Airbnb รายงานผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาว่า บริษัทมีรายได้ 1.51 พันล้านดอลลาร์ เติบโตขึ้นถึง 70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากอานิสงส์ของการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวกลับมาตามสถานการณ์โควิดที่คลี่คลาย
โดยในไตรมาสที่ผ่านมามียอดจองที่พักบนแพลตฟอร์มของ Airbnb เกิดขึ้นมากกว่า 102 ล้านครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงแซงหน้าระดับก่อนโควิดไปแล้ว ขณะที่ในเดือนเมษายนยอดจองห้องพักก็ยังคงสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2019 ถึง 30% โดยการเข้าพักระยะยาวตั้งแต่ 28 วันขึ้นไปเป็นรูปแบบการเข้าพักที่เติบโตเร็วที่สุด
ไบรอัน เชสกี ซีอีโอของ Airbnb ออกมาระบุว่า การเติบโตทางธุรกิจของบริษัทในไตรมาส 2 นี้ยังคงมีทิศทางแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยคาดว่าบริษัทจะมีรายได้ราว 2.03-2.13 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้ที่ราว 1.96 พันล้านดอลลาร์
“มีคนหลายล้านคนที่ไม่ต้องกลับไปทำงาน 5 วันในออฟฟิศตามนโยบายใหม่ของนายจ้างที่อนุญาตให้พวกเขาทำงานจากที่ไหนก็ได้ กระแสที่เกิดขึ้นจะเป็นผลดีต่อธุรกิจของ Airbnb ในระยะจากนี้ โดยเราน่าจะได้เห็นการเติบโตในกลุ่มผู้จองห้องพักระยะยาวมากขึ้น” เชสกีกล่าว
นอกจากนี้ Airbnb ยังเปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวยูเครนว่า ปัจจุบันบริษัทได้มอบห้องพักฟรีเป็นการชั่วคราวให้กับผู้ลี้ภัยในยุโรปแล้วกว่า 14,000 คน โดยยังมีผู้ลี้ภัยสงครามที่ลงทะเบียนรอรับห้องพักอยู่อีกกว่า 34,000 คน
ขณะเดียวกันก็ยังมีผู้คนจากทั่วโลกที่เข้าไปจองห้องพักในประเทศยูเครนโดยไม่ได้เข้าไปพักอาศัยจริงๆ กว่า 6 แสนครั้ง เพื่อสนับสนุนรายได้ให้กับชาวยูเครน
อ้างอิง:
