ทรัพยากรจำกัดมักทำให้คนเราสร้างสรรค์สิ่งอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ ค่ายหนังเล็กและงบโปรโมตจำกัด บางครั้งก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคของการทำงาน แต่กลายเป็นแหล่งพลังชั้นดีในการคิดค้นหาวิธีการเอาตัวรอด จนกลายเป็นสไตล์แห่งการเชิญชวนคนดูที่ไม่เคยรู้จักหนังเล็กๆ แปลกๆ ให้ลองเข้ามาในโรงภาพยนตร์อันมืดมิด นั่นคือสิ่งที่บริษัท A24 ทำมาตลอดเกือบ 10 ปีที่เปิดบริษัท
ทบทวนกันสักเล็กน้อย A24 คือบริษัทที่สร้าง และจัดจำหน่ายหนังอย่าง The Lobster, Moonlight, Lady Bird, Room, Ex Machina, The Florida Project, Hereditary หรือล่าสุดกับ Midsommar หนังทุกเรื่องของค่ายนี้ล้วนเป็นหนังเล็กหนังแปลกที่ต้องออกแรงพาตัวเองไปสู่สายตาผู้ชมให้ได้มากที่สุด
วิธีการของ A24 นั้น พวกเขาไม่เคยใช้วิธีการปกติ มันไม่ปกติเสียจนกลายเป็นอีกชิ้นงานหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กับตัวหนัง ลองมาดูกันว่าพวกเขาเคยทำอะไรกันไปบ้าง
A24 Public Access
ขอเปิดด้วยผลงานล่าสุดที่ทางค่ายเพิ่งทำไปในชื่อของ A24 Public Access ที่เริ่มแรกผู้คนคิดว่าคงจะเป็นบริการ Streaming Service ของตัวค่ายเอง แต่ปรากฏว่าพอเริ่มเปิดตัว ทุกคนต่างช็อกกับโปรเจกต์ เพราะสิ่งที่ A24 ทำคือ พวกเขาจะฉายหนังในค่ายตัวเองบนบิลบอร์ดโฆษณาขนาดยักษ์ที่อยู่ตามมุมเมืองต่างๆ แล้วเปิดให้ทุกคนมานั่งชมกันได้โดยอิสระ (Public Access จริงๆ) มันเหมือนจะเป็นหนังกลางแปลงของไทย แต่อันนี้คือยิงกันบนบิลบอร์ดที่ใช้งานกันจริงๆ ไปเลย คนนั่งดูก็นั่งดูไป คนขับรถบนทางด่วนอาจจะชำเลืองตาได้หน่อย
งานนี้เริ่มเดือนนี้เลย และจะดำเนินต่อไปหกสัปดาห์ ฉายตามเมืองต่างๆ ที่มีบิลบอร์ดโดยจะเลือกจุดฉายให้เข้ากับหนังตัวอย่าง เช่น หนังเรื่อง Lady Bird ที่มีฉากหลังเป็นเมืองแซคราเมนโต หนังก็จะถูกฉายที่บิลบอร์ดเมืองนั้นเลย ถามว่ากิจกรรมนี้มีไปเพื่ออะไร มันก็ไม่ได้มีไปเพื่ออะไร มันแค่เป็นสิ่งที่อยากทำ และลองทำ
The Witch
หนังเรื่อง The Witch เป็นหนังสยองอินดี้ที่ไม่มีอะไรเป็นจุดแข็งจุดขายสักเท่าไร (แม้ว่าจะมี อันยา เทย์เลอร์-จอย แสดงนำ แต่นั่นก็คือหนังเรื่องแรกที่ทำให้เธอแจ้งเกิด) หนังว่าด้วยแม่มดที่มาจับตัวเด็ก และหายไปเหมือนในตำนานปรัมปรา ทาง A24 ก็คิดว่า มันจะขายยังไงวะ เซอร์ขนาดนี้
พวกเขาเลยเกิดไอเดียทำแคมเปญโปรโมตหนังร่วมกับกลุ่มลัทธิบูชาซาตานไปเลย ประมาณว่าลัทธิซาตานสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้นะครับ ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นที่พูดถึงทันที แม้ว่าจะมีผลข้างเคียงเล็กน้อยที่ทำให้ผู้กำกับ โรเบิร์ต เอกเกอร์ส ถูกหาว่าเป็นขบวนบูชาซาตานไปกับเขาด้วย จนมีปัญหาทำให้เข้าประเทศโปแลนด์เพื่อจะไปดูโลเคชันหนังเรื่องใหม่ไม่ได้ เพราะหน่วยงานรัฐที่ดูแลการถ่ายทำในโปแลนด์ไม่ต้องการสนับสนุนผู้กำกับซาตานอย่างเขา
A Ghost Story
คาแรกเตอร์นำของหนังเรื่อง A Ghost Story คือวิญญาณของชายหนุ่มที่มาในรูปแบบของผีผ้าห่ม (คือเอาผ้าห่มคลุมตัวแล้วเดินไปเดินมาจริงๆ ในหนัง) สิ่งที่ A24 สร้างขึ้นเพื่อโปรโมตหนังเรื่องนี้คือ ร้านขายผ้าที่ชื่อ A Ghost Store: The Fabric of Your Life ซึ่งเป็นร้าน Pop-up Store ที่จะขายผ้าห่มยามคุณต้องกลายเป็นผี (เซอร์ที่สุด) โดยเปิดร้านจริงๆ ให้คนเข้ามาซื้อได้ในนิวยอร์ก เมื่อเข้าไปแล้วก็จะมีพนักงานต้อนรับลูกค้า และพาพวกเขาไปทำกิจกรรมต่างๆ ภายใน เช่น ทำเซอร์เวย์ว่าด้วยความเข้าใจเรื่องเวลา หรือให้ลูกค้าได้ลองเข้าไปในห้องของชีวิตหลังความตาย และให้ลองสวมผ้าห่มกันได้
Hereditary
หนังสยองขวัญที่น่าจะคลาสสิกจากผู้กำกับ อารี แอสเตอร์ (เรื่องล่าสุดของเขาคือ Midsommar) ในช่วงเวลาหนังใกล้ฉาย ทางค่ายเชิญแขกและผู้กำกับท่านอื่นๆ มาดูหนังร่วมกันในรอบเที่ยงคืน แล้วก็จบไป ตัดภาพมาที่ตอนเช้า คนที่มาดูหนังรอบนั้นเปิดประตูบ้านและโรงแรมออกมา ก็จะเจอกับตุ๊กตาฟอร์มประหลาดๆ วางไว้หน้าบ้าน พร้อมกับข้อความบางอย่าง สร้างความเรียลทะลุจอให้กับผู้ที่ดูหนังไปแล้วมากๆ จนผู้กำกับ แบรี เจนกินส์ แห่ง Moonlight ทวีตฮาๆ ว่า พวกมึงเล่นกันแรงไปไหม
A24 Zine / Podcast
ในทุกๆ รอบที่มีหนังใหม่ฉาย ทาง A24 จะเชิญผู้กำกับมาทำซีนกันคนละหนึ่งเล่ม ว่าด้วยหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหนังเรื่องนั้นของตัวเอง เช่น ไมค์ มิลส์ แห่ง 20th Century Women ก็ทำซีนว่าด้วยปี 1979 หรืออย่างโจนาห์ ฮิลล์ ที่ทำหนังเรื่อง Mid90s ก็ทำหัวข้อ Inner Children นอกจากนั้นแล้วทางค่ายก็ไม่พลาดที่จะทำพอดแคสต์ด้วยเช่นกัน เป็นการจับคู่คนที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับหนังเรื่องนั้นมาพูดคุยกัน เช่น พาแบรี เจนกินส์ (Moonlight) มานั่งคุยเรื่องบ้านเกิดกับเกรตา เกอร์วิก (Lady Bird) ก็ถือเป็นทั้งการโปรโมต และการสร้างคอนเทนต์ที่สุดๆ มากเลย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์