×

สมาคมฟุตบอลฯ นำเจ้าหน้าที่ AFC ตรวจสภาพสนามราชมังคลากีฬาสถาน เช็กความพร้อมเป็นเจ้าภาพศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี

20.02.2019
  • LOADING...

วันนี้ (20 ก.พ.) เวลา 11.30 น. พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้นำเจ้าหน้าที่จากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี เข้าตรวจสอบสภาพสนามราชมังคลากีฬาสถาน เพื่อปรับปรุงและแก้ไขตามกฎระเบียบ เรื่องการใช้สถานที่สำหรับจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติ

 

โดยการตรวจสนามในครั้งนี้ นำโดย ยูจินโฮ ฝ่ายจัดการแข่งขัน (ทีมชาติ), เชลตัน กูลการนิ ฝ่ายสื่อและประชาสัมพันธ์, เชง ยิง ได ฝ่ายจัดการแข่งขัน (ทีมชาติ), คูมาราซัน ชันดราน ฝ่ายการตลาดและพาณิชย์, โมฮาหมัด ราซากีดิน บิน ราซาลลี ฝ่ายบริการทั่วไป, ฟาดฮิล อัซรี บิน อิสมาอิล ฝ่ายออกแบบสนาม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมฯ ฝ่ายจัดการแข่งขันและฝ่ายต่างประเทศ

 

หลังการตรวจสอบสภาพสนาม พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยได้รับเลือกจากเอเอฟซี ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ประจำปี 2020 ในเดือนมกราคมปีหน้า วันนี้ทางเอเอฟซีได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจความพร้อมของสนาม ซึ่งเสนอไปสำหรับจัดการแข่งขันฟุตบอลทั้งหมด 6 สนาม ประกอบไปด้วย

  1. สนามราชมังคลากีฬาสถาน  
  2. สนามกีฬาสมโภช 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่
  3. สนามบางกอกกล๊าส สเตเดียม
  4. สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา
  5. สนามเอสซีจี สเตเดียม
  6. สนามฟุตบอลภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

“ซึ่งเจ้าหน้าที่เอเอฟซีจะตรวจสอบทั้งหมด 6 สนาม ว่ามีสนามใดผ่านข้อกำหนดหรือไม่ผ่านข้อกำหนดอย่างไร ซึ่งตรงกับนโยบายของการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ต้องการจะปรับปรุงสนามภายใต้การดูแลของการกีฬาแห่งประเทศไทยฯ จำนวน 3 สนาม คือ สนามราชมังคลากีฬาสถาน, สนามที่เชียงใหม่ และนครราชสีมา

 

“ก็เป็นโอกาสดีที่ทางเอเอฟซีได้สำรวจความบกพร่อง และแจ้งให้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยทราบ การแข่งขันฟุตบอลรายการนี้เป็นครั้งแรกที่จะจัดขึ้นที่ประเทศไทย ถือเป็นการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ เป็นหน้าเป็นตาของประเทศไทย เพราะฉะนั้น สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยลำพังไม่สามารถทำได้โดยปราศจากการช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งก็คือการกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงรัฐบาล ถ้าเราไม่สามารถทำได้ตามข้อกำหนดของเอเอฟซีได้ มีประเทศที่รอไทยพลาดโอกาสถึง 4 ประเทศ

 

“ถ้าเราทำไม่ได้ก็น่าเสียดาย เพราะว่าการจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้จะนำไปสู่การจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการอื่นๆ ที่ใหญ่ขึ้นไปอีก

 

“ทางเอเอฟซีก็บอกข้อกำหนดแล้ว แต่ทางที่ดีคือ ให้เขาให้การบ้านเรา และเราก็ ตอบโจทย์ตามที่เขาต้องการ ตอนนี้เราได้สิทธิ์แล้ว แต่ยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญา ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน ตอนนั้นเราต้องให้คำมั่นเขาว่า เราจะสามารถจัดการแข่งขันได้ตามข้อกำหนดของเขา

 

“หลายๆ อย่างเราดูจากความเป็นไปได้ทั้งหมด ทั้งเรื่องของแสงไฟส่องสว่าง ห้องพักนักกีฬา และสภาพสนาม รวมถึงที่นั่งในสนามด้วย หลังจากนี้ก็ต้องคุยกับทางเอเอฟซี คิดว่าเราสามารถทำงานภายใต้การกำกับดูแลของการกีฬาแห่งประเทศไทย การเลือกสนามส่วนใหญ่ เราจะดูเรื่องความเหมาะสมทั้งหมด

 

“เราจะมีการพูดคุยอีกครั้ง เพื่อเช็กการบ้านที่ทางเอเอฟซีมอบให้พวกเรา เราได้ตั้งคณะทำงานที่จะร่วมมือกันระหว่างสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และการกีฬาแห่งประเทศไทย ว่าจะทำตรงนั้นได้หรือไม่ เบื้องต้นในที่ประชุม ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยก็มั่นใจว่าสามารถทำได้

 

“เราทำการบ้านมา 2 ปีแล้ว ในเรื่องการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกรุ่นเยาวชน แต่ก็ขึ้นอยู่กับทางฟีฟ่าว่าจะเลือกประเทศใดเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะต้องยื่นข้อเสนอ ต้องแข่งขันกับประเทศอื่น ซึ่งถ้าหากเราได้จัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ฟุตบอลรายการอื่นๆ เราก็มีโอกาสมากขึ้น เพราะทำให้ฟีฟ่ามั่นใจขึ้น แต่ไม่ได้มีแค่ประเทศไทยประเทศเดียวที่สนใจ ส่วนใหญ่หลายประเทศต้องการจัดร่วม อย่างเช่น ฟุตบอลโลกที่บังคับว่าอย่างน้อยต้องมี 4 ประเทศเป็นเจ้าภาพ”

 

สำหรับเจ้าหน้าที่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียจะมีการตรวจสนามแข่งขันทั้ง 6 สนาม และสนามฝึกซ้อมทั้งหมดในช่วงระหว่างวันที่ 19-26 กุมภาพันธ์ 2562 และจะให้การบ้าน เพื่อให้ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และการกีฬาแห่งประเทศไทย นำข้อบกพร่องต่างๆ ไปทำแผนและปรับปรุง พร้อมส่งรายงานภายในเดือนเมษายน

 

จากนั้นทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะนำข้อเสนอแนะไปปรับปรุงในส่วนต่างๆ ให้ตรงตามข้อกำหนดของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย และจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้เอเอฟซีไปพิจารณาในช่วงเดือนพฤษภาคม

 

โดยทางเอเอฟซีจะคัดเลือกสนามแข่งขันที่มีความพร้อมมากที่สุดจำนวน 4 สนาม เพื่อใช้แข่งขันในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ต่อไป

 

สำหรับศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 จะแข่งขันในช่วงเดือนมกราคม 2563 และคัดเลือก 3 ชาติ ผ่านเข้าไปเล่นในมหกรรมโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ต่อไป

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising