วันนี้ (20 มิถุนายน) แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่า มีความกังวลต่อความล่าช้าในกระบวนการยุติธรรมของคดี วาฤทธิ์ สมน้อย เยาวชนอายุ 15 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการร่วมชุมนุม โดยได้ส่งจดหมายถึง พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และสำเนาถึงสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ดินแดง
สำหรับเนื้อหาในจดหมายระบุรายละเอียด เรื่องเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและทำให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างไม่ล่าช้าในคดีของ วาฤทธิ์ สมน้อย ว่า
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย มีความกังวลต่อความล่าช้าในกระบวนการยุติธรรมของคดี วาฤทธิ์ สมน้อย เยาวชนอายุ 15 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการร่วมชุมนุม และขอกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนและดำเนินการทางคดีอย่างไม่ล้าช้า เป็นอิสระ และสามารถเข้าถึงได้ เพื่อให้ครอบครัวของผู้เสียหายได้รับความยุติธรรม การปฏิบัติเหล่านี้ยังสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งให้นำตัวผู้กระทำอันตรายทางร่างกายที่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุมหรือผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวเข้ารับการไต่สวนและลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม
จากกรณี วาฤทธิ์ สมน้อย อายุ 15 ปี ผู้ชุมนุมที่ถูกยิงด้วยกระสุนระหว่างการชุมนุมบริเวณสถานีตำรวจนครบาลดินแดง เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 มารดาของวาฤทธิ์และทนายความมีความพยายามในการร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง และได้ติดตามความคืบหน้าทางคดีกับสถานีตำรวจนครบาลดินแดง และสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 โดยข้อมูลจากภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนระบุว่า จากการสอบถามไปยังสำนักงานอัยการฯ ซึ่งให้ข้อมูลว่าได้รับความเห็นและสำนวนจากพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง แล้ว และได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ดำเนินการสอบสวนในบางประเด็นเพิ่มเติม และเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 สำนักงานอัยการฯ แจ้งว่าได้มีหนังสือเตือนไปยังพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ถึง 5 ครั้ง ซึ่งจะครบกำหนดที่พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ต้องส่งสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 ในวันที่ 21 มิถุนายนนี้
ประเทศไทยได้ลงนามเป็นภาคีภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งระบุว่า รัฐมีหน้าที่ในการสืบสวนและทำให้เกิดการรับผิดและการเยียวยา โดยรัฐจะต้องให้ความมั่นใจในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยง่าย สะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง ให้ความมั่นใจในการเข้าถึงสิทธิพื้นฐานในกระบวนการพิจารณาคดี รวมทั้งสิทธิในการได้รับการสอบสวนอย่างถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม และสิทธิได้รับความคุ้มครองและความช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่และมีสิทธิภาพจากรัฐ นอกจากนั้นในความเห็นทั่วไปฉบับที่ 37 ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ระบุถึงหน้าที่และอำนาจของหน่วยงานรัฐที่บังคับใช้กฎหมายว่า รัฐมีพันธกรณีในการสืบสวนอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นกลาง ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม ต่อข้อกล่าวหาใดๆ ในบริบทของการชุมนุม
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จึงขอเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสถานีตำรวจนครบาลดินแดง ดำเนินการอย่างเร่งด่วนตามข้อเรียกร้องต่อไปนี้
- ให้สถานีตำรวจนครบาลดินแดงส่งสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมให้กับอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 เพื่อให้มีการสอบสวน สืบสวน ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม รวมทั้งชี้แจงกระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ความรับผิดและหลักความจำเป็น และได้สัดส่วนของเจ้าหน้าที่และคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายที่เป็นเด็กเเละครอบครัวของผู้เสียหายอย่างเเท้จริง
- ประสานงานให้คุ้มครองสิทธิที่จะเข้าถึงและได้รับการเยียวยาครอบครัวผู้เสียหายจากรัฐผ่านกระบวนการยุติธรรมอย่างรวดเร็ว และรายงายความคืบหน้าของกระบวนการอย่างต่อเนื่องให้กับญาติผู้เสียหายและทนาย
- เรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาและปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะแนวทางการประกาศใช้ข้อกำหนดและการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และยกเลิกบทบัญญัติที่ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อประกันความรับผิดและการเยียวยาให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการปรับปรุงหลักการในพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 และคู่มือการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ให้สอดรับคล้องกับหลักการระหว่างประเทศโดยเฉพาะความเห็นทั่วไปฉบับที่ 37 ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และสองคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560