่าวเป็นจดหมายที่เขียนขึ้นเพื่อการต่อรองขอเพิ่มจำนวนวัคซีนที่ส่งมอบให้กับประเทศไทย ไม่ได้เป็นสัญญาการซื้อขายวัคซีนอย่างเป็นทางการตามที่นายกรัฐมนตรียืนยันไว้กับประชาชนว่าจะสามารถฉีดวัคซีน AstraZeneca เดือนละ 10 ล้านโดสแก่ประชาชนแต่อย่างใด 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising