×

บริษัทเรือสำราญแถลงขอโทษ หลังพาผู้โดยสารเทียบท่าขณะวาฬหลายสิบตัวถูกฆ่า จนเห็นภาพน่าสะเทือนใจ

โดย THE STANDARD TEAM
15.07.2023
  • LOADING...
Ambassador Cruise Lines

บริษัทเรือสำราญออกแถลงการณ์ขอโทษผู้โดยสารกว่า 1,000 คน หลังเรือสำราญของบริษัทเข้าเทียบท่าในขณะที่กำลังมีการล่าวาฬ ส่งผลให้ผู้โดยสารบนเรือต้องเห็นภาพวาฬหลายสิบตัวถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา

 

Ambassador Cruise Lines ยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (13 กรกฎาคม) ว่า การเข้าเทียบท่าของเรือ Ambition ของบริษัท ที่ท่าเรือในกรุงทอร์เชาน์ เมืองหลวงของหมู่เกาะแฟโร ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสกอตแลนด์ ไอซ์แลนด์ และนอร์เวย์ ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือนั้น เกิดขึ้นประจวบเหมาะกับการล่าวาฬนำร่อง (Pilot Whale) มากกว่า 40 ตัวในบริเวณท่าเรือ 

 

“เรารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งที่การล่าวาฬเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่เรือของเราเข้าเทียบท่า เราคัดค้านแนวปฏิบัติที่ล้าสมัยนี้อย่างยิ่ง และได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรของเราอย่าง ORCA ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่อุทิศตนเพื่อการศึกษาและปกป้องวาฬและโลมาในน่านน้ำของสหราชอาณาจักรและยุโรป เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ปี 2021” บริษัทเรือสำราญ Ambassador Cruise Lines ระบุในแถลงการณ์ หลังจากเรือเข้าเทียบท่าที่บริเวณท่าเรือทอร์เชาน์ ทางตอนใต้ของเกาะหลัก

 

Ambassador ระบุด้วยว่า ความยั่งยืนเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของบริษัท และบริษัทตระหนักดีว่า สำหรับผู้โดยสารส่วนใหญ่บนเรือ การได้รู้เห็นกิจกรรมท้องถิ่นนี้อาจเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจ ดังนั้นเราจึงขออภัยด้วยใจจริงที่ทำให้ผู้โดยสารเกิดความไม่สบายใจ

 

“เรามุ่งมั่นสนับสนุนการดำเนินการของ ORCA ในการรวบรวมข้อมูลและติดตามวาฬและโลมา และเรารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งที่เหตุการณ์นี้ยังคงเกิดขึ้น หลังจากความพยายามในการเปิดการเจรจาที่สร้างสรรค์กับรัฐบาลแฟโรและการท่องเที่ยวแฟโร (Visit Faroes) ในประเด็นเหล่านี้มานานหลายสัปดาห์” คริสเตียน เวอร์ฮูนิก ซีอีโอของ Ambassador ระบุในแถลงการณ์ “เราจะยังคงให้ความรู้แก่ผู้โดยสารและลูกเรือของเราต่อไปว่าอย่าซื้อหรือกินเนื้อวาฬหรือโลมา และต่อต้านการแสวงหากำไรจากการล่าวาฬและโลมาในเชิงพาณิชย์”

 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของหมู่เกาะแฟโร ซึ่งมีประชากรประมาณ 53,000 คนบนเกาะ แสดงจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับการล่าวาฬมานานแล้ว

 

“ดังเช่นที่เกิดขึ้นมานานหลายศตวรรษ การล่าวาฬยังคงเกิดขึ้นที่หมู่เกาะแฟโรจวบจนถึงปัจจุบัน” แถลงการณ์ของรัฐบาลหมู่เกาะแฟโรกล่าวถึงประเพณีการล่าวาฬ “ชาวแฟโรกินเนื้อและไขมันของวาฬนำร่องมาตั้งแต่ที่พวกเขาตั้งรกรากบนเกาะเมื่อกว่าพันปีที่แล้ว ทุกวันนี้ยังคงเป็นเหมือนเช่นในอดีต การล่าวาฬเป็นกิจกรรมของชุมชนที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน ในขณะเดียวกันก็มีการจัดการอย่างดีในระดับชุมชนและควบคุมโดยกฎหมายของประเทศ”

 

รัฐบาลหมู่เกาะแฟโรยังระบุด้วยว่า การล่าวาฬเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการเพื่อความยั่งยืน พร้อมอธิบายว่า “เนื้อและไขมันจากการล่าจะถูกแจกจ่ายอย่างเท่าเทียมกันในหมู่ผู้ที่มีส่วนร่วม อีกทั้งมีการปรับปรุงวิธีการล่าและการฆ่า เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นอันตรายต่อวาฬน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ปัจจุบันนักล่าทุกคนต้องมีใบอนุญาตจึงจะล่าและฆ่าวาฬได้

 

“มีการบันทึกสถิติการล่าวาฬนำร่องทั้งหมดมาตั้งแต่ปี 1584 และการล่าวาฬที่ผ่านมานั้นถือว่ายั่งยืน เนื่องจากมีวาฬประมาณ 778,000 ตัวในภาคตะวันออกของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ” รัฐบาลหมู่เกาะแฟโรระบุ “วาฬประมาณ 100,000 ตัวว่ายเข้าใกล้หมู่เกาะแฟโร ขณะที่ชาวแฟโรล่าวาฬนำร่องเฉลี่ยปีละ 800 ตัว”

 

ในปี 2023 เพียงปีเดียวหมู่เกาะแฟโรมีการฆ่าวาฬแล้ว 646 ตัวตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ซึ่ง 78 ตัวในจำนวนนี้เกิดขึ้นในวันที่เรือ Ambition เข้าเทียบท่า

 

อย่างไรก็ดี รัฐบาลหมู่เกาะแฟโรมีความกังวลว่า แม้เนื้อและไขมันของวาฬนำร่องจะอุดมไปด้วยโปรตีน เหล็ก คาร์นิทีน และวิตามิน แต่สารปรอทและสาร PCBs ระดับสูงในวาฬอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ 

 

“มลภาวะในมหาสมุทรจากอุตสาหกรรมหนักและอุตสาหกรรมการเกษตรส่งผลให้เกิดการสะสมมลพิษของวาฬ”

 

ภาพ: Laszlo Szirtesi / Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising