อัลลา ปูกาเชวา (Alla Pugacheva) นักร้องหญิงป๊อปสตาร์ชาวรัสเซียวัย 73 ปี ผู้ได้รับฉายาว่า ‘ราชินีเพลงป๊อปแห่งโซเวียต’ ประณามการก่อสงครามในยูเครนของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน โดยกล่าวว่า เขากำลังฆ่าเหล่าทหารด้วยเป้าหมายที่ลวงตา พร้อมกับก่อภาระให้ประชาชนธรรมดา และกำลังเปลี่ยนรัสเซียให้กลายเป็น ‘รัฐนอกรีต’
ปูกาเชวา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนักร้องหญิงที่โด่งดังและได้รับความนิยมมากที่สุดของรัสเซีย ทั้งในยุคสหภาพโซเวียตและหลังการล่มสลายของโซเวียต ยังเรียกร้องให้รัฐบาลเครมลินขึ้นบัญชีเธอในฐานะสายลับต่างชาติ หลังจากที่สามีของเธอคือ แม็กซิม กัลกิน (Maxim Galkin) ถูกระบุชื่อในบัญชีดังกล่าว
“ฉันขอให้คุณรวมฉันไว้ในรายชื่อสายลับต่างชาติของประเทศที่ฉันรัก เพราะฉันยืนหยัดในความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับสามีของฉัน ผู้ซึ่งเป็นบุคคลที่ซื่อสัตย์และมีจริยธรรม ชาวรัสเซียผู้รักชาติอย่างแท้จริงและไม่มีวันเสื่อมคลาย ผู้ซึ่งปรารถนาเพียงความเจริญรุ่งเรือง สันติภาพ และเสรีภาพในการแสดงออกในบ้านเกิดของเขา” ปูกาเชวาโพสต์บอกกระทรวงยุติธรรมรัสเซีย และผู้ติดตามของเธอกว่า 3.5 ล้านคนบนอินสตาแกรม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 กันยายน)
ขณะที่เธอระบุว่า สามีของเธอต้องการให้ “ยุติการตายของเหล่าชายชาวรัสเซีย เพื่อเป้าหมายที่ลวงตาและทำให้รัสเซียกลายเป็นประเทศนอกรีต และสร้างภาระอันหนักอึ้งต่อชีวิตของประชาชน”
ปูกาเชวายังกล่าวว่า ชีวิตของชาวรัสเซียกำลังถูกสูบไปโดยความขัดแย้งนี้ ขณะที่เธอไม่ได้ใช้คำว่า ‘สงคราม’ แต่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเธอไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่รัฐบาลเครมลินเรียกว่า ‘ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร’
คำวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว ซึ่งมาจากหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในรัสเซียและเป็นที่รู้จักมายาวนานหลายสิบปี โดยมีเพลงฮิต อาทิ Million Scarlet Roses ในปี 1982 และมีผู้สร้างภาพยนตร์จากชีวประวัติของเธอ ถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากและอันตรายอย่างยิ่งสำหรับรัสเซียในยุคสมัยใหม่
ท่าทีของปูกาเชวายังบ่งชี้ถึงระดับความกังวลเกี่ยวกับสงครามยูเครน ที่เกิดขึ้นภายในกลุ่มชนชั้นสูงของรัสเซียด้วย
โดยนับตั้งแต่ที่ปูตินเปิดฉากทำสงครามเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ รัฐบาลเครมลินก็ดำเนินการกวาดล้างผู้ที่ต่อต้านและไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของรัฐบาล และมีการปรับเงินศิลปินหลายคนที่ออกมาวิจารณ์หรือต่อต้านสงคราม โดยสถานีโทรทัศน์กระบอกเสียงของรัฐเรียกบุคคลเหล่านี้ว่า ‘คนทรยศแผ่นดินเกิด’
แฟ้มภาพ: Sasha Mordovets / Getty Images
อ้างอิง:
