หลังจากเปิดตัว FRAN’S (แฟรนส์) ร้านอาหารบรันช์สุดฮอตย่านสาทรที่ตอนนี้คิวยาวไปถึงกลางเดือน ก็ถึงคราวของ Ăn Cơm Ăn Cá (อันเกิม-อันก๋า) ร้านอาหารเวียดนามและเอเชียนซีฟู้ดที่ตั้งอยู่ด้านหลัง เริ่มเปิด Soft Opening มื้อค่ำให้ทุกคนได้มาลองชิมกันแล้ว ในบรรยากาศสุดคลาสสิกที่รวบรวมกลิ่นอายเวียดนามแบบไทยๆ บรรจุไว้ในบ้านสีน้ำเงินขาวอายุ 150 ปี พร้อมสวนสีเขียวร่มรื่น ซึ่งพอเราเห็นแล้วก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่า ที่นี่ต้องได้รับความนิยมไม่ต่างกันแน่นอน
อันเกิม-อันก๋า ร้านอาหารเวียดนามใหม่ของ ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์ เจ้าของเครือร้านอาหาร iberry และ กานต์ กิตติเวช จากร้านก๋วยเตี๋ยวเรือทองสมิทธ์ ที่เรียกได้ว่าเป็นการหลุดจากกรอบเดิมๆ ในการทำร้านอาหารของพวกเขาอยู่พอตัว ร้านนี้ใช้เวลาร่วมครึ่งปีในการคิดค้นสูตรอย่างพิถีพิถัน จนได้ผลลัพธ์รสชาติอาหารเวียดนามในแบบฉบับที่ถูกปากคนไทย คือมีความจัดจ้าน ชัดเจนกว่าต้นฉบับ ไม่แปลกใจเลยที่หลายคนตั้งตารอการเปิดตัวของอันเกิม-อันก๋าอย่างใจจดใจจ่อ
ความถูกชะตาต้องใจบ้านหลังนี้มานาน เพราะผ่านมาอยู่บ่อยๆ พอรวมกับจังหวะเหมาะเมื่อผู้เช่าเดิมย้ายออกไป ทำให้ปลาตัดสินใจเช่าพื้นที่กว่า 1.5 ไร่ ในซอยสาทร 1 อย่างไม่ลังเล และตั้งใจว่าจะรีโนเวตบ้านหลังนี้ที่มีอายุ 150 ปี ให้กลายเป็น อันเกิม-อันก๋า อย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับก่อร่างสร้าง FRAN’S อีกหนึ่งโปรเจกต์ขึ้นมาอยู่ด้านหน้าบ้านเก่า ในระหว่างรอความเพียบพร้อมของอันเกิม-อันก๋า
ตัวบ้านสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 เราเห็นด้วยที่ภายนอกถูกคงหน้าตาเอาไว้อย่างเดิม เพราะเป็นเสน่ห์ของงานสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การรักษา แถมหาได้ยากในปัจจุบัน รอบๆ มีต้นไม้ใหญ่อยู่แล้ว พอจัดสวนเข้าไปเพิ่มเติมทุกอย่างเลยดูโอบรับกับธรรมชาติมากขึ้น ถึงแม้ตอนนี้ฝนจะตกบ่อย แต่วันไหนอากาศเป็นใจเมื่อไร เรามั่นใจว่าการมานั่งกินอาหารในสวนที่ร่มรื่นขนาดนี้ ก็เป็นอะไรที่ดีเหมือนกัน
ส่วนภายในร้านถูกปรับปรุงใหม่ มีกลิ่นอายเอเชียนแบบเวียดนามนิดๆ มีความโก้ เท่ และคลาสสิก ผสมผสานกันอยู่ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ที่เราชอบมากคือการเล่นสีสันภายในร้าน ทั้ง ผนัง เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงภาพตกแต่ง ทำให้มู้ดของร้านดูเฟรนด์ลีและสนุกขึ้น ถ้าให้เปรียบเทียบที่นี่เป็นสาวเวียดนาม ก็คงเป็นสาวเวียดนามที่สวยแบบโกอินเตอร์ บุคลิกดี ชอบแต่งตัววินเทจ แพตเทิร์นเรียบๆ แต่ดูโก้ไม่เบา
ในภาษาเวียดนาม อันเกิม-อันก๋า แปลว่า กินข้าว-กินปลา และซีฟู้ดก็เป็นหนึ่งในวัตถุดิบชูโรงของเวียดนามที่หลายคนอาจยังไม่รู้ ที่นี่จึงเป็นที่รวบรวมอาหารเวียดนามตั้งแต่ตอนเหนือ ตอนใต้ และเวียดนามในทวีปอื่นๆ รวมถึงเมนูซีฟู้ดเอาไว้ด้วย ที่สำคัญยังได้ ChefLoi (Trieu Tan Loi) เชฟชาวเวียดนามแท้ๆ หนุ่มจบใหม่ไฟแรงที่อยู่ไทยมาแล้วกว่า 4 ปี 3 เดือน มาสร้างสรรค์เมนูอาหารเวียดนามในรสชาติที่คุ้นลิ้นคนไทยตามคอนเซปต์
เริ่มเปิดรสสัมผัสกันด้วยเมนูเบาๆ ที่เชฟเล่าว่าดังมากในเวียดนาม อย่าง บั๋นแบ๋ว (260 บาท) ขนมถ้วยนึ่งขนาดเล็กๆ พอดีคำ แป้งมีความนุ่มหนึบ ออนท็อปด้วยกุ้งและหมูสับ หรืออีกเมนูที่นิยมเหมือนกันอย่าง บั๋นข็อต (260 บาท) ขนมครกเวียดนามที่มีรสสัมผัสกรุบกรอบ ตัวแป้งข้าวเจ้าผสมกะทิและมีสีดำจากดีหมึก ท็อปด้วยปลาหมึก ก่อนกินราดน้ำจิ้มที่เสิร์ฟมาคู่กันเล็กน้อย รสชาติกลมกล่อมกำลังดี
บั๋นแบ๋ว (260 บาท)
บั๋นข็อต (260 บาท)
เมนูเบสิกที่คุ้นเคยอย่าง แหนมเนือง (480 บาท) เราว่าทุกคนน่าจะรู้จักและเคยกินเมนูนี้กันมาบ้างแล้ว แต่ที่นี่พิเศษตรงที่หมูสับย่างค่อนข้างนุ่ม ปรุงรสดีและเข้ากับรสชาติของน้ำจิ้มมาก อีกเมนูที่เห็นแล้วต้องร้องอ๋อ คือ เฝอเนื้อวากิว (485 บาท) ด้วยน้ำซุปที่ผ่านการเคี่ยวกว่า 24 ชั่วโมง ทำให้ชามนี้กลมกล่อมใช้ได้ หากใครเป็นแฟนคลับของก๋วยเตี๋ยวเรือทองสมิทธ์อยู่แล้ว เราว่าไม่ผิดหวัง
แหนมเนือง (480 บาท)
เฝอเนื้อวากิว (485 บาท)
เมนูเท่ๆ สไตล์ฮานอย จ๋าก๊าหล่าว็องผักชีลาว (350 บาท) ปลาทอดขมิ้นใส่ผักสมุนไพรอย่างผักชีลาว จัดเสิร์ฟพร้อมขนมจีนและน้ำจิ้มกะปิ ที่เวลากินครบองค์ประกอบแล้วได้กลิ่นเครื่องเทศชัดเจน รสชาติก็จัดจ้าน ส่วนสายเฮลตี้ชอบกินผักก็ไม่ควรพลาดเมนู ขนมจีนหมูย่าง (260 บาท) เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ดที่เปรี้ยวนำนิดๆ มาคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนกิน
จ๋าก๊าหล่าว็องผักชีลาว (350 บาท)
ขนมจีนหมูย่าง (260 บาท)
ทางร้านแนะนำว่าควรลอง Garlic Noodles กุ้งลายเสือย่าง (890 บาท) เป็นเมนูเวียดนามที่ดังมากในอเมริกา กุ้งลายเสือเนื้อนุ่มเด้ง นำไปย่างเสิร์ฟบนเส้นนุ่มหนึบให้สัมผัสคล้ายเส้นพาสต้า มีความซอลตี้นิดๆ หอมงาหน่อยๆ หรือจะเป็นอีกเมนูไฮไลต์ที่สีสันจัดจ้านสุดบนโต๊ะอย่าง กุ้งอินโดจีนสไปซี (1,200 บาท) กุ้งตัวโตๆ ผัดพริกแห้งและกระเทียม เชฟแนะนำให้รับประทานคู่กับผักแพวที่เสิร์ฟมาคู่กัน เพราะเป็นผักที่ชาวเวียดนามนิยมรับประทานมาก
Garlic Noodles กุ้งลายเสือย่าง (890 บาท)
กุ้งอินโดจีนสไปซี (1,200 บาท)
ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยความสดชื่นจาก ไอศกรีมส้มมะปี๊ดน้ำผึ้ง (199 บาท) ไอศกรีมส้มมะปี๊ดเสิร์ฟคู่มะม่วงสุกหั่นเต๋า ราดด้วยน้ำผึ้ง ถ้าใครเป็นสายของหวานและชอบรสไอศกรีมหวานอมเปรี้ยว เราว่าเมนูนี้ถูกใจแน่นอน
ไอศกรีมส้มมะปี๊ดน้ำผึ้ง (199 บาท)
ในไอจีของร้านอันเกิม-อันก๋า หลายคนตั้งตารอกับการได้มาชิมอาหารของที่นี่ เราทายว่าอีกไม่นานคงฮอตตามหลายๆ ร้านในเครือเป็นแน่ แม้ที่นั่งภายในร้านจุคนได้ประมาณ 180 กว่าที่นั่ง แต่ก็ไม่อยากให้นิ่งนอนใจ หากใครชอบอาหารเวียดนามรสชาติไทยๆ นั่งกินในบรรยากาศบ้านเก่าที่ตกแต่งได้เรียบโก้ และร่มรื่น ที่นี่เป็นคำตอบ
อันเกิม-อันก๋า
Open: เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.00-22.00 น.
Address: ซอยงามดูพลี (สาทร 1)
Budget: 200-2,000 บาท
Instagram: www.instagram.com/an.com.an.ca/
Facebook: www.facebook.com/Ancomanca.bangkok
Map: https://goo.gl/maps/noLaeZyoNbwUVvqP8
- ในช่วง Soft Opening จนถึงปลายเดือนกันยายน ร้านเปิดให้บริการเฉพาะมื้อค่ำตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น.
- หลังจากเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ร้านเปิดให้บริการเต็มรูปแบบสำหรับมื้อกลางวันด้วย ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. สามารถ Walk-in และจองผ่านแอปพลิเคชันได้