×

ประกาศแล้ว พ.ร.บ. ผู้สูงอายุ ดึงภาษีบาป 2% 4 พันล้านต่อปี จ่ายเบี้ยยังชีพ

28.12.2017
  • LOADING...

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 โดยมีรายละเอียดระบุว่า

 

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่รัฐสภา คลิกอ่านฉบับเต็ม

 

มีสาระสำคัญคือ การนำเงินจากภาษีบาปได้แก่สุราและยาสูบ จำนวนร้อยละ 2 หรือไม่เกิน 4,000 ล้านบาทต่อปี นำส่งเข้ากองทุนเพื่อจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย โดยกำหนดให้คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติเป็นผู้กำหนดคุณสมบัติของผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ทั้งนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 30 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

 

ทั้งนี้ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้คือ โดยที่ปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ รัฐบาลจึงมีนโยบายและมาตรการในการดูแลผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย โดยการให้เงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย เพื่อให้ได้รับสวัสดิการที่จําเป็น 

 

แต่เนื่องจากกองทุนผู้สูงอายุที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายเกี่ยวกับการคุ้มครอง การส่งเสริม และการสนับสนุนผู้สูงอายุมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดําเนินการในเรื่องดังกล่าว

 

จึงสมควรเพิ่มบทบัญญัติเรื่องการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย และบทบัญญัติเกี่ยวกับที่มาของเงินกองทุนเพื่อให้รวมถึงเงินบํารุงกองทุนที่ได้รับจากผู้มีหน้าที่เสียภาษีสรรพสามิตในส่วนที่เกี่ยวกับสินค้าสุราและยาสูบตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต โดยให้เรียกเก็บเงินบํารุงกองทุนจากผู้มีหน้าที่เสียภาษีสรรพสามิตในส่วนที่เกี่ยวกับสินค้าสุราและยาสูบในอัตราร้อยละสองของภาษีที่เก็บจากสุราและยาสูบตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต และให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีดังกล่าวเป็นผู้มีหน้าที่ส่งเงินบํารุงกองทุน และให้กรมสรรพสามิตและกรมศุลกากรเป็นผู้ดําเนินการเรียกเก็บเงินบํารุงกองทุนเพื่อนําส่งเข้ากองทุน และในปีงบประมาณที่มีเงินบํารุงกองทุนส่งเข้ากองทุนเกินสี่พันล้านบาทให้กรมกิจการผู้สูงอายุนําเงินบํารุงกองทุนส่วนที่เกินนั้นส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

 

กําหนดให้คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติจัดสรรเงินบํารุงกองทุน และเงินที่มีผู้บริจาคเข้ากองทุน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย สําหรับจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์ดังกล่าว กําหนดกรณีการได้รับการยกเว้น ลดหย่อน หรือคืนเงินบํารุงกองทุน และกรณีที่ต้องเสียเงินเพิ่ม รวมทั้งเพิ่มบทกําหนดโทษ และการเปรียบเทียบคดี และแก้ไขเพิ่มเติมให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้รักษาการตามกฎหมายด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติที่เกี่ยวข้อง จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising