Amway ผู้บุกเบิกตลาดขายตรงในไทย วางยุทธศาสตร์ใหม่ ชูฮีโร่โปรดักต์ขึ้นเป็นผู้นำในตลาด Health & Well-being พร้อมพาสื่อมวลชนเยี่ยมชมศูนย์วิจัยพฤกษศาสตร์แอมเวย์ที่เมืองอู๋ซี สาธารณรัฐประชาชนจีน จุดกำเนิดนิวทริไลท์ ฮีโร่โปรดักต์ที่มียอดขายอันดับ 1 ของโลก พร้อมวาดฝันสร้างยอดขายให้ได้ 30,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี
ทศพร นิษฐานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพว่าปี 2567 Amway ครบรอบ 65 ปี ส่วนในไทยครบรอบ 37 ปี ปัจจุบันถือเป็นผู้นำธุรกิจขายตรงในไทย โดยมีผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชและผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักแบรนด์เป็นฮีโร่โปรดักต์
หากย้อนไปในอดีต แนวทางการทำธุรกิจของ Amway จะพูดในมุมเรื่องชีวิตที่ดีและการส่งต่อธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ในช่วง10 ปีที่ผ่านมา แบรนด์ได้เรียนรู้ว่าสินค้าที่มีในพอร์ตโฟลิโอ สามารถทำให้เป็นเรื่องของสุขภาพที่ดีได้ด้วย โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าแบรนด์นิวทริไลท์และผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก ยอดขายในไทยติดอันดับสูงสุด 5 ประเทศของ Amway ทั่วโลก รองจากจีน, สหรัฐอเมริกา, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘แอมเวย์’ เดินหน้าพัฒนา Digital Ecosystem ชูคอนเซปต์ ‘3 Easy’ สร้างธุรกิจ ซื้อขายสินค้า…
- แบรนด์เจ้าตลาดเริ่มเหนื่อย! แม่ค้าออนไลน์รุกคืบแย่งมาร์เก็ตแชร์ เร่งงัดกลยุทธ์ขายสินค้าซื้อ 1 แถม 1…
- Influencer Marketing ยังคงทรงพลังในยุคดิจิทัล และยังไม่ถึง ‘วันตาย’ ในเร็วๆ นี้สำหรับเมืองไทย
ก้าวต่อไปในปี 5 ปีข้างหน้า บริษัทมุ่งโฟกัสกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ เริ่มตั้งแต่นิวทริไลท์, บอดี้คีย์ Omega 3 และโพรไบโอติกเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้ขึ้นเป็นผู้นำในตลาดสินค้าสุขภาพได้ แต่ก็ยังไม่ทิ้งกลุ่มสินค้าที่มีมากกว่า 250 รายการ เช่น กลุ่มบิวตี้และเครื่องกรองน้ำ เราไม่ได้เน้นแค่สร้างรายได้เพียงอย่างเดียว แต่จะทำให้เห็นว่านวัตกรรมของ Amway สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุม
พร้อมรักษาจุดแข็งที่ทำให้ Amway แตกต่างจากคู่แข่ง คือในตลาดมีสินค้าและ Ingredient ที่คู่แข่งไม่มี ปัจจุบัน Amway มีฟาร์มออร์แกนิกขนาดใหญ่อยู่ใน 3 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก และบราซิล ครอบคลุมพื้นที่กว่า 15,000 ไร่ และมีพาร์ตเนอร์ 100 ราย ใน 27 ประเทศที่ส่งวัตถุดิบให้บริษัท สะท้อนให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ในกรณีที่สินค้ามีปัญหา
เช่นเดียวกับศูนย์วิจัยพฤกษศาสตร์แอมเวย์ที่เมืองอู๋ซี สาธารณรัฐประชาชนจีน ศูนย์วิจัยที่ทำการศึกษาและพัฒนาพฤกษศาสตร์การทำฟาร์มสมุนไพรจีนออร์แกนิกแห่งแรกของโลก บนพื้นที่การเกษตรขนาด 298 ไร่ ประกอบไปด้วยอาคารปฏิบัติการเรือนกระจกขนาดใหญ่ และฟาร์มออร์แกนิกผสานกับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เริ่มตั้งแต่การคัดสรรเมล็ดพันธุ์ที่หลากหลาย ศึกษาพื้นที่เพาะปลูก และการหาวิธีปฏิบัติในการปลูกพืชสมุนไพร โดยสร้างระบบนิเวศธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ได้ประโยชน์จากพืชแต่ละชนิด จนได้สารสกัดที่สมบูรณ์จากแปลงเพาะปลูกสู่ห้องปฏิบัติการ
โดยวัตถุดิบที่ได้มาจากกระบวนการวิจัยในศูนย์แห่งนี้ได้ต่อยอดสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์นิวทริไลท์ที่มีสมุนไพรจีนวางจำหน่ายในไทย ได้แก่ นิวทริไลท์ คอลลาเจน ซึ่งมีสารสกัดจากดอกเก๊กฮวยขาวที่คุณภาพดีที่สุดในโลก ตามด้วยนิวทริไลท์ หลินจือ เฮอร์บัล พลัส สกัดจากเห็ดหลินจือ และนิวทริไลท์ ซิสแทนเช สกัดจากโสมทะเลทราย และเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ นิวทริไลท์ ลิวิท็อกซ์ ที่สกัดจากบรอกโคลี ชะเอมเทศ และเมล็ดองุ่น
ทศพรกล่าวต่อไปว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เราต้องทำอยู่บนเทรนด์สุขภาพ หากสังเกตจะเห็นว่าหลังโควิดคนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น และนอกจากสินค้าแล้วเราก็ต้องทำอะไรใหม่ๆ จึงได้เปิดตัว Amway Café จำหน่ายเครื่องดื่มของ Amway ปัจจุบันมีประมาณ 20 แห่ง และมีแผนจะขยายเพิ่มขึ้น
แต่บนเส้นทางธุรกิจยังอยู่บนความท้าทายของเศรษฐกิจและกำลังซื้อ รวมถึงการแข่งขันที่สูงขึ้นทั้งจากธุรกิจขายตรงด้วยกันเอง และร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ดังนั้นจึงต้องผลักดันนักธุรกิจ Amway ที่มีอยู่ 330,000 คน ใช้ช่องทางออนไลน์สร้างคอนเทนต์ดึงลูกค้า ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเพราะวันนี้ยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์มีสัดส่วนอยู่ที่ 55%
ด้วยกลยุทธ์ทั้งหมดเราคาดหวังให้ปีนี้ Amway สร้างรายได้โตในระดับตัวเลขซิงเกิลดิจิต เพราะด้วยการเปลี่ยนแปลงช่วงโควิดที่ผ่านมาทำธุรกิจขายตรงซบเซาลง ส่วนในอีก 5 ปีข้างหน้า วาดฝันไว้ว่าอยากจะสร้างยอดขายแตะ 30,000 ล้านบาท ในปี 2572 โดยปัจจุบัน Amway ถือส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งในตลาดขายตรงประเทศไทยที่มีมูลค่า 56,400 ล้านบาท