ทีมกู้ภัยในพื้นที่ทางตะวันตกของรัฐนอร์ทแคโรไลนายังคงเร่งค้นหาผู้สูญหายหลายสิบคน หลังจากเฮอริเคนเฮเลนสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อหลายพื้นที่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ โดยคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 200 คน นอกจากนี้ยังทำให้ประชาชนนับพันไม่มีไฟฟ้าใช้และน้ำดื่ม
อิทธิพลของพายุเฮเลนยังสร้างความเสียหายต่อถนนหลายร้อยสาย และสะพานในเขตพื้นที่ภูเขาแอปพาเลเชียนตอนใต้ ทำให้ชุมชนในเขตห่างไกลถูกตัดขาดโดยไม่มีไฟฟ้าและระบบสื่อสาร
ทางการระดับท้องถิ่น รัฐ และรัฐบาลกลาง ร่วมมือกันเข้าไปในพื้นที่ชานเมืองบนภูเขารอบๆ เมืองแอชวิลล์ เพื่อเปิดเส้นทางและส่งสิ่งของจำเป็น เช่น อาหารและน้ำ ผ่านทางอากาศให้แก่ผู้ประสบภัย นอกจากการช่วยเหลือของทางการแล้ว กลุ่มอาสาสมัครที่นำโดยพลเมืองบนภูเขาของรัฐนอร์ทแคโรไลนายังช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยการส่งเสบียงผ่านทางเท้า เฮลิคอปเตอร์ และขบวนลาลากด้วย
ทั้งนี้ เฮอริเคนเฮเลนซึ่งพัดถล่มพื้นที่ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อหลายรัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ และกลายเป็นอีกหนึ่งพายุที่สร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากพายุเฮเลนขณะนี้อยู่ที่ 226 คน ทำให้เฮเลนกลายเป็นเฮอริเคนที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 1950 รองจากเฮอริเคนแคทรีนาในปี 2005 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 1,392 คน, พายุออเดรย์ในปี 1957 ซึ่งคร่าชีวิต 416 คน และพายุคามิลล์ในปี 1969 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 256 คน
ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้อยู่อาศัยในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้กำลังต่อสู้กับความเสียหายมหาศาลที่เกิดจากพายุ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างรุนแรง ตัวเลขความเสียหายเบื้องต้นจากลมและน้ำท่วมอยู่ระหว่าง 3.05-4.75 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจำนวนผู้ประสบภัยที่มีประกันน้ำท่วมมีน้อย ส่งผลให้การฟื้นฟูชุมชนหลังพายุจะเป็นเรื่องที่ยากขึ้น
ด้าน คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางเยือนพื้นที่ประสบภัยในรัฐนอร์ทแคโรไลนาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 ตุลาคม) เพื่อรับฟังรายงานเกี่ยวกับความคืบหน้าในการฟื้นฟูหลังพายุ ขณะที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางตรวจเยี่ยมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในรัฐฟลอริดาและจอร์เจียไปแล้วก่อนหน้านี้
ภาพ: Reuters
อ้างอิง:
