หุ้นของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ขยับปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 4% ในการซื้อขายระหว่างวันเมื่อวันอังคารที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทเปิดเผยรายงานผลประกอบการในไตรมาส 1/23 ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณการณ์กันไว้ก่อนหน้า
ทั้งนี้ รายงานผลประกอบการของบริษัทพบว่า รายรับของ Alphabet เพิ่มขึ้น 3% จาก 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า โดยช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทต้องเผชิญกับการเติบโตด้วยเลขหลักเดียวต่อเนื่องนานหลายไตรมาส สวนทางกับช่วงรุ่งเรืองที่บริษัทสามารถกอบโกยรายได้อย่างมหาศาล และดันให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- “ต้องฉลาด ประหยัด ขี้เหนียว เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอ Google กล่าวกับพนักงาน ในช่วงที่ต้องลดต้นทุนและเผชิญความไม่พอใจของทีม
- แค่ปลดพนักงานไม่พอ! Google ออกมาตรการ ‘รัดเข็มขัด’ ในส่วนของสวัสดิการ เปลี่ยน MacBook เป็น Chromebook – ปิดร้านกาแฟวันจันทร์และศุกร์
- ซันดาร์ พิชัย แม่ทัพ Google รับค่าตอบแทนในปี 2022 ด้วยมูลค่า 7.8 พันล้านบาท ซึ่งพนักงานที่มีรายได้ขั้นต่ำต้องใช้เวลาทำงาน 7,000 ปีถึงจะมีเงินเดือนเท่า
ขณะเดียวกัน เนื่องจากความวิตกกังวลว่าจะเปิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้บรรดาผู้ซื้อโฆษณาตัดลดงบการตลาดออนไลน์ ซึ่งถือเป็นหายนะของบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Google, Facebook และอื่นๆ ที่มีการพึ่งพารายได้จากการโฆษณาในระดับสูง
รายงานระบุว่า รายรับจากโฆษณาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่ลดลงจากปีก่อนที่ 5.455 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยรายได้จากโฆษณาบน YouTube ยังคงเป็นไปตามความคาดหวังของนักวิเคราะห์ ซึ่งลดลงจากปีที่แล้วเช่นกัน ส่วนรายได้จากการค้นหาและรายได้อื่นๆ ของ Google อยู่ที่ 4.036 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.962 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ รายได้ยังมาจากผลกำไรในธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งซึ่งเป็นคู่แข่งกับ Amazon และ Microsoft ที่ 191 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสแรกปีนี้ หลังจากขาดทุนถึง 706 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 ที่ผ่านมา
รายรับที่เพิ่มขึ้นนอกจากการฟื้นตัวรายได้จากโฆษณาแล้ว ยังเป็นผลมาจากการที่บริษัทดำเนินการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการปรับลดจำนวนพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท รวมถึงการเลิกจ้างพนักงาน 12,000 คน หรือประมาณ 6% ของพนักงานในเดือนมกราคม ขณะที่ในช่วงเดือนเมษายน ทาง Ruth Porat ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน Alphabet ยังประกาศปรับลดค่าใช้จ่ายของบริษัทเพิ่มเติม เช่น ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ การให้บริการของพนักงาน และอุปกรณ์ต่างๆ
กระนั้นในส่วนของรายได้สุทธิปรับตัวลดลงเหลือ 1.505 หมื่นล้านดอลลาร์ จาก 1.644 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปีก่อนหน้า
Microsoft รายได้โต 7% จากธุรกิจ Intelligent Cloud
ขณะที่หุ้นของ Microsoft วานนี้ (25 เมษายน) ขยับขึ้น 5% หลังจากที่ผู้ผลิตซอฟต์แวร์เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของปีงบการเงินที่สูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
แถลงการณ์ของ Microsoft ระบุว่า รายได้ของบริษัทโดยรวมเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม ขณะที่รายรับสุทธิอยู่ที่ 1.830 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9%
รายได้ที่เพิ่มขึ้นได้อานิสงส์จากรายได้ในส่วนธุรกิจ Intelligent Cloud ของ Microsoft ซึ่งรวมถึง Azure Public Cloud, Enterprise Services, SQL Server และ Windows Server โดยบริการตระกูลคลาวด์เหล่านี้สร้างรายได้ 2.208 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 16% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์จากการสำรวจของ StreetAccount คาดการณ์ไว้ที่ 2.194 หมื่นล้านดอลลาร์
ในส่วนของภาคการผลิตและกระบวนการทางธุรกิจซึ่งประกอบด้วย Dynamics, LinkedIn และ Office มีรายรับ 1.752 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 11% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 1.705 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะที่รายได้จากคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเพิ่มเติม ซึ่งมี Bing, Windows, Surface และ Xbox อยู่ที่ 1.326 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 9% แต่ยังมากกว่าที่ StreetAccount คาดการณ์ไว้ที่ 1.225 หมื่นล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์มองว่า แนวโน้มการเติบโตของบริษัทค่อนข้างเป็นไปในทางบวก หลัง Microsoft ประกาศการลงทุนใหม่มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ใน OpenAI และกล่าวว่าจะใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ของบริษัทสำหรับเสิร์ชเอนจิน Bing เวอร์ชันใหม่ และปรับปรุงซอฟต์แวร์ประสิทธิภาพการทำงาน Microsoft 365 ซึ่งจะมีส่วนในการสร้างรายได้ให้กับ Mircorsoft ได้อีกมาก
อ้างอิง: