×

ACE – เข้าสู่ช่วงการเติบโตรอบใหม่

21.03.2024
  • LOADING...
ACE

เกิดอะไรขึ้น:

กำไรสุทธิ 4Q66 ของ บมจ.แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ (ACE) อยู่ที่ 165 ล้านบาท (ลดลง 15%YoY และ 48%QoQ) โดยได้รับผลกระทบจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนและตราสารอนุพันธ์จำนวน 121 ล้านบาท กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติลดลง 20%YoY และ 11%QoQ สู่ 253 ล้านบาท เนื่องจากกำไรของโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน (MSW) ลดลงจาก 4Q65 เพราะมีการหยุดซ่อมบำรุงนานขึ้นที่โรงไฟฟ้ากระบี่และการสิ้นสุดช่วงระยะเวลาการได้รับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) สำหรับโรงไฟฟ้าขอนแก่น ในขณะเดียวกัน กำไรที่ลดลง QoQ เป็นผลมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงของโรงไฟฟ้าชีวมวล เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนพนักงานสูงขึ้น

 

ส่วนกำไรสุทธิปี 2566 ลดลง 16%YoY สู่ 1,100 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและตราสารอนุพันธ์ กำไรจากการดำเนินงานปกติลดลง 13%YoY หลักๆ เกิดจากกำไรที่ลดลงของโครงการโรงไฟฟ้า MSW เนื่องจากสิ้นสุดช่วงระยะเวลาการได้รับ Adder ต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นของโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล และต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากการกู้ยืมและการออกหุ้นกู้เพิ่มมากขึ้นเพื่อลงทุนในโครงการใหม่

 

แนวโน้ม 1Q67 และปี 2567 InnovestX Research คาดว่ากำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้น QoQ ใน 1Q67 อันเป็นผลมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นของโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลและ MSW โครงการโรงไฟฟ้า MSW มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงที่สุดในพอร์ตของ ACE โดยอยู่ที่ราว 55% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เทียบกับอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยที่ 30% กำลังการผลิตที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วของโครงการโรงไฟฟ้า MSW จะเพิ่มขึ้นรวม 18.9 MW ในปี 2567 โรงไฟฟ้า SPP Hybrid แห่งแรก (20 MW) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างทดลองเดินเครื่อง จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ใน 2Q67 โครงการโซลาร์ฟาร์มล็อตแรก (กำลังการผลิตตามสัญญา 35.4 MW) มีกำหนดเริ่มดำเนินการภายในเดือนธันวาคม 2567 และปี 2567 คาดว่ากำไรปกติจะเพิ่มขึ้น 29%

 

ACE ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ส่วนใหญ่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้แก่ โครงการโซลาร์ฟาร์ม กำลังการผลิต 92.7 MW โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล VSPP กำลังการผลิต 89.1 MW และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ กำลังการผลิต 59 MW ภายใต้โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ACE จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการเหล่านี้ในระยะ 4 ปีข้างหน้า และกำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นที่ CAGR 22% สู่ 569.7 MW ภายในสิ้นปี 2570 กำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 32.6 MW ยังอยู่ระหว่างรอลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับหน่วยงานการไฟฟ้า บริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนสำหรับโครงการเหล่านี้จากเงินกู้ยืมและเงินสดภายในกิจการ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลค่อนข้างจำกัดในระยะสั้น

 

ด้านฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโต ACE สามารถรักษาฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.4 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนอยู่ที่เพียง 0.3 เท่า (สิ้นปี 2566) ซึ่งคาดว่าอัตราส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะ 3 ปีข้างหน้า โดยมีสาเหตุมาจากการกู้ยืมเพิ่มมากขึ้นเพื่อใช้ลงทุนในโครงการใหม่ ซึ่งประเมินได้ว่า ACE ยังสามารถกู้ยืมเพิ่มได้อีกอย่างน้อย 10,000 ล้านบาท ก่อนที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนจะเกิน 1 เท่า ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถจัดหาเงินทุนมาลงทุนในโครงการทั้งหมดที่อยู่ในแผนได้

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น ACE ปรับลง 1.37% สู่ระดับ 1.44 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 0.45% สู่ระดับ 1,387.39 จุด 

 

กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:

หลังจากกำลังการผลิตแทบไม่เพิ่มขึ้นเป็นเวลา 3 ปี ACE ได้เข้าสู่ช่วงการเติบโตรอบใหม่ ซึ่งจะดำเนินต่อไปในอีก 4 ปีข้างหน้า กำลังการผลิตที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วของบริษัทจะเติบโตที่ CAGR 22% ในปี 2567-2570 หลังจากมีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโครงการส่วนใหญ่

 

แม้ว่าพัฒนาการล่าสุดจะเป็นบวกต่อแนวโน้มกำไรของ ACE แต่นักลงทุนยังคงไม่มีความสนใจลงทุนในหุ้น ACE เนื่องจากราคาหุ้น (-6% YTD) ยังปรับตัว Underperform SET (-3%) InnovestX Research เชื่อว่าตลาดจะรอจนกว่าจะมั่นใจว่า ACE จะสามารถรายงานกำไรที่เติบโตได้อย่างยั่งยืนและกลับมาจ่ายเงินปันผลอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโครงการใหม่ส่วนใหญ่ดำเนินการภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับหน่วยงานการไฟฟ้า จึงคงราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ไว้ที่ 3.6 บาทต่อหุ้น และให้คำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ ACE

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือความล่าช้าในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล VSPP ทำให้ต้องเลื่อนกำหนดเปิดดำเนินการและกระแสเงินสดเข้ามาล่าช้า, ต้นทุนวัตถุดิบของโรงไฟฟ้าชีวมวลสูงกว่าคาด, ต้นทุนการลงทุนสูงกว่าคาด และการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและทำให้รายจ่ายฝ่ายทุนเพิ่มขึ้น

 

ความเสี่ยง ESG ที่สำคัญคือผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจต่อชุมชนโดยรอบ รวมถึงการใช้ประโยชน์ที่ดินและการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising