ไม่มีใครกล้าปฏิเสธแล้วว่า วิกฤตโควิดกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมของคนทั่วโลกหลายด้าน ที่เห็นชัดเจนคือ พฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้กลายเป็น Digital Consumer เต็มตัว โดยเฉพาะพฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ประเทศไทยครองอันดับ 3 ของโลก ถือเป็นสัญญาณที่ดีในช่วงที่ประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศสู่ Digital Economy
เมื่อช้อปปิ้งออนไลน์โต ย่อมหมายถึงการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น แบรนด์ต้องแข่งกันนำเสนอจุดขายและความแตกต่าง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าอยากเข้ามาช้อปปิ้งในแพลตฟอร์มของตน ดูเหมือนว่าประโยชน์ตกมาที่ผู้บริโภคก็จะมีทางเลือกที่หลากหลายขึ้น ช้อปสนุกขึ้น หรือถ้ามองใหญ่กว่านั้น นี่คือการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการกระตุ้นการใช้จ่ายนั่นเอง
AIS 5G ในฐานะ Digital Life Service Provider เชื่อมั่นว่า ฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเทคโนโลยีต่างๆ ให้เดินหน้าต่อได้อย่างไร้รอยต่อก็คือ เทคโนโลยี 5G, AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) การเปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ V-Avenue.Co ในรูปแบบ Virtual Mall หรือศูนย์การค้าเสมือนจริงแห่งแรกของโลก ที่ใช้เวลาพัฒนากว่า 12 เดือน นำเทคโนโลยี 5G และ VR มาผสมผสานกัน จำลองร้านค้าจริง สร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์รูปแบบใหม่ ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในห้างเลือกซื้อสินค้าและบริการต่างๆ แบบ VR 360 องศา จึงเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำขับเคลื่อนประเทศสู่ Digital Economy ด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในมือ
ทำไมเทคโนโลยี 5G และ VR จึงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่ Digital Economy
หลายปีก่อนน่าจะมีเพียงอุตสาหกรรมบันเทิงเท่านั้นที่มองเทคโนโลยี VR จะเข้ามาพลิกโฉมความบันเทิง ทว่า ตอนนี้มันกลายเป็นเทคโนโลยีที่สร้างมูลค่าในหลายอุตสาหกรรม ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และเมื่อผนวกรวมกับศักยภาพโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ที่เร็วขึ้น แรงขึ้น ส่งผลให้การเข้าถึงเทคโนโลยีเป็นเรื่องง่าย ภายในปี 2025 Goldman Sachs หรือธนาคารเพื่อการลงทุนรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ยังคาดการณ์ว่า ตลาดค้าปลีกที่มีการใช้เทคโนโลยีสร้างความเสมือนจริงจะเติบโตถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สอดคล้องกับรายงาน Seeing is believing: How VR and AR will transform business and the economy ของ PwC คาดการณ์ว่า เทคโนโลยี VR และ AR จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจโลกเติบโตถึงราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (45 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2573
แต่ Digital Economy จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง หากการเติบโตนั้นกระจุกตัวอยู่กับองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เองการเกิดขึ้นของ V-Avenue จึงไม่เพียงสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ให้เข้าถึงง่าย แต่ยังทำหน้าที่เป็นช่องทางเสริมให้กับผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยภายใน Virtual Mall เพื่อให้ภาคธุรกิจมีพื้นฐานเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง และยังสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็นฐานลูกค้า AIS กว่า 41.4 ล้านเลขหมาย เพราะถ้าคุณเป็นลูกค้า AIS การช้อปใน V-Avenue มากกว่าความสนุก คุณยังได้ประโยชน์และสิทธิพิเศษเหนือกว่าใคร
ปัจจุบัน AIS ได้พัฒนาเครือข่าย 5G ที่ครอบคลุมครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ด้วยปริมาณคลื่นมากที่สุดและเร็วที่สุด อีกทั้งตลอดเวลา 30 ปีที่ AIS ลงทุนไม่น้อยกว่า 1.1 ล้านบาทในการสร้างโครงข่าย Digital Infrastructure ที่แข็งแรง ด้วยความถี่มากที่สุดในไทยกว่า 1420 MHz ครบทั้ง 3 ย่าน ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน จึงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถของ V Avenue ให้เป็นพื้นที่การช้อปปิ้งเหมือนจริงด้วยศักยภาพโครงข่ายอัจฉริยะ 5G
เสริมความแกร่งด้วยพาร์ตเนอร์ที่หลากหลาย เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัล
จะทำธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากการมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ดีแล้ว จำเป็นต้องหาพาร์ตเนอร์ที่ช่วยผนึกกำลังเพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ไกลขึ้น กลายเป็นจุดแข็งของ V-Avenue เลยก็ว่าได้ เมื่อพันธมิตรธุรกิจภาคอุตสาหกรรมค้าปลีกชั้นนำที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน พร้อมใจกันเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนประเทศสู่ Digital Economy
ไม่ว่าจะเป็นบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด, บริษัท ซิตี้มอลล์ กรุ๊ป จำกัด (ดิ เอ็มโพเรียม), บริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด (มหาชน) และกลุ่มแบรนด์ไลฟ์สไตล์รีเทลชั้นนำ Loft, Jung Saem Mool, ALAND และ SMEs รายย่อยกว่า 210 ร้านค้า ครอบคลุมอาหาร เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ สินค้าไลฟ์สไตล์ และอีกมากมาย ทำให้ V-Avenue ได้รับความนิยมจากลูกค้า ในฐานะศูนย์รวมแหล่งศูนย์การค้าและแหล่งช้อปปิ้งสินค้าชั้นนำมากมาย
และเพื่อให้ V-Avenue เป็น Virtual Mall แห่งแรกของไทยที่เติมเต็มไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัล จึงขยายพื้นที่อย่างไม่จำกัดผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ สร้างถนนของการช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของสินค้าและบริการ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ และที่สำคัญคือการนำดิจิทัลเทคโนโลยีเข้าเสริมศักยภาพของภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกที่ต้องเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา เป็นที่มาของการจับมือกับ 3 พาร์ตเนอร์ใหม่ที่จะมาเติมเต็มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ทั้งสุขภาพ แฟชั่น และการกิน ได้แก่
- RS Mall: Multi-Platform Commerce ด้าน Health & Wellbeing เบอร์ต้นๆ ของประเทศ ต่อยอดความสำเร็จจากช่องทางหลักสู่การเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มออนไลน์แบบไร้รอยต่อ สร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ในการช้อปปิ้งผ่าน 5G จัดเต็มสินค้าราคาพิเศษกว่า 600 รายการ ทั้งผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงาม รวมถึงสินค้าวัตถุมงคล สินค้าแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่ง RS Mall จะออกแบบให้เป็นตึก 4 ชั้น ที่ให้คุณเพลิดเพลินกับการช้อปสินค้าหลากหลาย และยังได้เสพคอนเทนต์สุดพิเศษในโซน STUDIO ที่สำคัญลูกค้า AIS และขาช้อปทั่วไทย เมื่อซื้อสินค้าผ่าน V-AVENUE by AIS 5G ครบ 2,000 รับส่วนลดทันที 250-300 บาท
- Bar B Q Plaza: Virtual Restaurant แห่งแรกของโลก เป็นการขยายบริการจาก Retail สู่พาร์ตเนอร์รายแรกในธุรกิจร้านอาหารอย่าง ฟู้ดแพชชั่น ผู้นำธุรกิจร้านอาหารชั้นนำของไทย ส่งแบรนด์เรือธง Bar B Q Plaza แบรนด์แรกในเครือ ให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการเข้าร้านอาหาร และยังเป็นการยกระดับวงการธุรกิจร้านอาหารให้มีช่องทางใหม่ในการเข้าถึงลูกค้า ด้วยประสบการณ์ดิจิทัลผ่านเทคโนโลยี AIS 5G การออกแบบหน้าตึกโดดเด่นด้วยโทนสีเขียว เอกลักษณ์ของ Bar B Q Plaza มีพี่ก้อน มังกรน้อยสีเขียว มามอบความสุขผ่านมื้ออาหารให้กับลูกค้า Bar B Q Plaza ภายในตึกยังมีโซนร้านอาหารในเครือ ได้แก่ ฌานาและโภชา อีกด้วย จัดเต็มชุดเมนูสุดพิเศษ พร้อมสิทธิประโยชน์และส่วนลดมากมาย ลูกค้า AIS และ AIS Fibre พบดีล สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ส่วนลดค่าอาหาร 100 บาท เมื่อสั่งอาหารในราคา 750 บาทขึ้นไป ผ่าน V-AVENUE by AIS 5G (ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พฤศจิกายน 2564)
- CMG หรือเซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จับมือกันสร้างอาณาจักรแห่งการช้อปปิ้งบนโลกดิจิทัล เปิดประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ด้วยแนวคิด 5G Virtual Commerce เสริมความแกร่งด้วยแพลตฟอร์ม Omni-Channel สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่สะดวกสบายและไร้รอยต่อบน V-Avenue.Co จัดเต็มแบรนด์แฟชั่นและความงามระดับสากลมากมาย อาทิ Calvin Klein, Dyson, Casio, Clarins และ Lee เป็นต้น ด้วยรูปแบบอินเตอร์แอ็กทีฟที่ยกระดับการช้อปปิ้งออนไลน์อีกขั้น เสมือนยก ‘ห้างสรรพสินค้า’ มาไว้ในมือคุณ เตรียมขยายเฟสต่อ นำสินค้าแบรนด์ดังจาก Power Buy และ Supersports ให้ลูกค้าได้ช้อปปิ้ง เข้าถึงสินค้าและบริการแบบ Virtual Commerce เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยได้ทุกที่ ทุกเวลา
ความร่วมมือของ 3 พาร์ตเนอร์ใหม่นี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะเติมเต็มเป้าหมายให้ V-Avenue กลายเป็นแหล่งรวมศูนย์การค้าเสมือนจริงที่ใหญ่ที่สุด พร้อมผลักดันภาคค้าปลีก ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ให้เข้าถึงเทคโนโลยี เพื่อร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นและพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยในภาพรวม
จนถึงตอนนี้ยอดการเข้าชมห้างเสมือนจริง V-Avenue.Co มากกว่า 3 ล้านคนในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน ชี้ให้เห็นว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้น ไม่เพียงแต่การมีพาร์ตเนอร์ชั้นนำที่มาช่วยเสริมทัพในแง่ของการเป็นอีคอมเมิร์ซรูปแบบใหม่ของไทยแล้ว บทบาทของของดิจิทัลเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Virtual Reality หรือ VR นั้นจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจค้าปลีกได้จริง เพราะหากการคาดการณ์ของผลวิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน (e-Conomy SEA 2020) โดย Google, Temasek and Bain & Company ที่บอกว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของไทยเป็นธุรกิจดิจิทัลที่ขยายตัวมากที่สุด และคาดว่าจะสร้างมูลค่าสูงถึง 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2025 AIS ในฐานะ Digital Life Service Provider จะใช้ศักยภาพโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ที่เร็วขึ้น แรงขึ้น เพื่อให้การขับเคลื่อนเทคโนโลยีต่างๆ ให้เดินหน้าต่อได้อย่างไร้รอยต่อ
อ้างอิง:
- Digital Economy เศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย: https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/121-digital-economy-new-way-to-drive-thai-economics
- บทวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทย: https://www.depa.or.th/th/article-view/thailand-digital-economy-glance