×

เจาะเบื้องหลัง Amazon ปลดพนักงานครั้งใหญ่ ‘วิศวกร’ โดนหนักสุด! ยันไม่ใช่เพราะ AI แย่งงาน แต่เพราะ CEO ต้องการขจัด ‘ความอุ้ยอ้าย’

23.11.2025
  • LOADING...
เจาะเบื้องหลัง Amazon ปลดพนักงานครั้งใหญ่ ‘วิศวกร’ โดนหนักสุด ยันไม่ใช่เพราะ AI แย่งงาน แต่เพราะ CEO ต้องการขจัด ‘ความอุ้ยอ้าย’

การประกาศปรับลดพนักงานกว่า 14,000 ตำแหน่งของ Amazon เมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทุกภาคส่วนของอาณาจักรธุรกิจอันกว้างใหญ่แห่งนี้ ตั้งแต่ธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงส่วนงานโฆษณา, ธุรกิจค้าปลีก และร้านขายของชำ

 

แต่จากบทความของ CNBC ได้เผยข้อมูลล่าสุดซึ่งทำให้เห็นความจริงที่ว่า กลุ่มงานที่ได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัสที่สุดจากการเลิกจ้างในครั้งนี้กลับกลายเป็น ‘กลุ่มวิศวกร’ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เคยเป็นที่ต้องการตัวสูงสุดในวงการเทคโนโลยี

 

เอกสารที่ยื่นต่อหน่วยงานรัฐในนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย นิวเจอร์ซีย์ และวอชิงตัน ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัท แสดงให้เห็นตัวเลขที่ชัดเจนว่า เกือบ 40% ของตำแหน่งงานกว่า 4,700 อัตราที่ถูกตัดออกในรัฐเหล่านี้ ล้วนเป็นตำแหน่งวิศวกรทั้งสิ้น

 

ข้อมูลดังกล่าวได้รับการยืนยันผ่านเอกสารแจ้งเตือนการปรับเปลี่ยนและการฝึกอบรมพนักงาน หรือ WARN ที่ Amazon จำเป็นต้องรายงานต่อหน่วยงานของรัฐตามกฎหมาย

 

ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเลิกจ้างทั้งหมดที่ประกาศออกมาในเดือนตุลาคม เนื่องจากข้อกำหนดในการรายงาน WARN ของแต่ละรัฐมีความแตกต่างกัน ทำให้ข้อมูลทั้งหมดยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาในทันที

 

แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ นี่เป็นรอบการปรับลดพนักงานที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ 31 ปีของบริษัท ซึ่ง Amazon ไม่ได้เผชิญชะตากรรมนี้เพียงลำพัง แต่เป็นส่วนหนึ่งของกระแสธารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่บริษัทต่างๆ พากันลดคนงานแม้จะมีกำไรพุ่งสูงก็ตาม

 

ข้อมูลจาก Layoffs.fyi ระบุว่า ในปีนี้มีการเลิกจ้างงานไปแล้วเกือบ 113,000 ตำแหน่ง จากบริษัทเทคโนโลยี 231 แห่ง ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2022 เมื่อธุรกิจต่างๆ ต้องปรับตัวเข้าสู่สภาวะความเป็นจริงหลังสิ้นสุดการระบาดของโควิด

 

สำหรับ Amazon ภายใต้การนำของ แอนดี้ แจสซี ซีอีโอคนปัจจุบัน ภารกิจสำคัญคือการปฏิรูปวัฒนธรรมองค์กรให้กลับมาทำงานได้รวดเร็วและคล่องตัวอีกครั้ง

 

แจสซี มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซรายนี้ให้ดำเนินงานเสมือนเป็น ‘สตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก’ โดยมุ่งเน้นการลดความอุ้ยอ้ายขององค์กร ตัดลดขั้นตอนราชการที่ซับซ้อน และผลักดันให้พนักงานสร้างผลงานให้มากขึ้นด้วยทรัพยากรที่น้อยลง ซึ่ง CNBC เคยรายงาน ก่อนหน้านี้ว่า Amazon คาดว่าจะมีการปรับลดพนักงานเพิ่มเติมอีกระลอกในช่วงเดือนมกราคมที่จะถึงนี้

 

นอกจากเรื่องการปรับโครงสร้างแล้ว บริษัทยังระบุชัดเจนว่ากำลังโยกย้ายทรัพยากรเพื่อไปลงทุนในปัญญาประดิษฐ์ให้มากขึ้น เทคโนโลยีนี้กำลังเข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าพนักงานในออฟฟิศของ Amazon โดยแจสซีเคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมิถุนายนว่า จำนวนพนักงานของบริษัทจะลดลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ควบคู่ไปกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจากการนำ AI เข้ามาใช้งาน

 

เบธ กาเล็ตติ หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล ได้เน้นย้ำในบันทึกแจ้งการเลิกจ้างถึงความสำคัญของการสร้างนวัตกรรม ซึ่งบริษัทจำเป็นต้องทำให้ได้ด้วยจำนวนคนที่น้อยลง โดยเฉพาะในกลุ่มวิศวกร เธอกล่าวว่า “การมาถึงของ AI กลายเป็นเทคโนโลยีที่สร้างการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดที่เราเคยเห็นนับตั้งแต่อินเทอร์เน็ต และมันช่วยให้บริษัทต่างๆ สร้างนวัตกรรมได้เร็วกว่าที่เคยเป็นมา”

 

กาเล็ตติ ยังเขียนอธิบายเพิ่มเติมในบันทึกดังกล่าวอีกว่า “เราเชื่อมั่นว่าเราจำเป็นต้องจัดระเบียบองค์กรให้ ‘เพรียวบาง’ ขึ้น มีลำดับชั้นน้อยลง และมีความเป็นเจ้าของงานมากขึ้น เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับลูกค้าและธุรกิจของเรา” ซึ่งสะท้อนทิศทางใหม่ของบริษัทที่ต้องการความคล่องตัวสูง

 

แม้ Amazon จะระบุในแถลงการณ์ว่า AI ไม่ใช่สาเหตุหลักของการเลิกจ้างส่วนใหญ่ แต่เป้าหมายใหญ่คือการลดขั้นตอนราชการและเน้นความรวดเร็ว โดยแจสซีกล่าวในการแถลงผลประกอบการเมื่อเดือนก่อนว่า การเลิกจ้างเป็นการตอบสนองต่อปัญหา ‘วัฒนธรรม’ ภายในองค์กร ที่เกิดจากการเร่งจ้างงานในช่วงก่อนหน้าจนทำให้เกิดลำดับชั้นการบังคับบัญชาที่มากเกินไปและการตัดสินใจที่ล่าช้า

 

อย่างไรก็ตาม การเลิกจ้างส่งผลกระทบต่อวิศวกรซอฟต์แวร์ในหลายระดับ โดยเฉพาะตำแหน่ง SDE II หรือพนักงานระดับกลางที่กลายเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเมื่อเทียบกับสัดส่วนพนักงานทั้งหมด

 

ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นท่ามกลางยุคทองของ AI ซึ่งส่งผลให้ตำแหน่งงานสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์เริ่มมีจำกัดและหาได้ยากขึ้น เมื่อบริษัทต่างๆ หันไปใช้ผู้ช่วยเขียนโค้ดหรือ ‘แพลตฟอร์ม Vibe Coding’ จากผู้ขายอย่าง Cursor, OpenAI และ Cognition ซึ่ง Amazon เองก็ได้เปิดตัวคู่แข่งในตลาดนี้ที่ชื่อว่า Kiro เช่นกัน

 

ผลกระทบไม่ได้จำกัดอยู่แค่วิศวกร ข้อมูลจากเอกสาร WARN ชี้ว่ามีผู้จัดการผลิตภัณฑ์และผู้จัดการโครงการกว่า 500 คนถูกเลิกจ้าง หรือคิดเป็นกว่า 10% ของยอดรวมในรัฐที่มีการรายงาน แม้กระทั่งบทบาทระดับผู้จัดการอาวุโสและระดับหัวหน้างาน (Principal Level) ก็ไม่รอดพ้นจากการถูกปลดในครั้งนี้

 

นี่นับเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรัดเข็มขัดในวงกว้าง ที่ Amazon พยายามลดการลงทุนในโครงการทดลองหรือโครงการที่ไม่ทำกำไรในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการยุติบริการดูแลสุขภาพทางไกล, อุปกรณ์วิดีโอคอลสำหรับเด็ก, อุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพ รวมถึงการปิดตัวเครือร้านค้าปลีกที่มีหน้าร้านจริงหลายแห่ง

 

แผนกวิดีโอเกมของ Amazon ก็ตกเป็นเป้าหมายในคลื่นการเลิกจ้างล่าสุดเช่นกัน สตีฟ บูม รองประธานฝ่าย Audio, Twitch และ Games ได้แจ้งพนักงานในบันทึกที่ CNBC ได้ตรวจสอบ ว่าจะมี ‘การปรับลดบทบาทครั้งสำคัญ’ เกิดขึ้นในสตูดิโอเกมที่ซานดิเอโกและเออร์ไวน์ รัฐแคลิฟอร์เนีย รวมถึงในทีมจัดจำหน่ายส่วนกลาง โดยมีนักออกแบบเกม ศิลปิน และโปรดิวเซอร์ ถูกเลิกจ้างเป็นจำนวนมาก

 

บริษัทได้แจ้งพนักงานด้วยว่าจะระงับการทำงานส่วนใหญ่ในการพัฒนาเกมฟอร์มยักษ์ระดับทุนสร้างสูง (Triple A) โดยเฉพาะเกมออนไลน์ที่มีผู้เล่นจำนวนมาก หรือ MMO ซึ่งรวมถึงโปรเจกต์เกมที่สร้างจากเรื่อง Lord of the Rings ที่แฟนๆ รอคอย แม้ว่าก่อนหน้านี้ Amazon จะเคยปล่อยเกม MMO อย่าง Crucible และ New World ออกมาแล้วก็ตาม

 

นอกเหนือจากเกม ทีม Visual Search และ Shopping ซึ่งรับผิดชอบผลิตภัณฑ์อย่าง Amazon Lens และ Lens Live ก็ถูกลดขนาดลงอย่างมาก โดยทีมนี้มีฐานใหญ่อยู่ที่ปาโลอัลโต แคลิฟอร์เนีย เอกสารระบุว่าวิศวกรซอฟต์แวร์ นักวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และวิศวกรประกันคุณภาพในสำนักงานแห่งนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

 

แม้แต่ธุรกิจโฆษณาออนไลน์ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์ทำกำไรที่ใหญ่ที่สุดของ Amazon ก็ไม่ได้รับการยกเว้น มีการลดตำแหน่งงานด้านการขายและการตลาดโฆษณากว่า 140 ตำแหน่งในสำนักงานนิวยอร์ก ซึ่งคิดเป็นประมาณ 20% ของตำแหน่งงานที่ถูกตัดออกทั้งหมดราว 760 ตำแหน่งในพื้นที่ดังกล่าว ตามข้อมูลจากเอกสารที่ยื่นต่อรัฐซึ่ง CNBC ได้ระบุ

 

หมายเหตุ : ใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 32.39 บาท ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2568

 

ภาพ: Photo Agency / Shutterstock

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising