วันนี้ (11 ก.ค.) เวลา 8.30 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน 10 ประเทศ และเลขาธิการอาเซียน เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ADMM) ครั้งที่ 13 พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับ พร้อมขอบคุณทุกประเทศสมาชิกอาเซียน และสำนักเลขาธิการอาเซียน ที่สนับสนุนการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ที่ผ่านมาจนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และยินดีที่การประชุม ADMM ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 10-12 กรกฎาคม 2562 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี
นายกรัฐมนตรีชื่นชมบทบาทเวที ADMM ที่มีผลลัพธ์เป็นรูปธรรมมาอย่างต่อเนื่อง และหวังให้เป็นกลไกหลักในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการทหาร และเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในระดับยุทธศาสตร์ ในการร่วมกันส่งเสริมความร่วมมือเพื่อความมั่นคงที่ยั่งยืน และขับเคลื่อนประชาคมการเมือง และความมั่นคงอาเซียน ให้สามารถรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงของภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทุกประเทศสมาชิกอาเซียนเห็นพ้องว่า ความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่างกระทรวงกลาโหม จะช่วยส่งเสริมความเป็นเอกภาพ และความเป็นแกนกลางของอาเซียน รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพให้มีความเข้มแข็ง จัดการกับความท้าทายด้านความมั่นคงของภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมในทุกมิติ
ในมิติของความมั่นคงนั้น เราจะร่วมกันเสริมสร้างประชาคมอาเซียนให้มีความมั่นคง เข้มแข็ง และมีความไว้เนื้อเชื่อใจ รวมทั้งสามารถจัดการกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่สำคัญของภูมิภาค เช่น การก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และภัยคุกคามทางไซเบอร์ เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของอาเซียนที่มีพลวัตและยั่งยืน ควบคู่ไปกับการมีเสถียรภาพทางสังคม
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การแก้ปัญหาภายในภูมิภาคไม่สามารถดำเนินการได้โดยประเทศเดียว แต่ต้องร่วมมือกันภายใต้กฎบัตรอาเซียน ซึ่งจะทำให้อาเซียนสามารถเจรจาต่อรองในเวทีโลก ด้วยการใช้ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ (one voice) เช่นในประเด็นการทำประมงที่ผิดกฎหมายฯ (IUU) ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบแต่เพียงด้านเศรษฐกิจและสังคม แต่มีผลกระทบด้านความมั่นคงต่อประเทศสมาชิกอาเซียน และประชาชนอาเซียนด้วย โดยสำนักงานเลขาธิการอาเซียนจะมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงทุกประเทศเข้าด้วยกัน
ในฐานะประธานอาเซียน ไทยมุ่งมั่นเสริมสร้างประชาคมอาเซียนให้มีความมั่นคง เข้มแข็ง และมีความไว้เนื้อเชื่อใจ สามารถจัดการกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงของภูมิภาคที่สำคัญ เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของอาเซียนที่มีพลวัตและยั่งยืน ควบคู่ไปกับการมีเสถียรภาพทางสังคม
ด้านรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา ในฐานะตัวแทนรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและประเทศไทย ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ADMM ที่ไทยในครั้งนี้ โดยทุกประเทศสมาชิกพร้อมกระชับความสัมพันธ์ และความร่วมมือด้านความมั่นคงอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากประเด็นด้านความมั่นคงถือเป็นมิติที่สำคัญ และเป็นพื้นฐานในการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์