วานนี้ (30 พฤศจิกายน) กีโยม ฟอรี ประธานกรรมการบริหารของ Airbus เปิดเผยว่า การเปิดตัวเครื่องบินปลอดคาร์บอนอาจล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากอุตสาหกรรมการบินยังขาดแคลนไฮโดรเจนสีเขียวสำหรับเป็นเชื้อเพลิง รวมถึงยังขาดโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นอื่นๆ ด้วย
ในการบรรยายสรุปเกี่ยวกับแผนการลดการปล่อยมลพิษของกลุ่มผู้ผลิตในยุโรปวานนี้ ฟอรียอมรับว่า เขามีความกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในโรงงานสำหรับผลิตไฮโดรเจนสีเขียวและเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) โดยอุตสาหกรรมการบินนั้นเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ลดการปล่อยคาร์บอนได้ยากที่สุด เนื่องจากเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในปัจจุบันยังไม่ก้าวล้ำมากพอที่จะขับเคลื่อนยานพาหนะอย่างเครื่องบินให้สามารถเดินทางในระยะไกลได้
ก่อนหน้านี้ Airbus กล่าวว่า ทางบริษัทตั้งเป้าที่จะใช้งานเครื่องบินปลอดคาร์บอนสำหรับให้บริการเที่ยวบินเชิงพาณิชย์แก่ลูกค้าทั่วไปภายในปี 2035 แต่วานนี้ ฟอรีกล่าวว่า การขาดแคลนเชื้อเพลิงดังกล่าว ‘อาจเป็นสาเหตุให้การเปิดตัวโครงการนี้ล่าช้าออกไป’ อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่ทำหน้าที่ผลิตและแจกจ่ายไฮโดรเจนสีเขียวยังอยู่เพียงขั้นแรกเริ่มของการพัฒนา
ปัจจุบันหลายบริษัทพยายามพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจน โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (28 พฤศจิกายน) บริษัท Rolls-Royce ของอังกฤษ และสายการบิน easyJet ประกาศว่า พวกเขาได้เริ่มทำการทดสอบเครื่องยนต์ของเครื่องบินที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนเป็นครั้งแรกของโลก ส่วน Airbus นั้นกำลังทำงานร่วมกับบริษัท GE ของสหรัฐอเมริกา และบริษัท Safran ผู้ผลิตเครื่องยนต์ของฝรั่งเศส เพื่อติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปไฮโดรเจนบนเครื่องบิน A380 ขณะที่ Boeing คู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของ Airbus ได้ดำเนินการทดสอบเทคโนโลยีไฮโดรเจนในเบื้องต้น แต่ทางบริษัทจะเน้นไปที่เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนมากกว่า
แฟ้มภาพ: Airbus Via CNN
อ้างอิง: