อีกไม่นานเกินรอ สาวกฮิปฮอปก็จะได้ไปสนุกสุดเหวี่ยงกับงานเทศกาลดนตรีฮิปฮอประดับโลกอย่าง Rolling Loud Thailand 2024 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 22-24 พฤศจิกายน ณ Legend Siam พัทยา ซึ่งปีนี้เป็นปีที่สองแล้วที่เทศกาลดนตรีฮิปฮอปนี้เริ่มเข้ามามีบทบาทในวงการดนตรีบ้านเรามากขึ้น และยังเป็นปีที่จะมีแรปเปอร์และศิลปินระดับโลกมาร่วมแสดงกันอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น A$AP Rocky, Wiz Khalifa, Ski Mask The Slump God ไปจนถึงศิลปินหญิงที่มาแรงสุดๆ ในปีนี้อย่าง Tyla และยังมีอีกมากมายที่พวกเขาเตรียมจะประกาศให้สาวกฮิปฮอปทราบกันเร็วๆ นี้
THE STANDARD POP จึงได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับ 2 ผู้บริหารคนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการจัดงานเทศกาลดนตรี Rolling Loud Thailand อย่าง CEO คุณมันนี่-ศิรวัฒน์ เทพเจริญ และ คุณเมย์-ดร.วาสนา อินทะแสง Executive Committee จาก More Money Entertainment ถึงแนวคิดในการจัดงาน มุมมองที่มีต่อเทศกาลดนตรี ไปจนถึงเซอร์ไพรส์พิเศษที่พวกเขาเตรียมไว้ในงานด้วยเช่นกัน
คุณเมย์-ดร.วาสนา อินทะแสง และ คุณมันนี่-ศิรวัฒน์ เทพเจริญ
ไอเดียเริ่มต้นของงานเทศกาลฮิปฮอป Rolling Loud Thailand คืออะไร
คุณมันนี่: เราเริ่มต้นจากไอเดียที่อยากนำคัลเจอร์ต่างๆ ในงานเฟสติวัลระดับโลกมาไว้ที่เอเชีย ผมได้เดินทางมารอบโลกแล้วเห็นวัฒนธรรมดนตรีต่างๆ หลากหลายที่เอเชียยังไม่มี มันเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมสนใจอยากนำ Rolling Loud มาที่ประเทศไทย
ชอบดนตรีแนวนี้อยู่แล้วหรือเปล่า
คุณมันนี่: ผมสนใจดนตรีทุกๆ สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น Hip-Hop, EDM, Techno, R&B แต่ชอบประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในเทศกาลดนตรีที่หลากหลายแบบมากกว่า ตอนนี้ในไทยก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังเป็นสเกลใหญ่ด้วย แต่ตอนนี้ที่ยังขาดก็จะเป็นฮิปฮอป ดังนั้นคิดว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับประเทศไทย
คุณมันนี่-ศิรวัฒน์ เทพเจริญ
3 หลักสำคัญที่ Rolling Loud Thailand ยึดถือในการทำงานเทศกาลดนตรีให้เกิดขึ้น
คุณเมย์: สิ่งแรกคือ ‘Best Experience’ การทำเทศกาลดนตรีมันเป็นเรื่องของการนำวัฒนธรรมที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นในเอเชียมาทำให้เกิดขึ้น การที่เราพาศิลปินกว่า 60 ชีวิต จากหลากหลายแห่งมาที่นี่คือการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ชม และเราอยากทำสิ่งนี้เป็นสิ่งแรกให้เกิดขึ้น ซึ่งมันมีการรวมกันหลายอย่างมาก ทั้งศิลปิน ลำดับการโชว์ การพยายามเข้าถึงทาร์เก็ตของผู้บริโภค แล้วคอนเสิร์ต Rolling Loud แต่ละที่ก็ไม่เหมือนกับ Rolling Loud Thailand เพราะเราจะมีเรื่องวัฒนธรรมไทยมาเกี่ยวข้องด้วยเหมือนกัน
อย่างที่สองคือความปลอดภัย งานจัดระดับแสนคน เราจะทำให้มันปลอดภัยที่สุดสำหรับคนดู แต่ก็จะมีความสนุกและความเต็มที่กับงานเช่นเคย และอย่างที่สามคือการนำวัฒนธรรมของบ้านเรามานำเสนอให้โลกได้เห็น เพราะภายในงานก็จะมีคนต่างชาติมาร่วมงานเหมือนกัน เราจะพยายามนำเสนอเรื่องวัฒนธรรม งานดีไซน์ของไทย อาหารไทย สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทย ให้พวกเขารู้จัก หลายคนมาไทยเพราะศิลปินที่มาในงาน ดังนั้นทุกๆ อย่างมันคือการส่งเสริมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยให้เชื่อมต่อเป็นสะพานไปยังธุรกิจอื่นๆ และยังเป็นเอกลักษณ์สำคัญของ Rolling Loud Thailand แต่ในขณะเดียวกันก็จะเป็นความท้าทายของเราด้วยเหมือนกันว่าจะทำอย่างไรให้คนเข้าใจคัลเจอร์ประเทศไทยผ่านงานดีไซน์ ลวดลาย หรือสัญลักษณ์ต่างๆ ที่อยู่ในงานของเรา
Rolling Loud จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้ว คิดว่าเทศกาลดนตรีในครั้งนี้จะเติบโตอย่างไรบ้างจากปีก่อน
คุณมันนี่: อันดับแรกคือการขยายความสนุกสนาน เรารวบรวมและปรับปรุงจากกระแสตอบรับเมื่อปีที่แล้วนำมาพัฒนาให้ดีขึ้น ทั้งเรื่องประสบการณ์ การเข้างานที่ไวและลื่นไหลมากขึ้น ลิสต์ศิลปิน และกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะปีนี้ที่เราจะเอาเครื่องเล่นใหม่ๆ มาไว้ในงาน แล้วขยายเวทีให้ใหญ่ขึ้นด้วย ส่วนกิจกรรมก็จะเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมไทยเยอะขึ้น
คุณเมย์: ว่าอย่างง่ายคือคมมากขึ้น มีศิลปินที่หลากหลายและโดดเด่น สำหรับเฮดไลเนอร์ Tyla, Wiz Khalifa, A$AP Rocky ก็เป็นศิลปินที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยเจอ แล้วศิลปินคนอื่นๆ ก็มีการขยายขอบเขตให้กว้างมากขึ้น ภาพรวมการเอ็นเตอร์เทนต่างๆ ก็จะดีมากขึ้น แล้วก็จะมีการจัด After Party ภายในงานด้วย รวมไปถึงสิทธิประโยชน์หรือความพิเศษก็จะมีอีก เพื่อให้ผู้ชมสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ ที่ดีที่สุด
คุณเมย์-ดร.วาสนา อินทะแสง
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำเทศกาลดนตรีปีที่แล้ว และเราจะนำมาเติมเต็มงานในปีนี้ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
คุณเมย์: มีเยอะเลย เป็นธรรมดาที่ทุกอย่างจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100% ปีแรกมันอาจจะมีผิดพลาดบ้าง แต่ปีนี้เราจะแก้ไขเรื่องการจัดการการเดินทางของรถให้ลื่นไหลมากขึ้น ไม่ให้แออัด ซึ่งปีที่แล้วเราจัดช่วงสงกรานต์ แต่งานฮิปฮอปคนแต่งตัวมากันเท่ก็ไม่อยากมีใครเปียกน้ำ เราก็เปลี่ยนมาเป็นหน้าหนาวแทน บรรยากาศน่าจะโอเคขึ้น
คุณมันนี่: ปีนี้เรามีกิจกรรมตั้งแต่กลางวันยันกลางคืนเลย แล้วเราก็ร่วมงานกับภาครัฐเพื่อจัดการทุกอย่างล่วงหน้า 3-5 เดือน เพื่อให้ทุกอย่างมันดีขึ้น ซึ่งพองานของเราไม่ชนสงกรานต์ ทุกอย่างก็ง่ายขึ้นทั้งในแง่ของพื้นที่และระบบความปลอดภัยจากตำรวจ และปีนี้เราจะมีการใช้เทคโนโลยีเครื่องนับต่างๆ จากงานในสหรัฐอเมริกาเข้ามาช่วยเรื่องคนเข้างาน ซึ่งงานนี้จะเป็นงานแรกในประเทศไทยที่ใช้เครื่องนี้ด้วย
Rolling Loud Thailand มีวิธีการเลือกศิลปินมาร่วมงานอย่างไร
คุณมันนี่: หลักๆ ดนตรีฮิปฮอปเป็นพระเอกอยู่แล้ว แต่เราก็จะแสดงให้เห็นว่ามันจะมีความหลากหลายด้วย ซึ่งเรารวบรวมจากฟีดแบ็ก โซเชียลมีเดีย และพาร์ตอื่นๆ อีกมากมาย แล้วสรุปได้ว่าศิลปินควรมีหลากหลายแนว ทั้ง R&B, Hip-Hop ที่มิกซ์รวมกับสไตล์ไทยๆ แล้วเราก็ชวนศิลปินเอเชียหลายคนเข้ามาร่วมงาน เพราะปกติแล้ว Rolling Loud จะเป็นศิลปินตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ แต่ของเราจะมีศิลปินจากเอเชียหลายคนเลย
คุณเมย์: แฟนเพลงฮิปฮอปก็มีหลายเจน มีทั้งวัยผู้ใหญ่แล้วก็วัยคนรุ่นใหม่ เราก็จะหาไลน์อัปที่ตอบโจทย์ทั้งสองกลุ่ม แล้วก็จะทำให้มันหลากหลาย แต่ก็จะคงความฮิปฮอปที่เป็นคีย์หลักของเรา และทำให้มันมีเสน่ห์มากขึ้น
ผู้ชมของ Rolling Loud มีคาแรกเตอร์แบบไหน
คุณมันนี่: ฮิปฮอป แฟชั่น นำเทรนด์ เจนใหม่
คุณเมย์: สังเกตได้จากการแต่งตัวเลย ทุกคนที่ไปเฟสติวัลนี้จะฮิปฮอปหมด ตามเทรนด์ศิลปินที่เขาชอบ สมมติว่าถ้าเป็น Nicki Minaj คนมาดูคอนเสิร์ตก็จะใส่สีชมพูทั้งหมด ถ้าเป็น Travis Scott ก็จะเป็นสีดำ บางคนก็ถึงกับเตรียมไอเท็มมาตามศิลปินที่เขาชอบเลย 2 โชว์ก็ 2 อัน สามารถบอกได้เลยว่าใครมาดูอะไรตามสไตล์การแต่งตัวของแต่ละคน
อะไรคือสิ่งที่ทำให้ Rolling Loud ต่างจากเทศกาลดนตรีอื่นๆ
คุณมันนี่: ทุกเทศกาลบนโลกนี้มันมีความเฉพาะตัวอยู่แล้ว แต่ Rolling Loud เป็นเทศกาลฮิปฮอปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นแฟนเพลงฮิปฮอปสายไหนก็ฟังได้ นี่คือความแตกต่างของเรา และยิ่งในไทย ก็จะยิ่งชูเรื่องวัฒนธรรมและกลิ่นอายความเป็นไทย ซึ่งจะให้ความรู้สึกที่น่าสนใจไปอีกแบบ
คุณเมย์: วัฒนธรรมเราเด่น อาหารและรอยยิ้มของเราเด่นที่สุด คำว่าสยามเมืองยิ้มเป็นเสน่ห์ของประเทศไทย และงาน Rolling Loud Thailand ก็มีความเป็นไทยที่หลากหลายมาก ทั้งเรื่องมวยไทย ช้าง อาหาร หรือมาสคอตจากตัวละครที่คนไทยคุ้นเคยกันดีก็จะกลายเป็นกิมมิกที่น่าสนใจในงานนี้ ซึ่งภาพรวมของงานต่างๆ มันจะดูสนุกขึ้น
เซอร์ไพรส์ใหญ่ที่อยากให้ผู้ชมรอติดตามกันจาก Rolling Loud Thailand
คุณมันนี่: ศิลปินเฮดไลเนอร์คนใหม่เซอร์ไพรส์แน่นอน คาดว่าจะมาเร็วๆ นี้แล้ว ประมาณต้นเดือนกันยายนก็จะประกาศ Full Line Up เช่นเดียวกัน เราเชื่อว่าเราพยายามสรรหาคนที่ว้าวที่สุดให้กับคนดู และเราก็ทำงานหนักเพื่อค้นหาว่าศิลปินกลุ่มไหนจะตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด แต่เราก็จะพยายามเอาใจสาวกฮิปฮอปชาวไทยว่าอยากเจอหรืออยากเห็นอะไรด้วย
ก้าวต่อไปของ Rolling Loud Thailand
คุณเมย์: เราอยากให้มันเป็น Soft Power ของประเทศไทย หรือเป็นงานที่จะเชื่อมโยงกับธุรกิจอื่นๆ รวมทั้งการเป็น Rolling Loud แห่งเอเชีย ทำให้คนภูมิใจว่าเราสามารถจัดงานระดับโลกได้ Rolling Loud Thailand มีที่เอเชียและคนไทยทำได้ และคุณสามารถมาที่นี่ได้ แม้มันไม่ใช่งานของพวกเราทั้งหมด แต่เราคือเจ้าภาพที่ต้อนรับศิลปินระดับโลก รวมทั้งแขกอีกมากมายกว่าแสนคน นี่คือที่สุดของเรา เราว่ามันคือแพสชันที่เกิดขึ้นแล้ว และเราทำมันเกิดขึ้นจริง ซึ่งเราภูมิใจ และอยากจะให้มันเป็นที่สุดของเอเชีย
คุณมันนี่: ประเทศไทยสามารถเป็นมาตรฐานได้ สามารถมาดูงานระดับนี้ได้ในไทย แล้วมันจะเป็นงานที่ทุกคนจะต้องไปในทุกๆ ปี และรู้สึกว่ามันพลาดไม่ได้ ซึ่งทุกครั้งที่เราไปงานเทศกาลดนตรีที่ไหนก็ตามบนโลก เราเจออะไรใหม่ๆ เราก็จะเอาส่วนนั้นมาปรับใช้ในงานของเรา มันจะดีขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วเราก็จะพยายามทำแบบนี้ในทุกๆ ปี มันอาจจะไม่ได้มาตู้มรอบเดียว อาจจะค่อยเป็นค่อยไป แต่มันจะพิเศษขึ้นแน่นอน