ต่อให้วันนี้ทั่วโลกไม่โดนผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ตลาดอีคอมเมิร์ซก็อยู่ในช่วงขาขึ้น นี่เป็นประเด็นที่นักการตลาดรู้ แบรนด์ต่างๆ คาดการณ์ได้ จากพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ และต่อจากนี้ไปจะมองหาความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ธุรกิจใดๆ ก็ตามจึงต้องปรับกระบวนท่าในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสินค้า ช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
ทว่า การระบาดของโควิดกลายเป็นตัวเร่งให้ทุกธุรกิจต้องรื้อแผนกลยุทธ์ใหม่และปรับตัวกันอย่างเร่งด่วนตามวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ผู้บริโภคออกไปซื้อของนอกบ้านน้อยลง ผู้คนเลี่ยงการเดินทางเพื่อพบปะกัน การคุยธุรกิจทำผ่านออนไลน์ และหลายหน่วยงานอำนวยความสะดวกสบายในการทำเอกสารสำคัญผ่านออนไลน์ได้แล้วเช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ผู้นำด้าน Social Commerce อย่างแอมเวย์ ประเทศไทย ปรับกลยุทธ์ใหม่ เดินหน้าลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อพัฒนา Digital Ecosystem ปรับช่องทางการซื้อขายผ่านออนไลน์แบบครบครัน ครอบคลุมทั้งนักธุรกิจแอมเวย์ สมาชิก และผู้บริโภค ให้สามารถทำธุรกิจรวมถึงซื้อสินค้าได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น การพัฒนาครั้งนี้เป็นแผน 5 ปี เพื่อไปสู่ความสำเร็จของ 70 ปี แอมเวย์โลก ในปี 2029 อีกด้วย
Easy Sharing – Easy Sponsoring – Easy Shopping เพื่อสร้างประสบการณ์การทำธุรกิจและช้อปปิ้งที่ดี ไม่มีสะดุด
แผนพัฒนาธุรกิจของผู้นำด้าน Social Commerce ตั้งโจทย์จาก Pian Point ของนักธุรกิจแอมเวย์ สมาชิก และผู้บริโภค ที่ต้องการทำธุรกิจง่ายๆ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่เอื้อต่อการทำธุรกิจลักษณะนี้ หรือฝั่งสมาชิกและผู้บริโภคก็มองหาช่องทางซื้อสินค้าที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย นำไปสู่แนวคิด ‘3 Easy’ คือ Easy Sharing, Easy Sponsoring และ Easy Shopping เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี ไม่มีสะดุดให้กับทุกคน
สิ่งที่น่าจับตามองคือ กลยุทธ์ความ Easy ดังกล่าวถูกพัฒนาและออกแบบผ่านช่องทางการซื้อขายสินค้าบน Social Commerce ของแอมเวย์ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางหลัก อย่างเว็บไซต์ amway.co.th หรือแอปพลิเคชัน Amway Click ไม่เพียงแต่มอบความสะดวกสบายให้กับทุกคน แต่ยังพลิกโฉมธุรกิจแอมเวย์ให้ไร้รอยต่อ ได้แก่
‘Friends of Amway (FOA) แชร์เฟรนด์ ช้อปฟิน’ คลิกลิงก์สั่งซื้อได้ทันที ไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ช้อปได้
Easy Sharing: แชร์แล้วช้อปได้ทันที
แชร์สินค้าให้เพื่อนดูมันธรรมดาไป แอมเวย์เลยพัฒนาฟังก์ชันการแชร์ลิงก์สินค้า โดยสามารถเลือกสินค้าที่ตรงกับความสนใจของแต่ละบุคคล แล้วแชร์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น LINE, Facebook หรือ Zoom ให้เพื่อนหรือคนที่สนใจ ความง่ายมันอยู่ตรงโปรแกรม ‘Friends of Amway (FOA) แชร์เฟรนด์ ช้อปฟิน’ เพราะฝั่งคนได้รับลิงก์หากดูสินค้าแล้วถูกใจก็สั่งซื้อสินค้ายอดนิยมของแอมเวย์ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิก แถมยังมีสิทธิประโยชน์ที่ Top Up ไปอีกจากการเป็น Friends of Amway (FOA) ที่เห็นแล้วต้องอยากแชร์เพื่อชวนเพื่อนมาสมัคร ทั้งหมดรวมไว้ให้ในคลิปด้านล่างนี้
https://youtu.be/9R3XD7EDeHE
Easy Sponsoring: ทำธุรกิจหรือสมัครสมาชิกผ่านออนไลน์ง่ายและสะดวก
หมดยุคยืนยันตัวตน ส่งใบสมัครและเอกสารหน้าเคาน์เตอร์แล้ว จากนี้ไปนักธุรกิจแอมเวย์จะขยายเครือข่ายธุรกิจหรือสมัครสมาชิกให้เพื่อนเพื่อซื้อสินค้าแอมเวย์ สามารถทำผ่านออนไลน์ได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น โดยมีระบบการตรวจเช็กยืนยันตัวตนแบบปลอดภัยสูง ภายใต้ความใส่ใจเรื่องจรรยาบรรณของธุรกิจเป็นสำคัญ นอกจากนั้นยังสนับสนุนให้นักธุรกิจแอมเวย์ทำงานสะดวกขึ้นด้วยฟังก์ชัน ‘สมาร์ทแดชบอร์ด’ เช็กยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ ดูรายงานข้อมูลผลงานขององค์กรสายงาน ศึกษาข้อมูลเพื่อพัฒนาแผนงานหรือประชุมทีมงานได้อย่างรวดเร็ว พร้อมแชตบอตที่ชาญฉลาดที่จะมาช่วยแก้ปัญหาเบื้องต้นให้กับผู้ซื้ออีกด้วย
แอปพลิเคชัน Amway Click เชื่อมต่อธุรกิจ ช้อปง่ายไร้รอยต่อ
Easy Shopping: ช้อปง่ายแค่คลิก
ช้อปสินค้าแอมเวย์ 24 ชั่วโมง สะดวก ง่าย ปลอดภัย อยู่ที่ไหนก็ช้อปได้ ผ่านเว็บไซต์ที่พัฒนาระบบและจัดหมวดหมู่ค้นหาสะดวกยิ่งขึ้น หรือช้อปผ่านแอปพลิเคชัน Amway Click ครบทุกความต้องการใช้แอปฯ เดียว ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชัน สั่งซื้อสินค้า ชำระเงิน ติดตามสต๊อกสินค้า แจ้งเตือนสถานะการจัดส่ง ดูยอดขายสะสมแต่ละเดือน หรือสะสมคะแนนเพื่อรับสิทธิพิเศษมากมาย เพื่อให้คุณเห็นความโดดเด่นของแอปฯ แห่งยุค Social Commerce แนะนำให้ดูคลิปด้างล่างนี้ก่อนช้อปจริง รับรองว่าจะช่วยเพิ่มความสนุกในการใช้งาน ช้อปให้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นแน่นอน
ตอบโจทย์พฤติกรรมคนไทย ขยายทางเลือกช่องทางทำธุรกิจออนไลน์ ซื้อขายสินค้าผ่าน LINE
จริงๆ แล้วแผนการพัฒนาธุรกิจที่กล่าวมา แอมเวย์เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2562 ก็อย่างที่บอกไปข้างต้น ตลาดอีคอมเมิร์ซก็อยู่ในช่วงขาขึ้นมานานแล้ว ทุกธุรกิจจึงปรับตัวกันมาสักพัก สิ่งที่แอมเวย์ค่อยๆ พัฒนามาจนถึงวันนี้ส่งผลให้ยอดขายทางออนไลน์เติบโตขึ้น 3 เท่าตัว
กิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด
กิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าว่า “โลกที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวันทำให้ดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันอยู่ตลอดเวลา แอมเวย์เห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการปรับใช้ดิจิทัลในธุรกิจ จึงทุ่มงบฯ 1 พันล้านบาท สร้าง Digital Ecosystem ขึ้น ซึ่งการลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนที่เรามองเห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวทั้งกับนักธุรกิจแอมเวย์ สมาชิก และผู้บริโภค จึงเริ่มพัฒนาแผนมาตั้งแต่ปี 2562 ส่งผลให้ยอดขายออนไลน์โตขึ้นถึง 3 เท่า นอกจากนั้นยังมียอดสมัครสมาชิกและจำนวนผู้ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์สูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงที่มีการจัดโปรโมชันพิเศษอย่าง Flash Sales หรือ Double Date พบว่า มีการซื้อผ่านทางช่องทางออนไลน์สูงอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่านักธุรกิจแอมเวย์และสมาชิกมีความพร้อมในการก้าวเข้าสู่โลก Social Commerce”
กิจธวัชยังบอกอีกว่า นอกเหนือจากช่องทางหลักคือ เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน แผนพัฒนา Digital Ecosystem แอมเวย์ยังมองหาโอกาสเพิ่มความสะดวกให้กับทุกคนมากยิ่งขึ้น ด้วยการขยายทางเลือกให้สามารถทำธุรกิจหรือซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน LINE ที่ถือเป็นหนึ่งช่องทางการสื่อสารที่นิยมของผู้บริโภคชาวไทยในปัจจุบัน ซึ่งจะมีฟังก์ชันที่จำเป็น เช่น เตือนให้ต่ออายุสถานภาพ เตือนการเปลี่ยนอะไหล่ของสินค้า เช็กข้อมูลธุรกิจขององค์กร เช็กสิทธิพิเศษ ตลอดจนการรับข่าวสารโปรโมชันต่างๆ
“แอมเวย์จะยังคงพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อเน้นย้ำความเป็นผู้นำของธุรกิจยุคใหม่ที่สามารถตอบรับทุกเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง” กิจธวัชกล่าวทิ้งท้าย