ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วกับการเปิดให้บริการของ The Standard, Bangkok Mahanakhon ที่พักแห่งใหม่ล่าสุดในเครือ Standard International ที่มีกำหนดเปิดบ้านช่วง Q3 2565 และกำลังถูกจับตามองจากคนทุกวงการ ไม่ว่าจะด้วยโลเคชันสวยบนแลนด์มาร์กระดับประเทศอย่างคิง เพาเวอร์ มหานคร ความเฟี้ยวฟ้าวของแบรนด์ที่ชวนให้นึกถึงไอคอนิกอย่าง The Standard, High Line นิวยอร์ก ไหนจะการได้ Jaime Hayon ศิลปินและนักออกแบบชาวสเปนผู้ทรงอิทธิพลแห่งยุค ผู้ไม่เคยออกแบบโรงแรมไหนมาก่อนมาออกแบบเป็นครั้งแรก นั่นยังไม่รวมถึงร้านอาหารจีนในตำนานจากฮ่องกง Mott 32 และการยึดเอากรุงเทพฯ เป็นแฟล็กชิปในภูมิภาคเอเชียอีก
The Standard, Bangkok Mahanakhon มีอะไรดี ทำไมถึงน่าสนใจ และทำไมต้องกรุงเทพฯ ไม่มีใครตอบข้อสงสัยเราได้ดีเท่า Amar Lalvani ประธานกรรมการบริหาร Standard International หัวเรือใหญ่ผู้ดูแลเครือ The Standard และเป็นคนเลือกปักหมุดกรุงเทพมหานครเองกับมือ
บรรยากาศในห้องพัก
ทำไมต้องกรุงเทพฯ?
นี่คือคำถามแรกของเราสำหรับการเปิดสนทนากับ Amar Lalvani ประธานกรรมการบริหาร Standard International ว่าเหตุใดถึงเลือกปักหมุดกรุงเทพฯ แทนเมืองที่ศิวิไลซ์กว่าอย่างโตเกียวหรือโซล โดยได้คำตอบว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่สนุกและมีความหลากหลายสูง
“ผมชอบกรุงเทพฯ และมากรุงเทพฯ บ่อยครั้ง ผมเคยอยู่กรุงเทพฯ ช่วงปี 1998-1999 แล้วผมก็ตกหลุมรัก ก่อนช่วงโควิด กรุงเทพฯ เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลก มีความเป็นเมือง มีความศิวิไลซ์ ขณะเดียวกันก็มีความหลากหลาย เปิดกว้าง เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ผู้คนสามารถหาทุกอย่างได้ที่นี่ ทุกครั้งที่นึกถึงกรุงเทพฯ ผมจะรู้สึกถึงความสดใหม่ ความสนุก ความรื่นเริง และหนุ่มสาวออกมาสังสรรค์ ซึ่งตรงกับบุคลิกของ The Standard ประจวบเหมาะกับการที่เราได้พาร์ตเนอร์ดีอย่างแสนสิริ และคิง เพาเวอร์ อีกทั้งโลเคชัน คิง เพาเวอร์ มหานคร ซึ่งเป็นตึกไอคอนิก มีรูปร่างสวย แปลกตา มองเห็นได้ทั่วกรุงเทพฯ ยิ่งทำให้ที่นี่น่าสนใจและเหมาะกับการตั้งโรงแรม”
DNA ของ The Standard คืองานดีไซน์แบบโมเดิร์นที่สอดแทรกความสนุกไว้ทุกอณู นักพักผ่อนจะได้รับประสบการณ์อย่างไรบ้างในการเข้าพัก
“แต่ละแห่งจะมีงานออกแบบไม่เหมือนกัน สถาปัตยกรรมแตกต่าง แต่มีบางสิ่งที่ทำให้รู้ว่า ‘นี่แหละคือ The Standard’ เราไม่เคยกำหนดว่าโรงแรมเราต้องกี่ดาว ต้องเป็นแบบนี้ สไตล์นี้ เหมือนโรงแรมเชนอื่นๆ คุณจึงเห็นบางแห่งเราถูกจัดอยู่ในหมวด 4 ดาวบ้าง 5 ดาวบ้าง แต่เราใส่ใจในความสะดวกสบายเป็นสำคัญ แขกที่มาพักต้องผ่อนคลาย เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ได้ทำอะไรที่อยากทำ นั่นคือความลักชัวรีในแบบ The Standard
“สำหรับ The Standard, Bangkok Mahanakhon เราได้ Jaime Hayon ศิลปินและนักออกแบบชาวสเปน มาทำงานร่วมกับทีมออกแบบของ Standard International โดย Jaime Hayon ไม่เคยออกแบบโรงแรมอื่นมาก่อน ที่นี่เป็นที่แรก และน่าตื่นเต้นมาก ภายนอกเราไม่ได้ทำอะไรใหม่ เพราะเป็นโครงตึกที่สร้างมาแล้ว แต่ภายในเราตกแต่งใหม่ทั้งหมด ให้บรรยากาศแบบ Urban City และ Resort Hotel มีความสนุก เวลาเข้ามาแล้วจะให้ความรู้สึกราวกับหลุดไปอีกโลกหนึ่ง ตั้งแต่ล็อบบี้ไล่ไปจนถึง Rooftop Bar เรามีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก มี The Parlor ไว้นั่งดื่ม และมี DJ Music มี Ojo ห้องอาหารเม็กซิกันที่ได้เชฟ Francisco ‘Paco’ Ruano เชฟมากฝีมือ มาสร้างความอร่อย มี Sky Beach บนชั้น 78 ซึ่งเป็น Rooftop Bar ที่สูงที่สุดในประเทศไทย พร้อมวิวเมืองแบบ 360 องศา”
Ojo ห้องอาหารเม็กซิกัน
หลายโรงแรมมักสอดแทรกความเป็นไทยในงานดีไซน์ เช่น เอาวัสดุท้องถิ่นไทยมาทำเป็นของตกแต่ง ภาพถ่ายบ้าง ลวดลายกระเบื้องบ้าง สำหรับ The Standard, Bangkok Mahanakhon คุณสอดแทรกไว้ตรงไหนที่ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกว่านี่คือ The Standard, Bangkok Mahanakhon
“เราไม่ได้นำดีไซน์แบบไทยๆ มาใส่ในงานออกแบบโดยตรง สำหรับเราความเป็นไทยและตัวตนของกรุงเทพฯ สามารถตีความได้หลายแบบมาก สิ่งที่เราทำคือการจับมือกับศิลปินท้องถิ่นร่วมงานกันในแขนงต่างๆ เช่น ชุดยูนิฟอร์ม อย่างของหัวหินเราได้ VICKTEERUT มาออกแบบให้ หรือ DJ คนไทยมาร่วมงาน เราไม่ได้มองหาแบรนด์ไทยอย่างเดียว แต่เรามองหาความเป็นไทยจากตัวศิลปินที่สามารถร่วมมือกันได้ ซึ่งคุณจะเข้าใจและสัมผัสได้เมื่อเดินเข้ามาใน The Standard, Bangkok Mahanakhon”
The Standard Hotel หลายแห่งกลายเป็นโรงแรมไอคอนิกตามเมืองนั้นๆ คุณคิดว่า The Standard, Bangkok Mahanakhon จะเป็นแบบนั้นไหมและทำไม
“แน่นอน The Standard แต่ละที่มีเสน่ห์ต่างกันหมด คุณจะได้รับประสบการณ์ไม่เหมือนกันเลยในแต่ละแห่ง สำหรับ The Standard, Bangkok Mahanakhon เราพยายามนำสีสันและความสนุกใหม่ๆ มาสู่กรุงเทพฯ เหมือนที่เราทำมาแล้วกับหัวหิน ไม่ใช่แค่โรงแรม แต่เป็นประสบการณ์การใช้บริการ อย่างที่บอกข้างต้น ที่นี่มีห้องอาหารเม็กซิกันที่ดีและอร่อยมาก มี Rooftop Bar ที่มอบวิวอลังการของกรุงเทพฯ ในมุมที่สูงที่สุด มี Tea Room ที่ให้ความรู้สึกราวกับ Alice in a wonderland มี The Standard Grill ห้องอาหารอเมริกันบราสเซอรีที่นำนิวยอร์กซิตี้มาสู่กรุงเทพฯ เต็มๆ แถมงานดีไซน์ยังจัดจ้านและน่าตื่นตาจนน่าถ่ายรูปไปหมด”
สระว่ายน้ำวิวเมือง
ลงหลักปักฐานในเมืองไทยได้ประมาณครึ่งปี ผลตอบรับของ The Standard, Hua Hin เป็นอย่างไรบ้าง
“ถือว่ากระแสตอบรับดีมาก ช่วงวันหยุด The Standard, Hua Hin มีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 100% หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 70% ทั้งสัปดาห์ มีลูกค้าทั้งไทยและเทศ ลูกค้าต่างชาติที่รักในแบรนด์ The Standard ก็เริ่มเดินทางเข้าพักเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ตอนแรกที่ผมเลือกปักหมุดหัวหิน ทุกคนแสดงความกังวลมาก เพราะ Vibe ของหัวหินดูเป็นสถานตากอากาศของผู้สูงวัยและครอบครัว เรื่อยๆ ไม่หวือหวา The Standard, Hua Hin จึงถือเป็น Vibe ใหม่สำหรับที่พักในละแวกนั้น และผลตอบรับก็ดีเกินคาด”
นอกจากหัวหินและกรุงเทพฯ แล้ว คุณมองจุดหมายปลายทางอื่นๆ ในประเทศไทยอีกบ้างไหม?
“เรามองไว้หลายที่เช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นเมืองใหญ่และเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวนิยม เช่น ภูเก็ต สมุย เชียงใหม่ และพัทยา เนื่องจากใกล้กรุงเทพฯ แต่ทั้งหมดนั้นเรายังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นที่ใด”
หลังจากพูดคุยมาอย่างยาวนาน เรามีโอกาสเดินสำรวจโรงแรมใหม่ The Standard, Bangkok Mahanakhon ซึ่งแม้ยังไม่เสร็จดี แต่ก็สร้างความตื่นเต้นให้เราไม่น้อย
“แบรนด์ The Standard เป็นมากกว่าโรงแรมครับ เราไม่ใช่แค่ที่พัก แต่เป็นฮับของคัลเจอร์และไลฟ์สไตล์ เรามีที่พัก มีร้านอาหาร มีดนตรียามค่ำคืน มีงานศิลปะไว้เชยชม The Standard, Bangkok Mahanakhon กำลังจะเปิดช่วง Q3 2565 และผมอยากชวนคุณมาสัมผัส” Amar Lalvani กล่าวทิ้งท้าย
ใครสนใจหาดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The Standard, Bangkok Mahanakhon คลิกไปดูที่เว็บไซต์ standardhotels.com/bangkok/properties/bangkok ซึ่งโรงแรมพร้อมเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ และเชิญสัมผัสประสบการณ์ใหม่ได้ก่อนที่ Ojo ห้องอาหารเม็กซิกันที่ชั้น 76 และ Sky Beach บาร์รูฟท้อปบนขั้น 78 ที่จะเปิดพร้อมกันในวันที่ 8 มิถุนายนนี้
ภาพ: นวลตา วงศ์เจริญ, Standard International
